ลูกค้าไม่ได้เพียงแค่ซื้อสินค้าอย่างกาแฟ แต่เลือกที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มี "ตัวตน" และ "ความเชื่อ" ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบางร้านที่ราคาแพงกว่ากลับได้รับความนิยม เพราะลูกค้าเชื่อมโยงกับ "เหตุผลเบื้องหลัง" การทำธุรกิจของแบรนด์ และเลือกแบรนด์ที่ "ยืนหยัดในประเด็น" บางอย่างที่สอดคล้องกับค่านิยมของตนเอง โดยตัวตนนี้ต้องแสดงออกอย่าง "ต่อเนื่อง" ผ่านทุกช่องทางของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ซึ่งทำให้ราคาเป็นเรื่องรองลงมาและช่วยให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ชวนคุยสถานการณ์คาเฟ่ในย่านทรงวาด โดยตั้งคำถามว่าเป็นการเกิดแบบ "ฟองสบู่" หรือเป็นจุดเปลี่ยนของวัฒนธรรมสตรีทในกรุงเทพฯ ทรงวาดมี "แรงดึงดูด" จากทำเลที่ตั้ง อาคารเก่า และค่าเช่าที่ไม่สูง ทำให้เหมาะกับการสร้าง "Brand Story" ที่เน้น "Mood & Message" และการมอบ "Experience" ที่มากกว่าแค่กาแฟ ชี้ให้เห็นว่าคาเฟ่ที่จะอยู่รอดได้ในย่านนี้ต้องมี "Space Concept" ที่แข็งแกร่ง และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่มาเพื่อถ่ายรูปและสร้างคอนเทนต์

การ์ดรสชาติกาแฟ(Flavor Note) เป็นมากกว่าแค่ข้อมูล แต่เป็น เครื่องมือทางการตลาด ที่ช่วยเพิ่มมูลค่ากาแฟได้ โดยการเล่าเรื่องราวของกาแฟ เช่น แหล่งที่มาและกระบวนการผลิต ควบคู่ไปกับการให้ข้อมูลเชิงลึกอย่าง Flavor Note และข้อมูลทางเทคนิค ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึง "Story ที่ขายได้" และรับรู้ว่าร้านไม่ใช่แค่ผู้ขาย แต่เป็น "Curator" ที่มีความเข้าใจในสิ่งที่นำเสนอ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่ม มูลค่าเพิ่มต่อแก้ว และช่วยให้ร้านแข่งขันในตลาดด้วย Story ไม่ใช่แค่ราคา

F&B HACKER | 8 นาที เปลี่ยนร้านให้รอด

ชวนสำรวจปรากฏการณ์ที่ชาวเกาหลีจำนวนหนึ่งเลือกมา ตั้งรกราก และเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กในเชียงใหม่ โดยมองว่านี่คือ "Soft Migration" เพื่อหลีกหนีความเครียดในประเทศตนเอง และต้องการ "ใช้ชีวิต" อย่างสงบและยั่งยืนมากกว่าการเน้นยอดขาย ทำให้ร้านเหล่านี้ไม่เหมือนธุรกิจทั่วไป แต่เป็น "business เพื่อใช้ชีวิต" ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรเรียนรู้จากแนวคิดนี้ และหันมา "ดีไซน์ชีวิต" ผ่านธุรกิจของตนเอง แทนที่จะมุ่งเน้นการแข่งขันด้านยอดขายเพียงอย่างเดียว