คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่5 (ตอนที่139)
เมื่อลูกสาวหนีตามผู้ชาย!
“เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ จงรักกันและกันให้มาก
เพราะความรักให้อภัยบาปมากมายได้”
~1 เปโตร 4:8 THSV11
“Above all, love each other deeply,
because love covers over a multitude of sins.”
~1 Peter 4:8 NIV
มีผู้ส่งเรื่องต่อไปนี้ มาให้อ่าน
ผมไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?
แต่ก็ไม่ใช่่เรื่องสำคัญอะไร เพราะประเด็นที่สื่อนั้นชัดเจน
ผมเห็นว่ามีข้อคิดเตือนสติที่ดี จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังอีกต่อ
เรื่องมีอยู่ว่า
วันหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่กลับถึงบ้าน เห็นจดหมายของลูกสาววัย 15 ทิ้งไว้บนโต๊ะ
เขียนไว้ว่า..
" พ่อจ๋าแม่จ๋า.. วันนี้หนูตัดสินใจหนีตามพี่ทอมไปแล้ว
พี่ทอมเป็นผู้ชายที่มีบุคลิกแมนเต็มร้อย
มีรอยสักเท่ระเบิดเต็มตัว อายุ 43 ก็ไม่ได้แก่เกินไป
หนูจะตามพี่ทอมไปอาศัยอยู่ห้องเช่า
แน่นอนที่สุด เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน
พี่ทอมยังมีผู้หญิงอยู่ด้วยอีกหลายคน
แต่หนูไม่ถือสาเรื่องนี้หรอก
พวกเราจะช่วยกันปลูกกัญชา
เอาไว้เสพเองแล้วแบ่งขายให้เพื่อนฝูง
เราปรึกษากันแล้วว่าจะมีลูกด้วยกันหลายๆคน
หนูยังภาวนาให้โรคเอดส์ของพี่ทอมจะหายได้ในเร็ววัน
ขอให้ พ่อและแม่ อวยพรให้หนูและพี่ทอมอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขที่สุด
พี่ทอมคือผู้ชายที่หนูค้นหามาทั้งชีวิต
จากลูกรักของพ่อแม่
-----------------------------------------------------
คุณพ่อคุณแม่ยืนอ่านจดหมายฉบับนั้น น้ำตาไหลอาบแก้ม
แทบจะล้มทั้งยืน
แต่ทันใดนั้นตาก็เหลือบไปเห็นตัวอักษรตัวเล็กๆเขียนไว้ท้ายกระดาษว่า
"…ยังไม่จบค่ะ โปรดอ่านต่อด้านหลัง!"
เมื่อคุณพ่อคุณแม่พลิกไปด้านหลังกระดาษจดหมาย ก็พบข้อความเขียนไว้ว่า..
“ใจเย็นๆก่อนนะคะ เรื่องทั้งหมดที่หนูเขียนไว้ด้านหน้าล้วนไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ
ความจริงก็คือ ตอนนี้หนูอยู่กับเพื่อนข้างบ้านของเรา
รายงานผลการสอบครึ่งปีของหนูอยู่ในลิ้นชักที่ห้องของหนู
ขอคุณพ่อคุณแม่ ใครก็ได้ช่วยหยิบขึ้นมาแล้วเซ็นชื่อรับทราบให้หนูด้วยนะคะ
ที่หนูเขียนจดหมายฉบับนี้มา ก็แค่อยากจะบอกว่า..
”บนโลกใบนี้ ยังมีเรื่องที่ย่ำแย่มากยิ่งกว่าผลการเรียนของหนูอีกเยอะ
ถ้าคุณพ่อแม่ยอมรับได้ ขอช่วยกรุณาโทรศัพท์หาหนู แล้วบอกให้หนูทราบว่าด้วยว่า..
หนูสามารถเดินกลับเข้าบ้านได้อย่างปลอดภัยแล้ว ขอบคุณค่ะ!"
พี่น้องที่รัก
ประเด็นสำคัญอยู่แค่ตรงนี้!
เราสามารถให้อภัยแก่กันด้วยความรักแบบ“ไม่มีเงื่อนไข”ได้หรือไม่?
เราต้องการคำหว่านล้อมมากสักแค่ไหน จึงจะทำให้เรายอมให้อภัยแก่กันและกันได้?
ความรักต้องมาจากใจ ไม่ใช่มาจากความคิด!
ถ้าคิดมาก จะให้อภัยได้ยาก
ถ้าใช้อารมณ์นำ ก็จะยิ่งให้อภัยไม่ได้เลย
เราต้องตั้งใจให้อภัย ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการกระทำผิดเกิดขึ้น!
(แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่ทำผิดจะไม่ต้องรับผิดต่อสิ่งที่เขากระทำ
เขาต้องยอมรับความผิดและชดใช้อย่างเหมาะสมเมื่อได้รับการให้อภัยแล้ว)
เราต้องตระหนักว่า ไม่ได้มีเงื่อนไขว่า ถ้าคนใดไม่ยอมรับผิด เราจะให้อภัยเขาไม่ได้!
เพราะการให้อภัยที่แท้จริง ออกมาจากความรัก(ของพระเจ้า)ที่อยู่ในใจของเรา
ด้วยเหตุนี้ การอภัยจึงไม่ได้มีเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับตัวผู้กระทำผิด
แต่ขึ้นอยู่ที่ผู้ถูกกระทำเองว่า จะให้อภัยหรือไม่ ต่างหาก!
ดังนั้น
อย่าให้เราเป็นเหมือนเด็ก ที่จะให้อภัยผู้ใดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอารมณ์อันแปรปรวนของตัวเรา และ
อย่าให้เราเป็นเหมือนคนเจ้าเหตุเจ้าผล ที่คิดมากคิดเยอะเกินไป จนให้อภัยใครไม่ได้ หรือ
กว่าจะให้อภัยได้ ก็เกือบตายไปแล้ว
สุดท้ายนี้ ขอให้เราจำไว้ว่า
ไม่ว่าจะเป็นตัวเราหรือใครก็ตาม
เราทุกคนต่างล้วนไม่สมบูรณ์ ซึ่งต่างก็มีโอกาส คิดผิด พูดผิด หรือ ทำผิดกันทั้งนั้น
เหมือนกับลูกสาวที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวังในเรื่องนี้
ดังนั้น วันนี้
จงให้อภัยแก่ผู้ที่ทำผิดต่อเรา
เหมือนดังที่ในวันหน้า เราก็ต้องการให้คนที่เราทำผิดต่อเขา
ให้อภัยและให้โอกาสแก่เราเริ่มต้นใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราคิดจะขอให้พระเจ้าทรงอภัยหรือทรงยกโทษให้แก่เรา
เราก็ควรตั้งใจยกโทษให้คนอื่นก่อน เหมือนดังที่พระเยซูคริสต์สอนเราให้อธิษฐานว่า
“และขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์
เหมือนพวกข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์”
~มัทธิว 6:12 THSV11
…เห็นด้วย ไหมครับ?
~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
17สิงหาคม2025 (ตอนที่139 ของปีที่5)#YoutubeCJCONNECT#คริสตจักรแห่งความรัก #Churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี