"..พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสไว้ว่า
- ชนใดที่มีความไม่ประมาท ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือบรรพชิตก็ดี หมั่นเจริญกุศลอยู่เนืองๆก็ย่อมได้ความเพลิดเพลินในภพปัจจุบัน และในสัมปรายภพ -
.
ก็มองดูในความเป็นเหตุเป็นผลนะ ถ้าจิตใจเราปัจจุบันเรามีความสุข อนาคตก็เป็นผลจากจิตปัจจุบัน ถ้าสุขเสียแต่ตอนนี้ในอนาคตไม่ต้องพูดเลย ก็เรียกว่า ถ้าการที่นางสุมนาเทวีได้ไปเกิดดุสิตพิภพ ก็เป็นผลมาจากการที่นางได้ทำไว้ การสละแรงกายแรงใจดูแลอุปัฏฐากพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
.
จิตใจนางก็อยู่ในภพภูมิของเทวดาตั้งแต่ตอนนั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องรอตาย
.
เรื่องของผลของบุญ ท่านก็ได้ตรัสไว้ 3 ประการ
• ประการแรกเรียกว่า ปุพพเจตนา เจตนาในก่อนที่จะได้กระทำ
• มุญจนเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นระหว่างกระทำ
• อปราปรเจตนา เจตนาที่เกิดหลังจากได้กระทำแล้ว นึกถึงบุญที่ได้กระทำไว้คราวใดก็มีความปลาบปลื้มยินดีในจิตใจ
.
.
.. แต่ว่าผลของแต่ละอย่างก็อยู่ได้ไม่คงที่ตลอด มองเห็นสัจธรรมนะ บุญก็ดีบ้าง บาปก็ดีสังขารทั้งหลายก็ดี ก็ไม่เที่ยงอยู่แล้วเกิดมาตามเหตุปัจจัย
.
ถ้าเราจะมองให้เป็นปัญญายิ่งขึ้นไปแล้ว ก็อาศัยบุญนั้นให้เป็นบาทฐานสมาธิ
.
เมื่อเรามีสมาธิก็ย่อมมองเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง ว่าทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เนืองๆ
.
ถ้าเราอยากให้อยู่เป็นไปไม่ได้ อยากให้คงที่มั่นคงตลอด อยากเมื่อไรใจเราจะทุกข์เองอยู่แล้ว
.
เราจะเห็นได้ว่าทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลลงไปตามเหตุตามปัจจัย อย่างนั้นเอง ไม่ได้มีใครมาคอยทำอะไรให้เป็นอะไร จิตใจเราจะเริ่มปล่อยวาง เมื่อเห็นทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุม ยิ่งอยากคุมเมื่อไร ใจก็ยิ่งเดือดร้อนเมื่อนั้น
.
ก็มองบุญให้เป็นบาทฐานของกุศลที่ยิ่งๆขึ้นไป
.
เมื่อรู้จักทำทานก็เริ่มรักษาศีล รักษาศีลก็อย่าให้ให้เพียงพอแค่ศีลนะ เป็นบาทฐานต่อไปสู่การเจริญภาวนา
.
ในวันนี้ก็มีโอกาสแต่ละคนก็ได้มาทำทานได้รักษาศีลในขั้นต่อไปก็จะได้เจริญภาวนากัน
.
ในวันหนึ่งเราจะได้กระทำกิจสำคัญในการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบเจอพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งในวันนี้ก็จะได้เรียนรู้เรื่องของบุญนะ
.
การปรับทิฏฐิความเข้าใจเราว่าบุญแท้จริง เป็นตัวการกระทำ ทำดีก็ดีที่การกระทำ ทำชั่วก็ชั่วที่การกระทำ ทีนี้แหละถ้าเราจบที่การกระทำได้เราจะไม่คาดหวังกับผลมาก ผลจะเกิดก็เกิด ผลก็เกิดตามเหตุ เหตุมาดีผลก็ไปดี เหตุมาชั่วผลก็ไปชั่ว ใจเราไม่ยึดติดกับผลเสียแล้ว มุ่งทำแต่เหตุ นี้ใจเราเป็นอิสระแล้ว ทำดีก็ทำไปเราไม่เอาผลอยู่แล้ว ใจเราจะไปข้องอะไร.."
…………………………
ถ่ายทอดธรรมโดย
พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
เช้า 11 กุมภาพันธ์ 2567
#ผลของบุญ #บุญที่แท้จริง #มองบุญให้เป็นบาทฐานของกุศลที่ยิ่งๆขึ้นไป #มุ่งทำแต่เหตุ #ไม่หวังผล #ไม่ติดข้อง #สละละวาง #พระชยากร #ธรรมอารี
ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree