สถาบันวิจัยประชากรอวี้วา (Yuwa Population Research Institute) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำของจีน เปิดเผยในวันที่ 21 ก.พ. ว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าเลี้ยงดูบุตรสูงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับจีดีพีต่อหัว 

มีรายงานระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรหนึ่งคนจนถึงอายุ 18 ปีในจีน สูงกว่ามูลค่าจีดีพีต่อหัว 6.3 เท่า โดยสูงกว่าออสเตรเลียซึ่งอยู่ที่ 2.08 เท่า, ฝรั่งเศส 2.24 เท่า, สหรัฐอเมริกา 4.11 เท่า และญี่ปุ่น 4.26 เท่า 

นอกจากนี้ รายงานยังระบุอีกว่า การเลี้ยงดูบุตรยังส่งผลให้ผู้หญิงมีชั่วโมงทำงานลดลงและได้รับค่าจ้างน้อยลง ในขณะที่ความเป็นอยู่ของผู้ชายส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางสังคมของจีนในปัจจุบันไม่เอื้อต่อการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง ค่าเสียเวลาและค่าเสียโอกาสสำหรับผู้หญิงในการมีบุตรจึงสูงเกินไป นอกจากนี้ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น การคลอดบุตรมีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงความยากลำบากสำหรับผู้หญิงในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวกับการทำงาน ยังส่งผลให้ค่าเฉลี่ยความเต็มใจในการเจริญพันธุ์ของชาวจีนแทบจะต่ำที่สุดในโลก 

สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า รายงานฉบับนี้ร่วมเขียนโดยนายเหลียง เจี้ยนจาง ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ท่องเที่ยวออนไลน์ซีทริป (Ctrip) และผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยประชากรอวี้วาค่ะ 

เป็นข่าวที่ทำให้ใครหลายคนไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ประชากรผู้หญิงในจีนถึงไม่อยากมีลูกหรือไม่อยากแต่งงานกันมากขึ้น เพราะว่าหลายๆ อย่างไม่เอื้อประโยชน์ต่อผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ มีแต่จะเสียเท่านั้น ถ้าหากมีภาครัฐให้การช่วยเหลือมากขึ้นหรือสามารถลดหย่อนค่าเลี้ยงดูต่างๆได้มากกว่านี้ อาจจะทำให้อะไรง่ายกว่านี้ก็ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณผู้หญิงทุกคนนะคะ