ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสี

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต Group Sitting 2025-07-27


Listen Later

มีผู้สนใจในการปฏิบัติส่งคำถามว่า :

การเคลื่อนไหวในสื่อทุกวันนี้ พระอาจารย์คิดเห็นอย่างไร

เพื่อจะไม่ให้จิตของผู้ที่ยังมีอินทรีย์อ่อน

จะได้ไม่ต้องไปเสพอยู่กับสื่อที่ทําให้จิตต้องเศร้าหมอง

ก็บอกว่า :

เมื่อสถานการณ์มันเกิดขึ้นนะ วิกฤติมันเกิดขึ้น เขาบอกว่าวิกฤตไม่ใช่ความเลวร้าย

วิกฤตไม่ใช่เป็นการปิดโอกาส ​ ความหมายรากศัพท์จริง ๆ หมายถึงว่าเปิดโอกาสใหม่

เหมือนกับเส้นทางที่เราเคยเดินมาชั่วนาตาปี ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติก็เดินมาอย่างนี้

มาถึงจุด ๆ หนึ่งเส้นทางที่เราเดินไปถึงหน้าผาสูงชัน เหวลึกมากมองไม่เห็นข้างล่างเลย

นั่นล่ะเขาเรียกว่าวิกฤตเดินต่อไม่ได้ เดินกลับก็กลับไม่ได้แล้ว

เหมือนสิทธัตถะเกิดวิกฤตครั้งแรก ที่พระองค์ท่านแจ่มแจ้งกับเห็นเทวทูตทั้ง ๔

อยู่ไม่ได้แล้วในวัง วิกฤตอันนี้มันยิ่งใหญ่มาก

นั่นก็เลยทําให้พระองค์ท่านเปลี่ยนเส้นทาง

คือเดินตรงต่อไปไม่ได้แล้วมันตกหน้าผาแน่นอน

ความตายไม่ซ้ายก็ขวาละ กลับมาที่เดิมก็ไม่ได้อีก

แล้วพระองค์ท่านก็มาพบกับวิกฤตอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากทรงทดลองใช้อัตตกิลมถานุโยคทรมานพระวรกาย

หน้าผาอีกแล้ว เผชิญวิกฤตอีกแล้ว

เส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับได้ไปต่อนี่ตายแน่นอน เอ๊ะแล้วยังไงอ่ะ

ญาณทัศนะองค์ความรู้ที่ผุดขึ้นมาว่าจะต้องอาศัยฌานจิต

อาศัยปีติและสุขที่เคยมีประสบการณ์ อันเคยได้สัมผัสแล้ว

แล้วสภาวะแบบนั้นน่ะ จะสัมผัสได้ยังไงในขณะที่กายนี่มันยังหิวโหยอยู่

สภาพของร่างกายที่เป็นอยู่แบบนี้ จิตจะไปสัมผัสกับสภาวะแบบนั้นไม่ได้

มีแต่ทุกขเวทนา ! โอกาสใหม่มาแล้ว

วิกฤตนี้หมายถึงมันจะเปิดมุมมองใหม่ อะไรใหม่ที่มันใช่

นั่นหมายถึงที่เราไปนิยามว่าตัวเองเป็นชาวพุทธ วิกฤตเกิดขึ้นแล้วจะพึ่งอะไร

ตามจอตามสื่อมีแต่เรื่องเศร้าหมอง ไปไม่เป็น วิกฤติมันเกิดแล้ว

จะต้องมีองค์ความรู้ที่มาประสิทธิ์ประสาทตัวเองมากกว่านี้สิ

องค์องค์ความรู้ของพุทธะ

มิใช่ว่าเมื่อได้ยินได้ฟังมาแล้ว มิได้ตระหนักว่าสมาธิคืออะไร ปัญญาคืออะไร

การเกิดการดับคืออะไร อุปทานคืออะไร ตัณหาคืออะไร ก็ยังไม่รู้

เราเอาตัวตนของเราไปฝากฝังไว้กับความเชื่อกับบุคคลหนึ่ง

เมื่อความเชื่อในรูปแบบแบบนั้นพังทลาย ไปต่อไม่ได้ ตัวตนก็หวั่นไหวใช่ไหม

นิยามว่าเราเป็นใครล่ะ มีความสัมพันธ์ระหว่างเรากับรูปแบบอะไรสักอย่างหรือเปล่า

มาถึงตรงนี้แล้วก็สะท้อนได้ว่า เราไม่มีที่พึ่งนะ

เราพึ่งบุคคลหรือเปล่า เราใส่ใจกับคําสอนที่พระองค์ท่านตรัสว่า

ผู้ใดเห็นธรรมพวกนั้นเห็นเราไหม ผู้ใดเคารพธรรมผู้นั้นก็เคารพพุทธะ

จงให้ความสําคัญกับธรรมะ จงแจ่มแจ้งกับกฏแห่งความเป็นจริง ​

โดยข้ามพ้นเรื่องบุคคลเรื่องตัวตนเรื่องรูปแบบ

ตัวตนบุคคล รูปแบบ จารีตเหล่านั้น นํามาซึ่งคําว่าศาสนา

นำมาซึ่งความเชื่อประเพณี ที่หล่อหลอมมาเป็นอัตลักษณ์ตัวตน แต่ละมุมของโลกใบนี้

มีสัญลักษณ์มั้ยน่ะ ธรรมะ ?

เราก็เข้าใจชัดกัน เมื่อกี้มันเกิดมันดับ ไหนล่ะสัญลักษณ์ ?

ปรากฏเพียงชั่วขณะก็ดับไป ไหนล่ะศาสนา ไหนล่ะบุคคล ไหนล่ะรูปแบบ

ยากไหม กับความจริงที่กําลังปรากฏ ! ท้าทายมาก

ท้าทายต่อการพิสูจน์ว่า ท่านทั้งหลายจงมาดูเถิดสิ่งมหัศจรรย์

ดูแล้วดําเนินไปแล้ว ก็จะเกิดความมหัศจรรย์ ทุกข์น้อยลง ยึดติดน้อยลง

จนกระทั่งว่าไปสู่อิสรภาพที่สมบูรณ์ จะมีอะไรมากกว่านั้นมั้ย

เคารพในธรรม เทิดทูนในธรรม

ให้ความสําคัญกับธรรม จงมีธรรมเป็นที่พึ่ง

นี่ก็เป็นข้อคิดสําหรับญาติธรรมบางท่านที่ยังหวั่นไหวอยู่

-- ปิยทัสสี ภิกขุ --

ศูนย์วิปัสสนาวัดถ้ำดอยโตน

เพจผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมวัดถ้ำดอยโตน

Group Sitting 27-07-2025

https://youtu.be/AImM30H1gw8

...more
View all episodesView all episodes
Download on the App Store

ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสีBy Mowakee Forest