
Sign up to save your podcasts
Or
ไง! ฉันชื่อเพนนี ฉันอายุสิบห้าปี เรื่องราวของฉันอาจดูเหลือเชื่ออยู่บ้างหรือแม้แต่น่าตกใจและฉันก็มั่นใจว่าพวกคุณหลาย ๆ คนที่ได้ฟัง จะต้องตัดสินสิ่งที่ฉันทำไปก่อนแล้ว ไม่กี่เดือนที่แล้ว ฉันแจ้งความจับพี่ชายตัวเอง อีกไม่นานเขาต้องขึ้นฟังคำตัดสินของศาลและไม่เลย ฉันไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ก็เหมือนอย่างหลาย ๆ เรื่อง เรื่องราวของฉันเริ่มด้วยโศกนาฏกรรมที่เกิดในครอบครัว สองปีก่อนพ่อฉันเสียชีวิตในอุบัติเหตุ ทิ้งให้ภรรยาของเขา...แม่ของฉัน อยู่ตามลำพังกับเด็กอีกสองคน: ฉันและแซม พี่ชายคนโต แซมแก่กว่าฉันสามปีและนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็กลายเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในครอบครัว ตั้งแต่ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ฐานะของเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอยู่แล้วและตอนนี้เรายังเป็นหนี้มหาศาล ดังนั้นแม่ของฉันจึงต้องทำงานหลายอย่างเพื่อเลี้ยงดูลูก ๆ และรักษาบ้านเอาไว้ งานของแม่กินเวลาแทบทั้งหมดในชีวิตไปและถึงฉันจะเข้าใจดีว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อแซมและฉัน แต่ฉันก็ยังคิดว่าเป็นความผิดของแม่ที่ไม่เอาใจใส่เรา บางทีอาจจะแค่ส่วนหนึ่ง - แล้วตกลง เกิดอะไรขึ้นกับแซมน่ะหรือ?
แซมและฉันไม่ได้สนิทกันอยู่แล้ว หลังจากพ่อของเราเสียชีวิต เขาก็ยิ่งเก็บตัว รักษาระยะห่างจากเราซึ่งเป็นครอบครัวหนึ่งเดียวของเขามากขึ้น เขาแทบไม่คุยกับแม่และฉันเลย แต่ขณะเดียวกันกลับคบเพื่อนทั้งกลุ่มที่มีท่าทางไม่น่าไว้ใจ ดูเหมือนแซมจะไม่ได้สนใจแม่หรือฉันเอาเสียเลย แทนที่จะช่วยเหลือหรือให้กำลังใจเราในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พี่ชายของฉันดูจะคิดว่าอิสระแบบนี้คือตัวขวางกั้นไม่ให้เขาทำอะไรก็ตามที่อยากทำ กระทั่งตอนที่เขายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ชอบไปนอนค้างที่บ้านคนอื่น บางครั้งยังหายไปนานหลายวัน แต่ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือ เขาเริ่มสั่งให้แม่และฉันเอาเงินมาให้เขา! คุณรู้ไหม ตอนที่ฉันสูญเสียพ่อ ฉันรู้เลยว่าแม่จะต้องลำบากขนาดไหน ฉันหวังว่าแซมจะออกไปหางานทำและเริ่มช่วยเหลือครอบครัวบ้าง... และฉันก็คิดด้วยว่านี่เป็นเรื่องเดียวที่ยุติธรรมแล้วเพราะฉันจะออกไปทำงานทันทีที่โตพอ ตราบใดก็ตามที่อายุฉันถึงข้อกำหนดที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน แต่แทนที่จะช่วย แซมกลับผลาญเงินจากแม่เพื่อเป็น “ค่าขนม” โดยไม่เคยถามว่าค่าใช่จ่ายในบ้านมีพอหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ เรายังไม่รู้ด้วยว่า สถานที่ลึกลับที่เขาเอาเงินไปใช้นั้นคือที่ไหนและยังมีข่าวลือในย่านที่เราอยู่ ว่าแซมออกไปไหนมาไหนกับพวกแก๊งคนไม่ดี
เวลาผ่านไป แต่ไม่มีอะไรในครอบครัวเราเปลี่ยนไปมากนัก แม่ของฉันยังคงไม่ใส่ใจพฤติกรรมของแซมเพราะแม่เองก็มีปัญหาอื่น ๆ มากอยู่แล้ว นักสังคมสงเคราะห์จากโรงเรียนของแซมโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อบอกเราว่าแซมโดดเรียนอีกแล้วและหลังจากแซมเรียนจบมัธยมปลายได้อย่างปาฏิหาริย์ เขาก็ยิ่งตามหาตัวยากกว่าเดิม ฉันได้งานเป็นเด็กเสิร์ฟ ทำตามแผนที่ฉันวางเอาไว้และขาดการติดต่อกับพี่ชายของฉันไปเลย - ตอนนี้เราแทบไม่เจอกันและไม่ได้คุยกันอีกแม้ว่าเราจะอยู่บ้านเดียวกัน ฉันทำงานอย่างหนักและนั่นก็ไม่ง่ายสำหรับฉันเลย และฉันยังหาเงินไม่ได้มากขนาดนั้น...คุณคิดหรือเปล่าว่าฉันพูดเรื่องเงินมากเกินไป? ที่จริงฉันตั้งใจน่ะ เพราะจากนี้เงินจะเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องที่ฉันจะเล่าแล้ว
ไง! ฉันชื่อเพนนี ฉันอายุสิบห้าปี เรื่องราวของฉันอาจดูเหลือเชื่ออยู่บ้างหรือแม้แต่น่าตกใจและฉันก็มั่นใจว่าพวกคุณหลาย ๆ คนที่ได้ฟัง จะต้องตัดสินสิ่งที่ฉันทำไปก่อนแล้ว ไม่กี่เดือนที่แล้ว ฉันแจ้งความจับพี่ชายตัวเอง อีกไม่นานเขาต้องขึ้นฟังคำตัดสินของศาลและไม่เลย ฉันไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ก็เหมือนอย่างหลาย ๆ เรื่อง เรื่องราวของฉันเริ่มด้วยโศกนาฏกรรมที่เกิดในครอบครัว สองปีก่อนพ่อฉันเสียชีวิตในอุบัติเหตุ ทิ้งให้ภรรยาของเขา...แม่ของฉัน อยู่ตามลำพังกับเด็กอีกสองคน: ฉันและแซม พี่ชายคนโต แซมแก่กว่าฉันสามปีและนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็กลายเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในครอบครัว ตั้งแต่ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ฐานะของเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอยู่แล้วและตอนนี้เรายังเป็นหนี้มหาศาล ดังนั้นแม่ของฉันจึงต้องทำงานหลายอย่างเพื่อเลี้ยงดูลูก ๆ และรักษาบ้านเอาไว้ งานของแม่กินเวลาแทบทั้งหมดในชีวิตไปและถึงฉันจะเข้าใจดีว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อแซมและฉัน แต่ฉันก็ยังคิดว่าเป็นความผิดของแม่ที่ไม่เอาใจใส่เรา บางทีอาจจะแค่ส่วนหนึ่ง - แล้วตกลง เกิดอะไรขึ้นกับแซมน่ะหรือ?
แซมและฉันไม่ได้สนิทกันอยู่แล้ว หลังจากพ่อของเราเสียชีวิต เขาก็ยิ่งเก็บตัว รักษาระยะห่างจากเราซึ่งเป็นครอบครัวหนึ่งเดียวของเขามากขึ้น เขาแทบไม่คุยกับแม่และฉันเลย แต่ขณะเดียวกันกลับคบเพื่อนทั้งกลุ่มที่มีท่าทางไม่น่าไว้ใจ ดูเหมือนแซมจะไม่ได้สนใจแม่หรือฉันเอาเสียเลย แทนที่จะช่วยเหลือหรือให้กำลังใจเราในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พี่ชายของฉันดูจะคิดว่าอิสระแบบนี้คือตัวขวางกั้นไม่ให้เขาทำอะไรก็ตามที่อยากทำ กระทั่งตอนที่เขายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ชอบไปนอนค้างที่บ้านคนอื่น บางครั้งยังหายไปนานหลายวัน แต่ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือ เขาเริ่มสั่งให้แม่และฉันเอาเงินมาให้เขา! คุณรู้ไหม ตอนที่ฉันสูญเสียพ่อ ฉันรู้เลยว่าแม่จะต้องลำบากขนาดไหน ฉันหวังว่าแซมจะออกไปหางานทำและเริ่มช่วยเหลือครอบครัวบ้าง... และฉันก็คิดด้วยว่านี่เป็นเรื่องเดียวที่ยุติธรรมแล้วเพราะฉันจะออกไปทำงานทันทีที่โตพอ ตราบใดก็ตามที่อายุฉันถึงข้อกำหนดที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน แต่แทนที่จะช่วย แซมกลับผลาญเงินจากแม่เพื่อเป็น “ค่าขนม” โดยไม่เคยถามว่าค่าใช่จ่ายในบ้านมีพอหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ เรายังไม่รู้ด้วยว่า สถานที่ลึกลับที่เขาเอาเงินไปใช้นั้นคือที่ไหนและยังมีข่าวลือในย่านที่เราอยู่ ว่าแซมออกไปไหนมาไหนกับพวกแก๊งคนไม่ดี
เวลาผ่านไป แต่ไม่มีอะไรในครอบครัวเราเปลี่ยนไปมากนัก แม่ของฉันยังคงไม่ใส่ใจพฤติกรรมของแซมเพราะแม่เองก็มีปัญหาอื่น ๆ มากอยู่แล้ว นักสังคมสงเคราะห์จากโรงเรียนของแซมโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อบอกเราว่าแซมโดดเรียนอีกแล้วและหลังจากแซมเรียนจบมัธยมปลายได้อย่างปาฏิหาริย์ เขาก็ยิ่งตามหาตัวยากกว่าเดิม ฉันได้งานเป็นเด็กเสิร์ฟ ทำตามแผนที่ฉันวางเอาไว้และขาดการติดต่อกับพี่ชายของฉันไปเลย - ตอนนี้เราแทบไม่เจอกันและไม่ได้คุยกันอีกแม้ว่าเราจะอยู่บ้านเดียวกัน ฉันทำงานอย่างหนักและนั่นก็ไม่ง่ายสำหรับฉันเลย และฉันยังหาเงินไม่ได้มากขนาดนั้น...คุณคิดหรือเปล่าว่าฉันพูดเรื่องเงินมากเกินไป? ที่จริงฉันตั้งใจน่ะ เพราะจากนี้เงินจะเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องที่ฉันจะเล่าแล้ว
63 Listeners
42 Listeners
62,493 Listeners
267 Listeners
15 Listeners
13 Listeners
14 Listeners
1 Listeners
67 Listeners
11 Listeners
18 Listeners
9 Listeners
4 Listeners
0 Listeners
0 Listeners