
Sign up to save your podcasts
Or
ไง! ฉันชื่อโซอี้ และฉันอายุสิบสี่ปี. ไม่นานมานี้ฉันเพิ่งตระหนักได้ว่า ความอิจฉาริษยาเป็นความรู้สึกที่เลวร้ายที่สุดในโลก. ความรู้สึกนี้ทำให้คุณตามืดบอดและกระตุ้นให้คุณทำอะไรบางอย่างที่ไร้หัวคิดโดยสิ้นเชิง. วันนี้ฉันอยากบอกเรื่องราวแก่พวกคุณอย่างตรงไปตรงมา ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยตามืดบอดแค่ไหน ทั้งพ่อและแม่ของฉันเป็นสูตินรีแพทย์ที่ประสบความสำเร็จ และทั้งคู่ยังรักงานที่ตัวเองทำมาก ถึงพ่อและแม่ของฉันจะรักเด็ก ๆ แต่ก็เกิดขึ้นได้เฉพาะกับเด็กคนเดียวและขอบอกพวกคุณตามตรงนะ ฉันดีใจมากจริง ๆ ที่เป็นแบบนั้น ฉันได้รับความรัก ความสนใจ และความเอาใจใส่ทั้งหมด แต่แล้วก็กลายเป็นว่า ความสงบสุขของฉันไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
วันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่ของฉันเรียกฉันไปที่ห้องครัวโดยที่ฉันไม่รู้สาเหตุ และบอกว่ามีเรื่องเซอร์ไพรส์ที่น่าทึ่งที่สุดให้ฉัน แน่ล่ะ ฉันตื่นเต้นขึ้นมาจริง ๆ ฉันแทบไม่รู้เลยว่าเรื่องเซอร์ไพรส์นี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปตลอดกาล พ่อแม่ฉันบอกว่า พวกเขาจะรับอุปการะเด็กคนหนึ่ง! เด็ก “พิเศษ”...ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนถูกอะไรสักอย่างแทงข้างหลัง ทำไมกัน? แค่ฉันยังไม่พอหรือ? ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่! ปรากฎว่ามีเด็กเกิดใหม่ถูกทิ้งไว้ที่แผนกเด็กเกิดใหม่ในโรงพยาบาลที่พ่อและแม่ของฉันทำงาน แม่ของเขาทิ้งเขาไปเพราะเขาเกิดมาพร้อมกับภาวะดาวน์ซินโดรมและแน่นอนว่าพ่อแม่ผู้หาญกล้าของฉันไม่อาจเบือนหน้าหนีไปเฉย ๆ ได้ พวกเขาสัญญากับฉันว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะยังคงรักฉันมากเท่ากับที่เคยเป็นมา และมากยิ่งกว่าด้วย เราทั้งหมดจะเป็นครอบครัวที่ยอดเยี่ยม หรืออะไรแบบนั้น เรื่องนี้ช่วยให้ฉันสงบลงชั่วขณะ แต่ตอนนั้นฉันเพิ่งอายุแค่แปดขวบ ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้หรอกว่าดาวน์ซินโดรมหมายความว่าอย่างไร และทำไมเด็กพวกนี้ถึงถูกเรียกว่าเด็ก “พิเศษ”
ในวันที่พ่อแม่ของฉันพาอีธานกลับมาบ้าน เราจัดงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่กัน ญาติและเพื่อนสนิททั้งหมดของเรามาเพื่อรู้จักสมาชิกคนใหม่ล่าสุดของครอบครัว ทุกคนมองหน้าเขาและหลงรักเขาทันที ฉันจำได้ครั้งแรกที่เห็นหน้าเขาได้ เขาน่ารัก แต่แปลกประหลาดและไม่เหมือนใบหน้าของคนอื่น ๆ ที่ฉันเคยเห็นเลย เขาเหมือนมนุษย์ต่างดาวในสายตาฉัน ตอนแรกเจ้าตัวน้อยนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเท่านั้นแหละ
ไง! ฉันชื่อโซอี้ และฉันอายุสิบสี่ปี. ไม่นานมานี้ฉันเพิ่งตระหนักได้ว่า ความอิจฉาริษยาเป็นความรู้สึกที่เลวร้ายที่สุดในโลก. ความรู้สึกนี้ทำให้คุณตามืดบอดและกระตุ้นให้คุณทำอะไรบางอย่างที่ไร้หัวคิดโดยสิ้นเชิง. วันนี้ฉันอยากบอกเรื่องราวแก่พวกคุณอย่างตรงไปตรงมา ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยตามืดบอดแค่ไหน ทั้งพ่อและแม่ของฉันเป็นสูตินรีแพทย์ที่ประสบความสำเร็จ และทั้งคู่ยังรักงานที่ตัวเองทำมาก ถึงพ่อและแม่ของฉันจะรักเด็ก ๆ แต่ก็เกิดขึ้นได้เฉพาะกับเด็กคนเดียวและขอบอกพวกคุณตามตรงนะ ฉันดีใจมากจริง ๆ ที่เป็นแบบนั้น ฉันได้รับความรัก ความสนใจ และความเอาใจใส่ทั้งหมด แต่แล้วก็กลายเป็นว่า ความสงบสุขของฉันไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
วันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่ของฉันเรียกฉันไปที่ห้องครัวโดยที่ฉันไม่รู้สาเหตุ และบอกว่ามีเรื่องเซอร์ไพรส์ที่น่าทึ่งที่สุดให้ฉัน แน่ล่ะ ฉันตื่นเต้นขึ้นมาจริง ๆ ฉันแทบไม่รู้เลยว่าเรื่องเซอร์ไพรส์นี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปตลอดกาล พ่อแม่ฉันบอกว่า พวกเขาจะรับอุปการะเด็กคนหนึ่ง! เด็ก “พิเศษ”...ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนถูกอะไรสักอย่างแทงข้างหลัง ทำไมกัน? แค่ฉันยังไม่พอหรือ? ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่! ปรากฎว่ามีเด็กเกิดใหม่ถูกทิ้งไว้ที่แผนกเด็กเกิดใหม่ในโรงพยาบาลที่พ่อและแม่ของฉันทำงาน แม่ของเขาทิ้งเขาไปเพราะเขาเกิดมาพร้อมกับภาวะดาวน์ซินโดรมและแน่นอนว่าพ่อแม่ผู้หาญกล้าของฉันไม่อาจเบือนหน้าหนีไปเฉย ๆ ได้ พวกเขาสัญญากับฉันว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะยังคงรักฉันมากเท่ากับที่เคยเป็นมา และมากยิ่งกว่าด้วย เราทั้งหมดจะเป็นครอบครัวที่ยอดเยี่ยม หรืออะไรแบบนั้น เรื่องนี้ช่วยให้ฉันสงบลงชั่วขณะ แต่ตอนนั้นฉันเพิ่งอายุแค่แปดขวบ ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้หรอกว่าดาวน์ซินโดรมหมายความว่าอย่างไร และทำไมเด็กพวกนี้ถึงถูกเรียกว่าเด็ก “พิเศษ”
ในวันที่พ่อแม่ของฉันพาอีธานกลับมาบ้าน เราจัดงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่กัน ญาติและเพื่อนสนิททั้งหมดของเรามาเพื่อรู้จักสมาชิกคนใหม่ล่าสุดของครอบครัว ทุกคนมองหน้าเขาและหลงรักเขาทันที ฉันจำได้ครั้งแรกที่เห็นหน้าเขาได้ เขาน่ารัก แต่แปลกประหลาดและไม่เหมือนใบหน้าของคนอื่น ๆ ที่ฉันเคยเห็นเลย เขาเหมือนมนุษย์ต่างดาวในสายตาฉัน ตอนแรกเจ้าตัวน้อยนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเท่านั้นแหละ
63 Listeners
42 Listeners
62,496 Listeners
266 Listeners
15 Listeners
13 Listeners
14 Listeners
1 Listeners
67 Listeners
11 Listeners
18 Listeners
9 Listeners
4 Listeners
0 Listeners
0 Listeners