Good Night #ฟังก่อนนอน

ภาพจำของ ‘ฮีโร่’ สำหรับคุณเป็นอย่างไร สวมผ้าคลุม? ใช้พลังวิเศษ? แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นสิ่งเหล่านี้จำเป็นหรือเปล่า เป็นฮีโร่ต้องกล้าหาญเพราะนี่คือคุณสมบัติสำคัญ และคุณที่กล้าหาญในทุกๆ วันก็คือฮีโร่ของตัวคุณเอง ใน Good Night EP. นี้ เราจะพาทุกคนดำดิ่งสู่ห้วงนิทรากับ ‘จิตวิทยาแห่งความกล้าหาญ’ โดย ศาสตราจารย์แฟรงก์ ฟาร์ลีย์

ในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์และความท้าทาย หลายคนพยายามเป็นที่พึ่งและช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่บ่อยครั้งที่เราลืมดูแลหัวใจของตัวเองจนกลายเป็นผู้แบกรับความทุกข์โดยไม่รู้ตัว ความเมตตาและความปรารถนาดีที่มีต่อผู้อื่น อาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายตัวเราเองได้หากเราไม่รู้จักรักษาสมดุลให้ดีพอ

คุณเคยจินตนาการชีวิตของตัวเองไหมว่า ชีวิตของคุณจะเป็นเช่นไร ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ หากแต่เป็นสัตว์สี่ขา หน้าตาปกคลุมด้วยขน นามว่า ‘แมว’

เคยรู้สึกไหมว่ามีบางอย่างในตัวคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิด? เหมือนมีเสียงเบาๆ คอยกระซิบบอกว่าคุณมีศักยภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ นั่นคือ "Higher Self" หรือตัวตนที่สูงกว่า ความเชื่อโบราณที่เชื่อมโยงเรากับจักรวาลที่จะพาคุณไปสู่การพัฒนาตนเองอย่างลึกซึ้ง และเป็นสิ่งที่เราจะพาทุกท่านที่ฟัง Good Night ในคืนนี้ไปค้นพบด้วยกัน

เคยไหม? ชีวิตที่เราคุ้นเคยมานานแสนนาน วันหนึ่งกลับรู้สึกขาดและไม่พึงพอใจขึ้นมา ในนาทีนั้นเราอาจต้องการชีวิตที่แตกต่างหรือต้องการเป็นเจ้าของของอะไรบางอย่าง แต่เมื่อยังไม่ได้มาครองสักทีก็เกิดเป็นความรุ่มร้อนในใจ

ในยุคปัจจุบันที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างแสวงหาวิธีพัฒนาตนเองเพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลง แต่บ่อยครั้งเรามักพบว่า การพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างฉับพลันมักจบลงด้วยความล้มเหลวและท้อแท้

เชื่อว่าหลายคนคงเจอกับวันที่ใจอ่อนไหวเป็นพิเศษ วันที่เราเบื่อหน่าย ตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเอง หรือหมดแรงที่จะเดินตามฝันจนอยากล้มเลิกไป ลองพักสักนิดแล้วคิดถึงภาพของตัวเราในอนาคตที่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกเหล่านั้นด้วยดาบคู่ใจ

นานเท่าไรแล้วที่พยายามวิ่งหนีปัญหาชีวิตที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ราวกับก้อนไหมพรมที่หล่นทับจนเส้นด้ายพันกันเป็นปมยุ่งเหยิง กลายเป็นปมปัญหาที่ยิ่งแก้ก็ยิ่งพันกันกว่าเดิม เพราะสมองเอาแต่กลั่นแกล้งอำพรางทางออกที่แท้จริงไว้ และหลอกล่อให้เราเลือกทางออกที่มีแต่คำว่าหายนะและหายนะ

“จงรักตัวเอง” ประโยคเพียงสั้นๆ ที่ดูเรียบง่าย แต่การปฏิบัติจริงนั้นช่างยากเย็นแสนเข็ญ เป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์คิดมากที่มักจะสังเกตเห็นถึงความผิดพลาดของตัวเองอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะทำอย่างไร เราก็ดีไม่พอในสายตาของคนอื่น แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เราดีไม่พอแม้ในสายตาของตัวเอง ความคิดเช่นนี้เปรียบเสมือนยาพิษอ่อนๆ ที่ไม่ทำร้ายเราจนเจ็บปางตาย แต่คอยกัดกินหัวใจของเราไปทีละน้อย จนไม่มีทางที่จะซ่อมแซมกลับมาเป็นอย่างเดิมได้

เมื่อมีอารมณ์ด้านลบเกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าจะความเศร้า ความโกรธ หรือความอิจฉา แต่ละคนก็มีวิธีการจัดการกับอารมณ์นั้นที่แตกต่างกันออกไป บางคนทำความเข้าใจและแก้ไข บางคนทำความเข้าใจแล้วปล่อยผ่าน ส่วนบางคนก็เลือกที่จะ “ระเบิด” อารมณ์ของตนเองออกมา เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ซึ่งผลสุดท้ายคำพูดอันแสนจะรุนแรงที่เอ่ยออกมานั้นก็ไปบั่นทอนจิตใจใครเข้า จนอาจทำให้ความสัมพันธ์ที่มีขาดสะบั้นลงได้