
Sign up to save your podcasts
Or
สวัสดี! ฉันชื่อแคสสิดี้ฉันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ... และฉันเพิ่งจะได้เป็นรุ่นพี่ของพ่อหนึ่งปีในมหาวิทยาลัยนี้ ฉันรู้ว่าสมัยนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใคร ๆ จะกลับไปเรียนต่อตอนอายุมากแล้ว แต่ถ้าเรื่องมันกลับกลายเป็นว่าพ่อของคุณกลายเป็นคนที่น่าสนใจในสายตาของเพื่อน ๆ มากกว่าตัวคุณแล้วล่ะก็ นั่นมันแย่สุด ๆ ไปเลย ทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่ฉันเป็นเด็กใหม่ปี 1 ในตอนแรกอะไร ๆ มันก็เหมือนกับที่ทุก ๆ คนต่างเป็นกัน ไม่ว่าจะรู้สึกกลัว รู้สึกประหม่า แต่รวม ๆ แล้วคือความรู้สึกตื่นเต้นนั่นเอง และแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับฉันในการทำความรู้จักกับผู้คน แต่สุดท้ายฉันก็ได้มีเพื่อนผู้หญิงอยู่สองคน และพวกเราก็ได้ตัดสินใจลองเข้าร่วมชมรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
แต่แล้วฉันก็พบว่าแม่ของฉันป่วยเป็นโรคร้ายแรงมากและเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้า แน่นอนว่าฉันอยากอยู่กับเธอในช่วงเวลาสองสามเดือนสุดท้ายของเธอ ในขณะที่พ่อของฉันเองก็ต้องการความช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ดังนั้นฉันจึงดรอปการเรียนที่มหาวิทยาลัยหลังจากเรียนจบแค่เพียงเทอมแรก และใช้เวลากับแม่จวบจนช่วงชีวิตสุดท้ายของเธอ ฉันไม่อยากจะพูดว่ามันยากแค่ไหนในการทำใจยอมรับการจากไปของเธอ สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่หลังจากการเสียชีวิตของเธอ นั่นก็คือพ่อของฉันที่ยังคงตรอมใจอย่างมากกระทั่งถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ฉันจึงต้องคอยดูแลเขาและสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ เรามีปัญหาเรื่องการจ่ายหนี้จากการกู้จำนอง ดังนั้นฉันจึงจำเป็นที่จะต้องหางานทำด้วยตัวเอง สิ่งที่ฉันกำลังพยายามที่จะบอกก็คือฉันไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในอีกหนึ่งปีครึ่ง และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปและการใช้ชีวิตกับพ่อของฉันมันก็เริ่มดีขึ้นและถึงจุดที่เขารับปากกับฉันว่าฉันจะได้กลับไปเรียนต่ออีกครั้ง ฉันขอบอกเลยว่าการที่จะกลับเป็นนักศึกษาปีหนึ่งใหม่เป็นครั้งที่สองนี่มันยากกว่าเดิมเสียอีก เพราะทุกคนดูเด็กและแตกต่างจากฉันมาก ๆ ถึงแม้ว่าฉันจะแก่กว่าแค่สองปีก็ตาม ฉันรู้สึกเหมือนมันมีช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเพื่อนร่วมชั้น แน่นอนว่าฉันมีเพื่อนบางคนให้ได้คุยด้วยระหว่างทานอาหารกลางวันหรือทำงานกลุ่มด้วยกัน แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเราเป็นเพื่อนกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ และส่วนใหญ่ฉันมักใช้เวลาอยู่ตัวคนเดียว
นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องการที่จะได้รับปริญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะใช้เวลาในมหาวิทยาลัยตลอดช่วงฤดูร้อนและลงเรียนเพิ่ม ฉันรู้ว่าเรื่องนี้มันจะทำให้พ่อของฉันหงุดหงิดเพราะว่าเขาคิดถึงฉันมากโดยเฉพาะตอนนี้ที่ไม่มีแม่อยู่อีกต่อไป และลองนึกภาพดูว่าฉันจะประหลาดใจแค่ไหนในวันแรกของภาคเรียนฤดูร้อน ในคาบเรียนแรกที่เข้าไปนั้น ฉันสังเกตเห็นพ่อของตัวเองนั่งอยู่ในแถวสุดท้ายในห้องเรียน
สวัสดี! ฉันชื่อแคสสิดี้ฉันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ... และฉันเพิ่งจะได้เป็นรุ่นพี่ของพ่อหนึ่งปีในมหาวิทยาลัยนี้ ฉันรู้ว่าสมัยนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใคร ๆ จะกลับไปเรียนต่อตอนอายุมากแล้ว แต่ถ้าเรื่องมันกลับกลายเป็นว่าพ่อของคุณกลายเป็นคนที่น่าสนใจในสายตาของเพื่อน ๆ มากกว่าตัวคุณแล้วล่ะก็ นั่นมันแย่สุด ๆ ไปเลย ทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่ฉันเป็นเด็กใหม่ปี 1 ในตอนแรกอะไร ๆ มันก็เหมือนกับที่ทุก ๆ คนต่างเป็นกัน ไม่ว่าจะรู้สึกกลัว รู้สึกประหม่า แต่รวม ๆ แล้วคือความรู้สึกตื่นเต้นนั่นเอง และแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับฉันในการทำความรู้จักกับผู้คน แต่สุดท้ายฉันก็ได้มีเพื่อนผู้หญิงอยู่สองคน และพวกเราก็ได้ตัดสินใจลองเข้าร่วมชมรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
แต่แล้วฉันก็พบว่าแม่ของฉันป่วยเป็นโรคร้ายแรงมากและเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้า แน่นอนว่าฉันอยากอยู่กับเธอในช่วงเวลาสองสามเดือนสุดท้ายของเธอ ในขณะที่พ่อของฉันเองก็ต้องการความช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ดังนั้นฉันจึงดรอปการเรียนที่มหาวิทยาลัยหลังจากเรียนจบแค่เพียงเทอมแรก และใช้เวลากับแม่จวบจนช่วงชีวิตสุดท้ายของเธอ ฉันไม่อยากจะพูดว่ามันยากแค่ไหนในการทำใจยอมรับการจากไปของเธอ สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่หลังจากการเสียชีวิตของเธอ นั่นก็คือพ่อของฉันที่ยังคงตรอมใจอย่างมากกระทั่งถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ฉันจึงต้องคอยดูแลเขาและสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ เรามีปัญหาเรื่องการจ่ายหนี้จากการกู้จำนอง ดังนั้นฉันจึงจำเป็นที่จะต้องหางานทำด้วยตัวเอง สิ่งที่ฉันกำลังพยายามที่จะบอกก็คือฉันไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในอีกหนึ่งปีครึ่ง และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปและการใช้ชีวิตกับพ่อของฉันมันก็เริ่มดีขึ้นและถึงจุดที่เขารับปากกับฉันว่าฉันจะได้กลับไปเรียนต่ออีกครั้ง ฉันขอบอกเลยว่าการที่จะกลับเป็นนักศึกษาปีหนึ่งใหม่เป็นครั้งที่สองนี่มันยากกว่าเดิมเสียอีก เพราะทุกคนดูเด็กและแตกต่างจากฉันมาก ๆ ถึงแม้ว่าฉันจะแก่กว่าแค่สองปีก็ตาม ฉันรู้สึกเหมือนมันมีช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเพื่อนร่วมชั้น แน่นอนว่าฉันมีเพื่อนบางคนให้ได้คุยด้วยระหว่างทานอาหารกลางวันหรือทำงานกลุ่มด้วยกัน แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเราเป็นเพื่อนกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ และส่วนใหญ่ฉันมักใช้เวลาอยู่ตัวคนเดียว
นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องการที่จะได้รับปริญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะใช้เวลาในมหาวิทยาลัยตลอดช่วงฤดูร้อนและลงเรียนเพิ่ม ฉันรู้ว่าเรื่องนี้มันจะทำให้พ่อของฉันหงุดหงิดเพราะว่าเขาคิดถึงฉันมากโดยเฉพาะตอนนี้ที่ไม่มีแม่อยู่อีกต่อไป และลองนึกภาพดูว่าฉันจะประหลาดใจแค่ไหนในวันแรกของภาคเรียนฤดูร้อน ในคาบเรียนแรกที่เข้าไปนั้น ฉันสังเกตเห็นพ่อของตัวเองนั่งอยู่ในแถวสุดท้ายในห้องเรียน
63 Listeners
42 Listeners
62,493 Listeners
267 Listeners
15 Listeners
13 Listeners
14 Listeners
1 Listeners
67 Listeners
11 Listeners
18 Listeners
9 Listeners
4 Listeners
0 Listeners
0 Listeners