คอร์สอานาปานสติ วัดป่าไม้แดง จ.เชียงใหม่ วันที่ 10-14 ธ.ค. 65 นำปฏิบัติโดย พระกิตติวิมลเมธี (สุชีพ สุธมฺโม) วัดบุปผาราม กทม.ณ สำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าพุทธชยันตี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
การเจริญอานาปานสติทำให้เราได้
- ปัญญาอันหยั่งรู้ในการขัดเกลาความหนาของกิเลส หนาด้วยราคะ หนาด้วยโทสะ หนาด้วยโมหะ ถ้าเราทำความรู้ในอานาปานสติอย่างต่อเนื่อง แค่ถึงลมสั้นบ่อยๆ จิตผู้รู้มีกำลังแข็งแรง สติสัมปชัญญะตั้งขึ้น ตัวสติสัมปชัญญะจะทำให้หิริโอตตัปปะ อินทรียสังวรณ์ ศีลมีกำลังโดยที่เราไม่รู้ตัว ตัวที่จะถูกขัดเกลาคือตัวที่มันหนา ยังมีกิเลส ยังโกรธอยู่ มีราคะ มีโมหะ แต่ส่วนที่หนาออกไปจะถูกขัดเกลาออกไปโดยอัตโนมัติ เกิดจากการต่อเนื่องหยั่งรู้ของญาณในอานาปานสติ
- เดชที่เกิด ความประพฤติชั่วช้าถูกปราบด้วยศีลเดช
- ช่องทางที่นำเราไปสู่ภพภูมิที่ดี
สีเลนะ โภคะสัมปะทา มีการใช้สอยทรัพย์อย่างเป็นปกติ ถูกต้อง มีความสุข สบายใจ ไม่ต้องระแวง
สติสัมปชัญญะจะทำให้เรามีปัญญาในการมีท่าทีต่อการหา การใช้อย่างถูกต้อง
ในสังสารวัฏมี 31 ภูมิ ในภพภูมิเหล่านี้ คนที่เจริญสติ พัฒนาสติปัญญา เดินในเส้นทางที่พระพุทธเจ้าสอน มันคือการฝึกฝนอบรมตนให้มีคุณสมบัติ เดินในภพภูมิที่สูงขึ้นไปจนถึงที่สุดของมัน คือ สุขนิรันดร์ เป็นอมตะสุข จิตของเราที่เป็นตัวเดิมแท้ เป็นอมตะ มันไม่เกิด มันไม่ดับ แต่มันถูกห่อหุ้มด้วยอำนาจของอวิชชาและโมหะ เลยถูกลากไปเป็นชาติ เกิดในภพภูมิต่างๆ
การเจริญอานาปานสติ คือการเจาะทะลุแหวกม่านหมอกมายา ที่หุ้มห่อปกปิดจิตเดิมแท้นั้นไว้ แล้วเข้าถึงจิตนั้นเมื่อใด รู้ที่เราฝึกฝนอบรมกันอยู่ มันจะเป็นรู้ที่เป็นอมตะ รู้แล้วปล่อยวาง อยู่กับทุกอย่างได้โดยที่ไม่ทุกข์ เราเรียก วิมุตติสุข มันจะเกิดที่ไหน ก็เกิดที่จิตนี้ อันนี้เป็นผลเบื้องสูง ทุกคนมีหมด เพราะสิ่งที่เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเปิดเผย ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงวันนี้
ความสงบมาจากการที่ชำระชะล้างขัดเกลาส่วนที่วุ่นวายออกไป ความสงบก็โผล่ขึ้นมา แท้ที่จริงความสงบมีอยู่แล้ว
การทำอานาปานสติ เป็นการกระทำที่เป็นแก่นสารที่สุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์
ฌาน
แค่รู้ลมกระทบยาวอย่างมีฉันทะต่อเนื่อง จนจิตเกิดความปราโมทย์ในลมที่กระทบยาวนั้น แล้วมีฉันทะทำให้ความเพียรมีความต่อเนื่องจนอินทรีย์ประชุมลง ไม่มีการถดถอย ไม่มีการท้อถอย ตัวจิตผู้รู้ดูลมที่กระทบยาวนั้นอย่างต่อเนื่องไม่วอกแวก
ตัวรู้ที่เข้าไปรู้ลมกระทบยาว คือ วิตก
ตัวรู้ที่คลออยู่กับลมที่ครูดออก คือ วิจาร
ตัวราบเรียบ ตัวร่าเริง ตัวละมุนที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เป็น ปีติ
ตัวระงับ สบาย สัปปายะ เป็น สุข
ตัวรู้ที่เกาะรู้อยู่กับลมกระทบอย่างต่อเนื่องเป็นอารมณ์อันเดียว ตัวนั้นเป็น เอกัคคตา
ญาณ
ในอานาปานสติมี 200 ญาณ ญาณแปลว่ารู้ หรือหยั่งรู้ เมื่อเค้ารวมตัวเข้า เป็น สัมมาญาณ เป็นญาณถาวร
ในการปฏิบัติสภาวะที่เราเจอตอนนี้ ทุกรู้ที่รู้ตรงๆอย่างบริสุทธิ์นั้น คือ ญาณ
ฌานคือการเพ่ง จิตรู้อยู่ในอารมณ์อันเดียว ตัวรู้ที่รู้อยู่ในอารมณ์อันเดียวที่เป็นกายใจ รู้ได้มาจากการเพ่ง ไปตามกิจที่พระพุทธเจ้าสอน
ฐานของญาณจึงเป็นฌาน
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน