ตอนนี้จะชวนมาอ่านบทที่ ๙ ของตำรา Human Physiology ของ Vander, Sherman & Luciano (Windmaier, Rahh & Strang) สำนักพิมพ์ McGraw Hill ฉบับที่ ๑๓ (ISBN-978-0-07-337830-5) เล่มนี้เป็นตำราพื้นฐานสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยเรียนสรีรวิทยาเมื่อก่อน ฯ
บทที่ ๙ เล่าถึงกล้ามเนื้อ ซึ่งกล้ามเนื้อนั้นมีสามประเภท ได้แก่ กล้ามเนื้อโคงร่าง กล้ามเนื้อเรียบ และกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจากทบเป็นค่อนข้างยาว จะนำมาคุยเพียงแค่กล้ามเนื้อโคงร่าง ฯ
กล้ามเนื้อโคงร่างนั้นประกอบด้วยเซลล์ที่มีนิวเคลียสหลายตัว มาจากการหลอมรวมของเซลล์ myoblast ในตัวอ่อน เซลล์กล้ามเนื้อมีเซลล์ดาวเทียม (satellite cells) เป็นบริวาร ซึ่งจะช่วยซ่อมกล้ามเนื้อเมื่อถูกบาดเจ็บ ฯ
บทจะอธิบายโครสร้างที่มีลักษณะเป็นลายของกล้ามเนื้อ ซึงเมื่อเข้าใจลักษณะเป็นลายนั้นจะมีประโยชน์เพื่อเข้าใจการทำงานของกล้ามเนื้อด้วย ในกล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอนจะเห็นสองแถบชัดเจน อาทิ แถบ A และ แถบ I สองแถบนี้มาจากใยลวดโปรตีน ใยลวดหนาประกอบด้วยโมเลกุล myosin และใยลวดบางประกอบด้วยโมเลกุล actin และ titin ซึ่งโมเลกุล titin นั้นเป็นเส้นที่จับกับ myosin และอีกปลายหนึ่งจับกับ เส้น Z
ส่วนใยลวดบางประกอบด้วยโมเลกุล ๓ ชนิด คือ actin, tropomyosin และ troponin ฯ
กลไกที่ใยลวดทำให้เซลล์หดตัวสามารถศึกษาในรูปที่ ๘ ของบท ฯ
ต่อไปมาพูดถึงสัญยาณจากผิวเซลล์กล้ามเนื้อที่ไปกระตุ้นใยลวดให้หดตัว จำเป็นที่ต้องมีแคลเซียม แต่ในสภาวะพักแคลเซียมเก็บเอาใว้ภายใน sarcoplasmic reticulum ดังนั้นต้องมาดูผิวของเซลล์กล้ามเนื่อก่อรูปแบบเหมือนกับถุงมือที่นำออก จะมีนิ้วมือไปข้างในเรียกว่า T-tubule ปลายนิ้วมีโปรตีน dihydropiridine receptor ติดกับ ryanodine receptor บน sarcoplasmic reticulum ดังนั้นสัญญาณไฟฟ้าใน T-tubule สามารถนำแคลเซียมออกไปในไซโตพลาซึมได้ ฯ
บทมาอธิบายถึงบริเวณที่ปลายประสาทติดต่อกับกล้ามเนื้อ และอธิบายเกี่ยวกับหน่วยงานหรือ motor unit ประกอบด้วย motoneuron และเซลล์กล้ามเนื้อทุกเซลล์ที่ไปติดต่อ ฯ
มีคำอธิบายเกี่ยวกับการใช้พลังงานในเซลล์กล้ามเนื้อและบอกถึงการแบงชนิดเซลล์กล้ามเนื้อแล้วแต่เมตาบอลิซึม ฯ
มีคำพรรณนาโรคสำคัญของกล้ามเนื้อ ๔ โรค myasthenia gravis เป็นต้น ฯ
ขณะศึกษาบทควรมาตรวจสอบข้อสรุปท้ายบท นอกจากนี้บทมีรายการศัพท์สำคัญในบท และมีคำถามท้ายบท ๓๒ คำถาม ควรตอบเป็นข้อเขียนอย่างละเอียด ๚ะ๛