หน่วยงานและบริษัทของรัฐบาลจีนจำนวนมากทั่วประเทศ ได้ออกคำสั่งให้พนักงานหยุดนำโทรศัพท์ไอโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่ของบริษัทต่างชาติ ไปใช้ในสถานที่ทำงาน ซึ่งนับเป็นคำสั่งห้ามที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจจะสกัดกั้นแอปเปิ้ล อิงค์และซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ในตลาดโทรศัพท์มือถือใหญ่ที่สุดของโลก 

บริษัทของรัฐและหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งอย่างน้อย 8 มณฑล ได้สั่งพนักงานในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาให้เริ่มใช้อุปกรณ์สื่อสารของแบรนด์ท้องถิ่นซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญนับตั้งแต่ประมาณเดือนก.ย. เมื่อหน่วยงานเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งในปักกิ่งและเทียนจินได้เริ่มบอกให้พนักงานเก็บอุปกรณ์สื่อสารของบริษัทต่างประเทศไว้ที่บ้าน 

ความพยายามดังกล่าวถือเป็นการเร่งรณรงค์ของจีนเพื่อให้ชาวจีนเลิกใช้เทคโนโลยีของสหรัฐอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ความนิยมของแบรนด์ในประเทศเพิ่มขึ้น อาทิ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ 

บลูมเบิร์ก นิวส์รายงานในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจที่จะขยายการห้ามใช้อุปกรณ์สื่อสารของต่างชาติ นอกเหนือไปจากกระทรวงที่มีความอ่อนไหวมากที่สุด เพื่อให้ครอบคลุมหน่วยงานและบริษัทของรัฐจำนวนมากขึ้น 

ทั้งนี้ ราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงแตะระดับต่ำสุดของวัน หลังบลูมเบิร์กรายงานข่าวนี้ และปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่อยู่ในระดับ 197.57 ดอลลาร์ ลดลง 54 เซนต์ หรือ -0.27% นั่นเองค่ะ 

อย่างไรก็ตามนะคะ คาดว่าเหตุผลที่รัฐบาาลจีนสั่งเเบนการใช้โทรศัพท์ไอโฟนนั่นเพราะป้องการการสอดเเนมของสหรัฐ รวมถึงกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหลผ่านอุปกรณ์ของชาติอื่นๆ เช่นเดียวกับสหรัฐที่เคยแบนกัวเว่ยอยู่พักหนึ่ง ถ้าหากจีนสามารถหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากชาติตัวเองมากขึ้น หรือสามารถแบนไอโฟนได้ 100% ไอโฟนคงไม่สามารถตีตลาดในจีนได้อีกเลยค่ะ นับว่าเป็นศึกระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจที่พยายามต่อสู้กันด้วยเรื่องของเทคโนโลยี มารอติดตามกันต่อไปนะคะว่าทางสหรัฐจะมีการตอบโต้อย่างไร ?