ผลการศึกษาจากศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด หรือ CREA พบว่า 80% ของเมืองเอกในแต่ละมณฑลของจีน รวมถึงกรุงปักกิ่ง มีระดับฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2013 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน ที่รัฐบาลจีนทำสงครามกับปัญหามลพิษทางอากาศ 

อีกทั้ง ผลการศึกษายังพบว่าในปี 2023 มีเมืองเอกของจีนอย่างน้อย 13 แห่ง จากทั้งหมด 31 แห่ง มีระดับ PM 2.5 สูงกว่าค่ามาตรฐานของประเทศ และ 11 เมืองเอก มีปริมาณโอโซนเกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศ 

CREA ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มลพิษทางอากาศของจีนแย่ลง นอกจากเรื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยแล้ว ยังเป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น จากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล 

จากข้อมูลดังกล่าว สร้างความกังวลให้กับรัฐบาลปักกิ่ง ที่ยกระดับแคมเปญต่อต้านมลพิษ และดำเนินนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปิดโรงงานถ่านหินหลายแห่ง และการย้ายโรงงานอุตสาหกรรม 

ขณะเดียวกัน สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งยุโรป หรือ EEA ได้ออกรายงานเตือนว่า มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของชาวยุโรปมากที่สุด โดยความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศในยุโรปเมื่อปี 2021 ยังสูงกว่าค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ค่อนข้างมาก ซึ่งความพยายามลดมลพิษลงมาอยู่ในระดับที่ WHO แนะนำ จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตในแต่ละประเทศสมาชิกได้มากค่ะ 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องมลพิษได้กลายเป็นปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆในหลายๆประเทศ ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน ฝุ่นควันที่คอยทำร้ายคนได้ทุกวัน อยากให้ทุกคนระมัดระวังและคอยป้องกันดูแลตัวเองให้ดี ในส่วนของทางภาครัฐไทยเองก็ได้เเต่หวังจะมีมาตรการหรือนโยบายช่วยเหลือประชาชนได้ดีนะคะ