อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเริ่มต้นปี 2567 ด้วยการปรับลดตำแหน่งงานลง หลังจากที่มีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว ด้านเลย์ออฟส์.เอฟวายไอ (layoffs.fyi) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามการปลดพนักงานระบุว่า จนถึงตอนนี้ มีการเลิกจ้างพนักงานด้านเทคโนโลยีจำนวน 32,000 ตำแหน่งแล้วในปี 2567 

ทางสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สแนป อิงค์ (Snap Inc) กลายเป็นบริษัทล่าสุดที่ประกาศเลิกจ้างพนักงานเมื่อวันที่ 5 ก.พ. โดยปรับลดจำนวนพนักงานลงราว 10% หรือประมาณ 540 คน ขณะที่ในช่วงต้นเดือนนี้ บริษัทซอฟต์แวร์อ๊อกตา อิงค์ (Okta Inc.) ระบุว่า ทางบริษัทจะเลิกจ้างพนักงาน 7% เพื่อลดต้นทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงพนักงานราว 400 คน  

นอกจากนี้ยังมีอะเมซอนดอตคอม อิงค์ (Amazon.com Inc.) เซลส์ฟอร์ซ อิงค์ (Salesforce Inc.) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms Inc.) ที่เลิกจ้างพนักงานด้วยเช่นกัน 

นายโรเจอร์ ลี ผู้ก่อตั้งเลย์ออฟส์.เอฟวายไอกล่าวว่า “ปีนี้บรรดาบริษัทเทคโนโลยีกำลังพยายามแก้ไขการจ้างงานที่มากเกินไปในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงและภาวะตกต่ำของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกินเวลานานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้” โดยนายลีตั้งข้อสังเกตว่า แม้ปัจจัยทางเศรษฐกิจจะเป็นเหตุผลหลักในการเลิกจ้างพนักงานด้านเทคโนโลยี แต่หลายบริษัทต่างชี้ว่า การแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นอีกหนึ่งปัจจัย เนื่องจากพวกเขากำลังหันมาทุ่มทรัพยากรให้กับความสามารถด้าน AI นั่นเองค่ะ 

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ดีนะคะที่หลายบริษัทมุ่งมั่นให้กับความสามารถทางด้าน AI มากขึ้น แต่นี่อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาได้ด้วยเช่นกัน นั่นเพราะจะมีจำนวนประชากรหลายคนที่ตกงาน หรือกลายเป็นคนว่างงานไปทันที ต้องไปตามหางานที่ใหม่ ตำแหน่งใหม่ นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสียความรู้สึกด้วยเช่นกันค่ะ