🌄KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ต้าน 1391/1395 จุด รับ 1378/1372 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯรีบาวน์ นำโดยการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อาทิ NVIDIA (เก็งก่อนรายงานกำไร 21 ก.พ.), UBER (ซื้อหุ้นคืน) นอกจากนี้ มองมาจาก US Bond Yield 10ปี ปรับลง -6 bps หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ +12 ล้านบาร์เรล สูงกว่าตลาดคาด ถ่วงราคาน้ำมันพักตัว -1.5% และบ่งชี้ภาพเงินเฟ้อและความร้อนแรงเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆแผ่วลง บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงฝั่ง Asia ที่ฟื้นตัวเร่งขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่ขับเคลื่อนโดยภาคท่องเที่ยวใกล้ระดับก่อน COVID ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่กำลังเสริมด้วยภาคบริโภคทั้งแนวทางรัฐฯ ทั้งกำลังพิจารณากลับมาเก็บภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า <1,500 บาทที่ยกเว้นช่วงที่ผ่านมา, การหาแนวทางลดภาระค่าพลังงานระยะกลาง-ยาว วันนี้ตามการประชุมนโยบาย Digital Wallet หากเดินหน้าจะเป็น Upside เพิ่ม หุ้นนำ คือ กลุ่มอิงภาคบริการ กลุ่มได้ประโยชน์ Yield ลง แนะ AOT, CPALL, CPAXT
🔸🔸🔸🔸🔸
🌏What happened around the world ?
• (*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐ ฟื้นตัวหลัฃจากปรับลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ Dow jones +0.4%, S&P500 +0.96% ปิดเหนือ 5000 จุด อีกครั้ง, ดัชนี Nasdaq +1.3% จาก โดยดัชนี S&P500 กลุ่มที่นำตลาด คือ Industrials, ICT, IT, Consumer Discretinary ฯลฯ หุ้นที่ขึ้นนำคือ Uber +10% หลังจากบริษัมประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์, NVDIA +2.5% จาก Demand ความต้องการชิป AI และเก็งงบที่จะประกาศ 21 ก.พ. ตลาดคาดจะออกมาดี. Lyft +35% รับงบ 4Q23 ออกมาดี และกลุ่มที่อิง Crypto Currency อาทิ Coinbase, Marathon Digital บวกแรกตามราคา Bitcoin ปรับขึ้นทำ new high ในรอบ 1 ปี 3 เดือน ส่วน Sector ที่ Underperform คือ Consumer staples, Energy
•(*) Fed Speak : 1) คุณ Goolsbee(Non voter) ประธาน Fed สาขา Chicago ให้สัมภาษณ์ในโทนกลางๆ หลักๆคือ มองอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ยังคงมองเงินเฟ้อจะปรับอยู่ในกรอบ 2% ตามเป้าหมาย เช่นเดียวกับ 2.)คุณ Barr (voter) รองประธาน Fed มองเงินเฟ้อจะปรับอยู่ในกรอบ 2% ตามเป้าหมาย และรอข้อมูลที่สนับสนุนการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
• (*/-) Japan GDP : ญี่ปุ่นเข้าสู่ Technical Recession หลังเช้านี้รายงาน GDP 4Q23 ที่ -0.1%q-q prev. -0.8%q-q (GDP ติดลบ q-q 2 ไตรมาส) แรงกดดันหลักมาจาก 1)ภาคการบริโภค -0.2%q-q 2)ภาคการส่งออกที่ชะลอจากตลาดจีนที่ชะลอ ฯลฯ KCS ประเมินเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ออกมาชะลอทำให้ยังคงมอง BOJ มีขยายการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายง (Tightening) ต่อไปอีกสักระยะจากเดิม ตลาดคาดจะเห็นการปรับนโยบายการเงินตึงตัวในช่วง 1Q24 คงคำแนะนำ Neutral สำหรับการลงทุนกองทุนและหุ้นในญี่ปุ่น คำแนะนำสำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนญี่ปุ่น แนะนำสลับไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่ยัง Underperform เน้นกอง KFACHINA-A ฯลฯ สำหรับผู้ที่มีกองทุนหุ้นญี่ปุ่นอยู่แล้วยังแนะนำ Let profit run แต่
• (*) War : นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ล่าสุดเผย กลุ่มฮามาสยังไม่ได้เสนอข้อตกลงครั้งใหม่สำหรับการเจรจาที่ กรุงไคโร KCS แนะนำให้ติดตามพัฒนาการการประชุมการพักรบ มองประเด็นดังกล่าว หากแนวโน้มดีขึ้นมองเป็นจำกัด Upside risk จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งราคาน้ำมัน และค่าระวางเรือ Container
• (*) To monitors : ติดตามฝั่งสหรัฐ 15 ก.พ. ยอดค้าปลีก ม.ค. 24 ตลาดคาด -0.2%m-m ฝั่งญี่ปุ่นติดตาม 15 ก.พ. ติดตามรายงาน GDP 4Q23 คาดทรงตัว q-q +0.3%q-q
• (*) US Bond & Dollar : เมื่อวานชะลอการขึ้น อายุ 10 ปีปรับลง -6 bps อยู่ที่ 4.25% เช่นเดียวกับ 2 ปี ปรับลง -6 bps อยู่ที่ 4.58% ขณะที่ Dollar Index ชะลอการแข็งค่าช่วงสั้น 104.6+/- จุด
• (*/+) Oil : น้ำมันดิบ Brent -1.50%d-d ปิดที่ US$ 81.53/barrel, น้ำมันดิบ West Texas -1.58%d-d ปิดที่ US$ 76.64/barrel แรงกดดันหลักมาจาก ฝั่ง Supply ในสหรัฐ หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ +12 ล้านบาร์เรล สูงกว่าตลาดคาด +3.3 ล้านบาร์เรล ระยะสั้นมองเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ วันนี้
• (*/+) Crypto Currency : ราคาBitcoin ปรับขึ้นทำ new high ในรอบ 1 ปี 3 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 5.16 หมื่นเหรียญ แรงหนุนหลักคือ ตลาดยังเก็งประเด็น Bitcoin Halving คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.24 ผสานกับกระแสเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน Etf ที่อิง Crypto อาทิ BlackRock ลงทุนใน Bitcoin ผ่านการเข้าซื้อกอง ETF 10,000BTC ($493M) มากสุดตั้งแต่เปิดเทรด ฯลฯ มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มเชื่อมโยง Crypto อาทิ JTS, BROOK, ZIGA, TTA แนะนำเพียง Trading โดยเน้นไปที่ BROOK เพราะมีการลงทุนใน Digital Asset สัดส่วนราว 20% ณ. 30 ก.ย.23 เทียบกับ TTA สัดส่วนราว 6%