วันนี้ (8 ม.ค.2567) องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ เอฟเอเอ ได้ออกคำสั่งห้ามนำเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 มาให้บริการ จนกว่าเอฟเอเอจะมั่นใจว่าเครื่องบินมีความปลอดภัย หลังเกิดเหตุชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินหลุดกลางอากาศในสหรัฐฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างค้นหาชิ้นส่วนที่หลุดหายไป เชื่อว่าอาจร่วงหล่นแถบชานเมืองพอร์ตแลนด์ และขอความช่วยเหลือประชาชนให้ร่วมกันค้นหาชิ้นส่วน 

ในขณะที่บริษัทโบอิ้ง ได้เรียกประชุมพนักงานทุกคนเรื่องความปลอดภัย โดยย้ำว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น ทางบริษัทจะต้องทำงานอย่างโปร่งใส ร่วมกับลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อทำความเข้าใจและหาสาเหตุของปัญหา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำอีก 

จนสุดท้าย เอฟเอเอ สั่งระงับการบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ในสหรัฐฯ จำนวน 171 ลำ ซึ่งก่อนหน้านี้ อะแลสกา แอร์ไลนส์ สายการบินที่เกิดเหตุ ถูกสั่งระงับใช้งานเครื่องบินรุ่นดังกล่าวในฝูงบินทั้ง 65 ลำ เพราะคำสั่งนี้ทำให้หลายสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบิน โดยกระทบต่อผู้โดยสารหลายพันคนทั่วสหรัฐฯ ซึ่งสายการบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ในสหรัฐฯ ได้แก่ ยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ และอะแลสกา แอร์ไลนส์ ซึ่งทางอะแลสกา แอร์ไลนส์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ต้องยกเลิกไปแล้ว 163 เที่ยวบิน หรือร้อยละ 21 ซึ่งจะส่งผลกระทบไปจนถึงช่วงกลางสัปดาห์นี้  

อย่างไรก็ตามนี่ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 และบริษัทโบอิ้ง นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารเเล้วยังทำให้เที่ยวบินอื่นถูกยกเลิกไปอีก เพราะโบอิ้งขาดความรอบคอบของเครื่องบินนั่นเอง หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ทางบริษัทจะมีมาตรการตรวจสอบตัวเครื่องบิน ทุกครั้งที่มีเที่ยวบินนะคะ อยากให้คิดว่าทำให้เป็นเรื่องปกติที่ต้องตรวจสอบ ไม่ใช่เพราะเเค่เกิดอุบัติเหตุถึงเพิ่งมาตรวจสอบทีหลัง ชีวิตคนเรามันเอากลับมาไม่ได้อีกเเล้ว