
Sign up to save your podcasts
Or


เมื่อสามีของ Ruth Gottesman วัย 96 ปีเสียชีวิตในปี 2022 เขาได้ทิ้ง 1 พันล้านดอลลาร์ในหุ้น Berkshire Hathaway ซึ่งในตอนแรก Gottesman ตัดสินใจไม่ได้กับมรดกชิ้นใหญ่นี้ แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจบริจาคเงินเต็มจำนวนให้กับวิทยาลัยแพทยศาสตร์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในย่านบรองซ์ ซึ่งเป็นเขตที่ยากจนที่สุด
หลังจากบริจาคเธอได้แจ้งข่าวให้นักเรียนทราบด้วยตนเองเมื่อเช้าวันจันทร์ และวินาทีที่คำว่า "ไม่มีค่าเล่าเรียน" ออกมาจากปากของเธอ นักเรียนในหอประชุมก็ส่งเสียงไชโยโห่ร้อง พร้อมปรบมือและกระโดดออกจากที่นั่ง โดยมีบางคนร้องไห้ โดยจริงๆแล้วเธอคือ ศาสตราจารย์คลินิกกิตติคุณสาขากุมารเวชศาสตร์ที่ Einstein เธอเริ่มต้นงานที่วิทยาลัยในปี 1968 ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน
นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ใจบุญมาเป็นเวลาเกือบ 60 ปี โดยลงทุนในชุมชนชาวยิว โครงการการศึกษา และสุขภาพนับตั้งแต่ก่อตั้ง The Gottesman กองทุนในปี 1965 ตามแนวทางมูลนิธิ
ดังนั้นมรดกของเธอน่าจะช่วยให้วิทยาลัยแพทยศาสตร์ Albert Einstein ดึงดูดผู้สมัครที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งโรงเรียนกล่าวในการแถลงข่าว และนั่นคือเป้าหมายของเธออย่างแน่นอนโดยมีรายงานว่าค่าเล่าเรียนหนึ่งปีที่โรงเรียนมีมูลค่ามากกว่า 59,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนมากมีหนี้สินมากกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯนั่นเอง
นับว่าการกระทำของหญิงม่ายคนนี้ ได้ช่วยเหลือนักศึกษาแพทย์ไปได้หลายคนและยังส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในโลกกว้าง ได้แต่หวังว่าคุณภาพชีวิตการเรียนของเหล่าเด็กนักศึกษาจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันค่ะ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะมีแพทย์เก่งๆอีกมากจากการช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้
By RCMediaเมื่อสามีของ Ruth Gottesman วัย 96 ปีเสียชีวิตในปี 2022 เขาได้ทิ้ง 1 พันล้านดอลลาร์ในหุ้น Berkshire Hathaway ซึ่งในตอนแรก Gottesman ตัดสินใจไม่ได้กับมรดกชิ้นใหญ่นี้ แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจบริจาคเงินเต็มจำนวนให้กับวิทยาลัยแพทยศาสตร์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในย่านบรองซ์ ซึ่งเป็นเขตที่ยากจนที่สุด
หลังจากบริจาคเธอได้แจ้งข่าวให้นักเรียนทราบด้วยตนเองเมื่อเช้าวันจันทร์ และวินาทีที่คำว่า "ไม่มีค่าเล่าเรียน" ออกมาจากปากของเธอ นักเรียนในหอประชุมก็ส่งเสียงไชโยโห่ร้อง พร้อมปรบมือและกระโดดออกจากที่นั่ง โดยมีบางคนร้องไห้ โดยจริงๆแล้วเธอคือ ศาสตราจารย์คลินิกกิตติคุณสาขากุมารเวชศาสตร์ที่ Einstein เธอเริ่มต้นงานที่วิทยาลัยในปี 1968 ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน
นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ใจบุญมาเป็นเวลาเกือบ 60 ปี โดยลงทุนในชุมชนชาวยิว โครงการการศึกษา และสุขภาพนับตั้งแต่ก่อตั้ง The Gottesman กองทุนในปี 1965 ตามแนวทางมูลนิธิ
ดังนั้นมรดกของเธอน่าจะช่วยให้วิทยาลัยแพทยศาสตร์ Albert Einstein ดึงดูดผู้สมัครที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งโรงเรียนกล่าวในการแถลงข่าว และนั่นคือเป้าหมายของเธออย่างแน่นอนโดยมีรายงานว่าค่าเล่าเรียนหนึ่งปีที่โรงเรียนมีมูลค่ามากกว่า 59,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนมากมีหนี้สินมากกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯนั่นเอง
นับว่าการกระทำของหญิงม่ายคนนี้ ได้ช่วยเหลือนักศึกษาแพทย์ไปได้หลายคนและยังส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในโลกกว้าง ได้แต่หวังว่าคุณภาพชีวิตการเรียนของเหล่าเด็กนักศึกษาจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันค่ะ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะมีแพทย์เก่งๆอีกมากจากการช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้

42 Listeners

80 Listeners

21 Listeners

45 Listeners

15 Listeners

64 Listeners

5 Listeners

8 Listeners

14 Listeners

5 Listeners

6 Listeners

19 Listeners

10 Listeners

3 Listeners

11 Listeners