
Sign up to save your podcasts
Or
สวัสดี! ฉันชื่อรูบี้ ฉันเพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนและแต่งงานแล้ว และฉันก็ท้องอยู่ด้วย นี่คือที่มาว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนที่ฉันจะโตเป็นวัยรุ่น ฉันกลับมาจากโรงเรียนในวันหนึ่งและเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะออกจากอพาร์ทเมนต์ของเรา แม่ของฉันหน้าซีดเผือด และเห็นได้ชัดว่าเพิ่งหยุดร้องไห้ ปรากฏว่าพ่อฉันถูกรถเมล์ชน และตอนนี้เราก็สูญเสียเขาไปแล้ว
จะบอกว่ายังไงดีล่ะ? แน่นอน เป็นเรื่องยากที่เราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ทั้งสำหรับฉันและแม่ เราเริ่มมานอนบนเตียงเดียวกันหลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะส่วนใหญ่ฉันจะฝันร้ายถึงเรื่องที่ต้องสูญเสียพ่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม่ฉันก็บอกว่าแม่ไม่อาจนอนหลับในห้องได้เมื่อไม่มีพ่อ เกือบทุกคืนฉันจะได้ยินเสียงแม่ร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ฉันอยากช่วยแม่ อยากให้แม่รู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องใช้เวลาราวหนึ่งเดือน หรืออาจมากกว่านั้นอีกนิดหน่อยเพื่อเริ่มต้นชีวิตปกติธรรมดาของเราอีกครั้ง แต่หนนี้ฉันเริ่มสังเกตเห็นว่าแม่ฉันมีบางอย่างผิดปกติไป แม่เริ่มดื่มเหล้าทุกวัน แบบทุกวันจริงๆ ตอนแรกแม่บอกว่าแค่ช่วยให้หลับดีขึ้น และฉันก็เชื่อแม่ แต่วันหนึ่งฉันก็พบว่าแม่นอนหลับอย่างสงบสุขในตอนกลางวัน ซึ่งที่จริงก็หมายถึงแม่โดดงาน สถานการณ์แบบเดียวกันเป๊ะเกิดขึ้นซ้ำอีกหลายหน จนถึงจุดหนึ่งแม่ก็ทำให้ตัวเองถูกไล่ออกจากงานสองอย่างภายใน 5 หรือ 6 สัปดาห์ถัดมา แต่ละครั้งแม่จะบอกว่าเสียใจมาก และเริ่มพยายามเลิกเหล้า แต่เมื่อไม่มีเหล้า แม่ก็จะเริ่มกลายเป็นคนก้าวร้าว และก็อย่างที่คุณรู้ ไม่เป็นมิตรเลยน่ะ เรื่องนี้เกิดบ่อยเสียจนถึงจุดหนึ่งเพื่อนบ้านเราก็เริ่มสงสัยว่าจะมีอะไรสักอย่าง และเรียกนักสังคมสงเคราะห์มาดู
ฉันใช้เวลา 111 วันอยู่ที่ศูนย์ดูแลเด็ก เพื่อรอให้แม่ฉันบำบัดอาการของตัวเอง เมื่อในที่สุดแม่มารับฉันกลับบ้าน แม่ดูผอมลง แต่สุขภาพโดยรวมแข็งแรง ฉันไม่เคยลืมอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนที่เห็นแม่ผ่านหน้าต่างวันนั้นได้เลย ฉันคิดว่าความสุขของฉันคงจะชัดเจนจนเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วย ฉันเห็นว่าแม่ภูมิใจในตัวเองมากขนาดไหนที่เลิกนิสัยแย่ๆ ของตัวเองไปได้ และฉันเองก็เช่นกัน เราทั้งคู่ตกลงกันว่าคงเป็นเรื่องยากถ้าจะใช้ชีวิตในอพาร์ทเมนต์เดิม และอยู่กับเพื่อนบ้านเดิมๆ เราก็เลยเก็บข้าวของและย้ายไปเมืองอื่น เพื่อเริ่มต้นในสภาพแวดล้อมใหม่ทั้งหมด มันเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีถนนและบ้านหลังเล็ก ฉันจำได้เลยว่าฉันตื่นตากับทัศนียภาพแค่ไหน ขณะที่แม่ฉันขับรถพาเราไปยังบ้านหลังใหม่ ฉันรู้ว่าชีวิตเราที่นั่นจะต้องต่างออกไป ดีกว่าเดิม และฉันก็ไม่ได้คิดผิด ถึงอย่างนั้นก็ชั่วระยะหนึ่งล่ะ
สวัสดี! ฉันชื่อรูบี้ ฉันเพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนและแต่งงานแล้ว และฉันก็ท้องอยู่ด้วย นี่คือที่มาว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนที่ฉันจะโตเป็นวัยรุ่น ฉันกลับมาจากโรงเรียนในวันหนึ่งและเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะออกจากอพาร์ทเมนต์ของเรา แม่ของฉันหน้าซีดเผือด และเห็นได้ชัดว่าเพิ่งหยุดร้องไห้ ปรากฏว่าพ่อฉันถูกรถเมล์ชน และตอนนี้เราก็สูญเสียเขาไปแล้ว
จะบอกว่ายังไงดีล่ะ? แน่นอน เป็นเรื่องยากที่เราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ทั้งสำหรับฉันและแม่ เราเริ่มมานอนบนเตียงเดียวกันหลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะส่วนใหญ่ฉันจะฝันร้ายถึงเรื่องที่ต้องสูญเสียพ่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม่ฉันก็บอกว่าแม่ไม่อาจนอนหลับในห้องได้เมื่อไม่มีพ่อ เกือบทุกคืนฉันจะได้ยินเสียงแม่ร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ฉันอยากช่วยแม่ อยากให้แม่รู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องใช้เวลาราวหนึ่งเดือน หรืออาจมากกว่านั้นอีกนิดหน่อยเพื่อเริ่มต้นชีวิตปกติธรรมดาของเราอีกครั้ง แต่หนนี้ฉันเริ่มสังเกตเห็นว่าแม่ฉันมีบางอย่างผิดปกติไป แม่เริ่มดื่มเหล้าทุกวัน แบบทุกวันจริงๆ ตอนแรกแม่บอกว่าแค่ช่วยให้หลับดีขึ้น และฉันก็เชื่อแม่ แต่วันหนึ่งฉันก็พบว่าแม่นอนหลับอย่างสงบสุขในตอนกลางวัน ซึ่งที่จริงก็หมายถึงแม่โดดงาน สถานการณ์แบบเดียวกันเป๊ะเกิดขึ้นซ้ำอีกหลายหน จนถึงจุดหนึ่งแม่ก็ทำให้ตัวเองถูกไล่ออกจากงานสองอย่างภายใน 5 หรือ 6 สัปดาห์ถัดมา แต่ละครั้งแม่จะบอกว่าเสียใจมาก และเริ่มพยายามเลิกเหล้า แต่เมื่อไม่มีเหล้า แม่ก็จะเริ่มกลายเป็นคนก้าวร้าว และก็อย่างที่คุณรู้ ไม่เป็นมิตรเลยน่ะ เรื่องนี้เกิดบ่อยเสียจนถึงจุดหนึ่งเพื่อนบ้านเราก็เริ่มสงสัยว่าจะมีอะไรสักอย่าง และเรียกนักสังคมสงเคราะห์มาดู
ฉันใช้เวลา 111 วันอยู่ที่ศูนย์ดูแลเด็ก เพื่อรอให้แม่ฉันบำบัดอาการของตัวเอง เมื่อในที่สุดแม่มารับฉันกลับบ้าน แม่ดูผอมลง แต่สุขภาพโดยรวมแข็งแรง ฉันไม่เคยลืมอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนที่เห็นแม่ผ่านหน้าต่างวันนั้นได้เลย ฉันคิดว่าความสุขของฉันคงจะชัดเจนจนเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วย ฉันเห็นว่าแม่ภูมิใจในตัวเองมากขนาดไหนที่เลิกนิสัยแย่ๆ ของตัวเองไปได้ และฉันเองก็เช่นกัน เราทั้งคู่ตกลงกันว่าคงเป็นเรื่องยากถ้าจะใช้ชีวิตในอพาร์ทเมนต์เดิม และอยู่กับเพื่อนบ้านเดิมๆ เราก็เลยเก็บข้าวของและย้ายไปเมืองอื่น เพื่อเริ่มต้นในสภาพแวดล้อมใหม่ทั้งหมด มันเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีถนนและบ้านหลังเล็ก ฉันจำได้เลยว่าฉันตื่นตากับทัศนียภาพแค่ไหน ขณะที่แม่ฉันขับรถพาเราไปยังบ้านหลังใหม่ ฉันรู้ว่าชีวิตเราที่นั่นจะต้องต่างออกไป ดีกว่าเดิม และฉันก็ไม่ได้คิดผิด ถึงอย่างนั้นก็ชั่วระยะหนึ่งล่ะ
18 Listeners
16 Listeners
21 Listeners
7 Listeners
11 Listeners
2 Listeners
16 Listeners
11 Listeners
1 Listeners