รายงานของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เผย ชาวอเมริกัน 22 ล้านคน ต้องแบกรับภาระค่าเช่าที่อยู่อาศัย บางส่วนหมดรายได้กว่าครึ่งไปกับค่าบ้าน 

รายงานฉบับใหม่เรื่อง “ที่อยู่อาศัยให้เช่าของอเมริกา ปี 2024 “ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า การวิเคราะห์ข้อมูลสำมะโนประชากรในปี 2022 พบว่า ครึ่งหนึ่งของผู้เช่าทั้งหมดในสหรัฐฯ ต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนที่อยู่อาศัย ที่พุ่งสูงขึ้น จากปัจจัยเรื่องการปรับขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์และค่าประกันภัย 

โดยผู้เช่า 22.4 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ ต้องใช้เงินมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ไปกับค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภค สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 2 ล้านครัวเรือนในเวลา 3 ปี 

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าในจำนวนผู้เช่าทั้งหมด มีผู้เช่า 12.1 ล้านคน ที่ต้องใช้จ่ายเงินกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ไปกับที่อยู่อาศัย ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน  

ขณะที่ ในปีที่แล้ว ผลการสำรวจจากสถาบันแห่งหนึ่ง ระบุว่า เมืองไมอามีในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ เป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยแพงที่สุดในประเทศ โดยผู้เช่ารายหนึ่งเปิดเผยว่า ต้องจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 35,630 บาท สำหรับห้องขนาดเล็กและมีพื้นที่ไม่เพียงพอ 

ทั้งนี้ รายงานระบุด้วยว่า คนไร้บ้านเพิ่มมากขึ้นจากปัญหาค่าที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูง และระบุว่า ชาวอเมนิกัน 653,100 คน ต้องกลายเป็นคนไม่มีที่อยู่อาศัย ในเดือนมกราคม ปีที่แล้ว 

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจนะคะ ที่เริ่มมีประชากรคนไรบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเหตุมาจากราคาค่าเช่าที่สูงขึ้นจนผู้อยู่อาศัยไม่สามารถจ่ายได้นั่นเอง หวังว่าหน่วยงานรัฐจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาเพื่อหาทางแก้ไขด้วยนะคะ ก่อนที่จะเกิดปัญหาคนไร้บ้านเยอะจนจัดการไม่ได้