เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 66 สำนักข่าวไต้หวันรายงานว่า ตำรวจเขตว่านหัวได้บุกเข้าจับกุมสาวไทยจำนวน 33 คน ใช้ฟรีวีซ่ามาแอบทำงานที่ร้านแห่งหนึ่งในย่านซีเหมินติง 

เนื่องจากได้รับแจ้งเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ชั้นใต้ดินบนถนนจงหัว ซึ่งเดิมเป็นร้านอาหารตอนกลางวัน แต่เมื่อตกเย็น ก็จะเปลี่ยนเป็นอากงเตี้ยนหรือที่รู้จักกันว่า โรงน้ำชาที่ไม่ได้ขายชา แต่จะมีลูกค้าหลักๆ เป็นผู้สูงอายุมานั่งพูดคุยกับเด็กเอนฯ บางที่แอบแฝงการขายบริการไปด้วย 

โดยตำรวจพบสิ่งผิดสังเกต นั่นก็คือจะมีหญิงไทยจำนวนหนึ่งแวะเวียนมาบ่อยครั้ง จึงทำการสืบสวนหาหลักฐานเป็นระยะเวลา 4 เดือน ก่อนจะเข้าจับกุมพ่อเล้าแซ่หู, พนักงาน 3 คน, ลูกค้าในร้าน 21 คน และสาวไทย 33 คน ที่มีอายุประมาณ 20 ปี เมื่อค่ำวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา  

โดยตำรวจชี้ว่าชาย แซ่หูวัย 36 ปีเป็นผู้รับผิดชอบและเปิดร้านในห้องใต้ดิน ทำการจ้างสาวไทยจำนวนมาก ให้นั่งทานข้าวและพาแขกไปดื่ม เล่นเกม เนื่องจากผู้หญิงไทยจำนวนมากร่วมมือดี กล้าดื่ม เล่นกับแขก และบางคนใจกล้าสามารถไปต่อกับลูกค้าผู้ชายได้ จึงทำให้ธุรกิจโรงแรมของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ 

นับว่าเป็นอีกข่าวที่น่าผิดหวังนะคะ นี่คงเป็นอีกสาเหตุนึงจากเหล่าพวกผีน้อย ที่ทำให้ในหลายๆประเทศต่างก็เข้มงวดกับนักท่องเที่ยวไทย อย่างเช่นข่าวในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวไทยหลายคนประสบปัญหาติดตม. ที่เกาหลี ทำให้ไม่สามารถท่องเที่ยวได้ตามแผน เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาเเละเสียความรู้สึก จนทำให้เกิดกระเเสต่างๆมากมาย ทำให้เกาหลีถึงกับต้องออกมายืนยันว่า ไม่มีนโยบายปฏิเสธนักท่องเที่ยวไทยนั่นเองค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ผีน้อยทำแบบนี้อีกเพราะส่งผลเสียต่อคนอื่นที่ตั้งใจเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมายนะคะ