"(ปุจฉา: ธรรมะจะช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้อย่างไร?
"..ช่วงเวลาที่จิตมันหดหู่ซึมเศร้า ไม่ใช่ช่วงเวลาของการฝึกสมาธิ
การเจริญสติ การฝึกสติ กับ การทำสมาธิมีความต่างกัน
ฝึกสติ ในกายในการเคลื่อนไหวรู้เนื้อรู้ตัวทำความรู้สึกตัวอยู่กับเรื่องกายภาพ การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การสัมผัสรับรู้ความรู้สึกต่างๆ
ส่วนสมาธินี้เป็นเรื่องของการวางกาย เข้าถึงความสงบภายใน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงเมื่อจิตที่หดหู่ซึมเศร้าลงไป ก็จะไม่ใช่ช่วงเวลาของการเจริญสมาธิ อันนี้พระองค์จะตรัสถึงเรื่องของโพชฌงค์ 7 แล้วก็ทรงแบ่งไว้ว่านะ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ความสงบผ่อนคลาย สมาธิความสงบตั้งมั่นและอุเบกขาความเป็นกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่สำหรับผู้ที่จิตมีความหดหู่ซึมเศร้าไม่ใช่ช่วงเวลาของการเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ไม่ใช่ช่วงเวลาเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ ไม่ใช่ช่วงเวลาของการเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
พระองค์ก็ทรงอุปมาว่า เปรียบเหมือนไฟที่มันหรี่เหมือนมันจะมอดอยู่แล้วเนี่ยมันริบหรี่เต็มที ถ้าเราเอาหญ้าใบไม้ ปกติพวกหญ้าพวกใบไม้กิ่งไม้มันก็จะเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟลุกโชนใช่ไหมล่ะ เติมเชื้อเข้าไป แต่ว่าถ้าเราเอาหญ้าเอาใบไม้เอากิ่งไม้ที่มันมีความชื้น เปียกน้ำมันมีความชื้นใส่เข้าไปเป็นไงแทนที่มันจะลุกโชนมันดับเลยทีนี้
ฉันใดจิตที่กำลังหดหู่ซึมอยู่ไม่ใช่ช่วงเวลาของการฝึกสมาธิ แต่คือช่วงเวลาของการออกมาใช้ชีวิตออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมสัมผัสต่างๆ
..เจริญสติสัมโพชฌงค์ การระลึกรู้กาย การทำความรู้สึกตัวให้มาก อันนี้แก้อาการเปลี่ยนจากจิตที่หดหู่ซึมเศร้าเป็นจิตที่ตื่นรู้เบิกบานขึ้นมาได้
..เป็นช่วงเวลาของเจริญธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ก็คือ การเลือกเฟ้นพิจารณาธรรม
อย่างสัมปชัญญะนี่ก็เป็นเรื่องของปัญญา การมีปัญญาพิจารณาธรรม เห็นกายเห็นใจ
..หรือการออกมาทำกิจกรรมและการทำความดีการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
..หรือการมาสัมผัสบรรยากาศของความสงบของธรรมชาติต่างๆ ก็เรียกว่าให้ออกมาใช้ชีวิต
อย่างนี้ เป็นช่วงเวลาของสติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ เวลาทำความดีหรือฝึกสติสัมปชัญญะความรู้สึกตัวขึ้นมา ใช้ชีวิตให้ถูกต้อง มันจะเกิดปิติเกิดความอิ่มเอิบใจขึ้นมา ปีตินี้แหละเป็น ธรรมโอสถ ที่จะเยียวยาร่างกายและจิตใจให้ฟื้นฟูกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ เกิดความรู้สึกดีเกิดปราโมทย์เกิดความร่าเริงเบิกบานเกิดปีติเกิดความอิ่มเอิบใจขึ้นมา ก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งมีจิตใจที่ร่าเริงเบิกบานอีกครั้ง
ก็จะหลุดจากอาการซึมเศร้า จิตหดหู่
เพราะฉะนั้น ก็ออกมาใช้ชีวิต ฝึกสติทำความรู้สึกตัวเคลื่อนไหวทำกิจกรรมปลูกผักทำสวนออกกำลังกาย ไปทำความดีต่างๆ พบปะผู้คน ไปสัมผัสความสงบร่มรื่นของธรรมชาติ ไปทำกิจกรรมพวกนี้ให้ออกมาให้ออกมามันจะพลิกจิตที่ซึมเศร้าหดหู่เป็นจิตที่เบิกบานมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ พอจิตปกติแล้วทีนี้ถึงค่อยไปฝึกสมาธิอย่างนี้ได้.."
…………………………
ถ่ายทอดธรรมโดย
พระอาจารย์มหาวรพรต กิตฺติวโร
ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
เช้า 26 ธันวาคม 2566
#ซึมเศร้า #จิตหดหู่ #ธรรมโอสถ #ฝึกสติ #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต
ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree