"..พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ได้ตรัสถึงธรรม 5 ประการที่บุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ย่อมเป็นไปเพื่อความจางคลาย เบื่อหน่ายก็เป็นนิพพิทา วิราคะ เป็นไปเพื่อความดับนิโรธ เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม เป็นไปเพื่อพระนิพพาน

ธรรม 5 ประการนี้ทำให้มากเจริญให้มากจะน้อมไปสู่พระนิพพาน

1) เป็นผู้มีปกติตามเห็นความไม่งามในกายอยู่

2) เป็นผู้มีปกติสำคัญว่าปฏิกูลในอาหาร

3) เป็นผู้มีปกติสำคัญว่าเป็นสิ่งไม่ยินดีในโลกทั้งปวง

4) เป็นผู้มีปกติตามเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวงอยู่เป็นประจำ

5) เจริญมรณสัญญา ไม่ประมาทในความตาย.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 10 กุมภาพันธ์ 2567

#ปฏิปทาเป็นที่สบายแก่การบรรลุนิพพาน #ธรรม5ประการ #ธรรมเพื่อความเบื่อหน่าย #ธรรมอารี #พระวรินทร

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..เป็นธรรมะสําหรับผู้ครองเรือน เพื่อที่จะไม่ให้ต้องมีเรือนมาดูแลกันอีกต่อไป เมื่อนั้นก็จะเจออิสระ จิตใจจะไม่ก่อทุกข์ขึ้นมาอีก

.

เมื่อใจไม่ก่อทุกข์ ใจนี้ก็ไม่ต้องขวนขวาย ก็เรียกว่า ดับเชื้อเพลิงแรงขับเคลื่อนไป

.

เมื่อหมดอยู่นิ่งๆได้ ใจก็เป็นสุข เป็นสุขที่ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ

.

เป็นสุขที่พระพุทธเจ้าท่านสั่งสอนว่า สิ่งนี้เลิศประเสริฐ

.

ก็นำธรรมะสำหรับฆราวาสปฏิบัติไว้ในจิตใจนะ กระทำแล้วผลย่อมเกิด เพียรสร้างเหตุแห่งที่ถูกต้องผลที่ถูกต้องก็ย่อมปรากฏอยู่แล้ว

.

ญาติโยมก็จะได้พบกับความสุขความสงบร่มเย็นในจิตใจ จะได้ไม่ต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจกับสิ่งของโลก

.

ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่ใจเราที่หลงผิด ยึดสิ่งนั้นเป็นเรา สิ่งนี้เป็นเรา

.

ในเบื้องปลายก็ต้องจาคะออกไป สละ สิ่งที่เขาเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มีแต่เราผู้หลงผิดไป

.

ขโมยก็ได้ ขโมยสิ่งนั้นจะเป็นตัวเราของเรา เรียกได้ว่าผิดตั้งแต่ต้น เมื่อผิดตั้งแต่ต้นความเดือดร้อนก็ย่อมมี

.

จะได้ไม่ต้องมาในพบเจอกับความทุกข์ในวัฏสงสารอีกต่อไป สามารถพบเจอกับความสงบสุขที่แท้จริงคือพระนิพพานได้"

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 10 กุมภาพันธ์ 2567

#ฆราวาสธรรม #ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน #เรือนทางโลก #เรือนทางใจ #พระชยากร #ธรรมอารี

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...อย่างทำงาน เครียดมาก ๆ แบ่งเวลาสักนิดหนึ่ง ช่วงกลางวันก็ได้ อยู่กับตัวเองนะ ค่อย ๆ สร้างหลักใจขึ้นมา ค่อย ๆ สร้างระเบียบจิตใจ ค่อย ๆ รู้สึกตัว อยู้กับลมหายใจบ้าง ให้ใจได้ค่อยสงบ สงบ สงบขึ้นมา ค่อย ๆ กลับสู่เส้นทางอยู่ตลอด

..สิ่งนี้ต้องให้ความใส่ใจ เหมือนคนที่เขาอยากจะเป็นเลิศในด้านอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาก็ต้องให้เวลาให้ความทุ่มเท

ในเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ก็เหมือนกัน ถ้าเราให้เวลา ให้ความใส่ใจ เรียกว่า มอบกายถวายชีวิตให้กับพระธรรม ทุกมิติของชีวิตก็อยู่กับธรรมะ กับการปฏิบัติธรรม ..ทางพ้นทุกข์ดำเนินอยู่ในเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ ความดับทุกข์ก็ไม่หายไปไหนหรอกโยม ไม่หนีไปไหนหรอก ก็เพราะว่าเราได้สละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจมากับเส้นทางนี้แล้ว ยังไงทุกข์ก็ต้องค่อย ๆ หมดไปแน่นอนนะ เพราะว่าสร้างเหตุถูก ผลก็ย่อมถูกขึ้นมา ต้องอาศัยความพากเพียรฝึกฝนปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

แต่ถ้ายังมีเหตุอยู่ยังไงก็เกิดแน่นอน ไม่เกี่ยวกับอยาก ไม่อยาก ..ไม่เกี่ยวกับว่าเราอยากจะไปเกิดเป็นอะไร ..ไม่เกี่ยวกับเราเลย เกี่ยวกับว่าเหตุเป็นอย่างไร

ถ้าเดินในเส้นทางแห่งสัมมาทั้ง 8 แล้วดับเหตุจนหมดจริง ก็ไม่มีอะไรไปเกิดเป็นอะไรนะ แต่ถ้ายังมีเหตุอยู่ วิญญาณก็ยังมีที่ตั้ง ไปก่อภพขึ้นมา มีภพก็ย่อมมีชาติขึ้นมา จะเห็นเหตุปัจจัยนะ

เป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนาก็เป็นโอกาสอันดีที่สุดของชีวิตที่จะกระทำที่สุดแห่งทุกข์ให้แจ้ง ไม่ต้องกลับมาพบกับความทุกข์ทรมานในวัฏสงสารอีกต่อไป

เป็นเหตุปัจจัยให้พบกับความสงบสุขที่แท้จริงของชีวิตคือ นิพพานได้..."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 09 กุมภาพันธ์ 2567

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..การที่คนเราจะเข้ามาสู่วิถีของการประพฤติปฏิบัติธรรม ถ้าขาดศีลเป็นพื้นฐานแล้วเนี่ยเรียกว่าเริ่มได้ยาก กระทำไปก็สั่นคลอนถ้าไม่มีรากฐานที่ดี

.

ท่านก็เปรียบได้ว่า ศีลเป็นพื้นแผ่นดิน ถ้าเรามีพื้นฐานที่มั่นคง เราจะทำกิจการงานอะไรต่างๆ อาชีพการงานทั้งหลายก็มั่นคง เป็นพื้นฐานเป็นบาทฐานไปสู่สมาธิ

.

สมาธิที่มีศีลอันมั่นคงก็เป็นบาทฐานไปสู่ปัญญา

.

นี่จึงเป็นวิถีที่พระพุทธเจ้าท่านได้เอามาเสริม ศีลที่ดีในการนำมาสู่จิตใจที่ดีจิตใจที่มั่นคง ไม่เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจ ก็นำมาสู่สมาธิความตั้งมั่นของจิต

.

จิตเมื่อมีความตั้งมั่น ก็ย่อมเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงเห็นสภาพธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น ว่ามีความไม่เที่ยง ไปยึดถือเมื่อไรก็จะเกิดทุกข์ขึ้นมาในจิตใจ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตามีความแปรเปลี่ยนไปเองโดยธรรมชาติ ไม่ได้มีตัวเราเข้าไปกระทำสิ่งนั้นให้เกิด

.

ธรรมะนั้นเมื่อมีเหตุก็ย่อมมีผลเกิดขึ้นมาอยู่แล้ว เป็นสัจธรรม

.

ก็จะเห็นได้ว่าศีลนี้เองก็เป็นพื้นฐานช่วยยกระดับจิตใจ ใช้โอกาสวันพระเราก็จะได้ทำความรู้จักกันในศีล ซึ่งเป็นพื้นฐานในของมนุษย์ในแต่ละข้อก่อน.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 09 กุมภาพันธ์ 2567

#ศีลเป็นบาทฐาน #ยกระดับจิตใจ #ยกระดับปัญญา #วันพระ #พระชยากร #ธรรมอารี

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถ้าเปรียบให้เห็นภาพเหมือนเราเห็นผีเสื้อตัวหนึ่ง ถ้าเปรียบผีเสื้อตัวนั้นเป็นความทุกข์แล้วกัน ก็ย้อนกลับมาดูว่าต้นตอของผีเสื้อตัวนั้นเนี่ยมันมาจากไหน

หลายคนอาจจะไม่รู้เลยนะว่าหนอนตัวเล็กๆที่มันเกาะตามต้นไม้ คอยกินใบไม้ใบหญ้าอยู่ ใครจะไปนึกได้ว่าเจ้าหนอนตัวนั้นโตมามันจะกลายเป็นผีเสื้อ

สิ่งนี้แหละคือสิ่งที่เรียกกันว่า ความสุข เลยนะโยม

.

.. ความสุข กับ

.. ความทุกข์

ถ้าเราดูกันนะเหมือนจะเป็นคนละสิ่ง หนอนตัวหนึ่ง กลายเป็นผีเสื้อได้ไง คนละร่างเลย ไม่รู้ว่ามันไปพัฒนากันตอนไหน แต่นี่แหละสัจธรรมความจริง เมื่อมีหนอนเกิดขึ้นมาโตเต็มวัยเป็นผีเสื้อแน่นอน

.

มีสุขที่เรารู้จักจากการรับรู้กามคุณทั้งหลาย ให้รู้ไว้เลยว่า อีกหน่อยถ้าถือเขาไว้สิ่งนี้กัดเราแน่นอน ทุกข์เกิดขึ้นแน่ๆ

.

เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่เราควรจะละจะวาง ก็เรียกว่า ความทุกข์

.

แต่ในขั้นที่ผู้มีปัญญาได้พึ่งตระหนักรู้ ก็คือ

.. สิ่งที่เรียกว่า ความสุข นี่แหละ

.. น่ากลัวกว่า

.

เรียกได้ว่า กัดกันอย่างเนียนๆ ยิ่งให้อาหารเขามาก สุดท้ายแล้วคนที่จะทุกข์ก็คือเรา

เพราะว่าเราได้ฝากจิตฝากใจฝากความสบายฝากทั้งชีวิตเราไว้กับความสุข เมื่อใดก็ตามที่ความสุขไม่สนองเราได้ตามเดิม อันนั้นแหละทุกข์มหันต์เลย

.

ก็พึงระวังนะ เราชาวพุทธในแง่ของการนำข้อคิดนี้มาปฏิบัติก็ดี ถ้าสำหรับคนทั่วไปที่ยังต้องดิ้นรนขวนขวายในกิจการงานอยู่ก็อย่างน้อยให้ระลึกว่าเป็นพื้นฐานนะมีสัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้นไว้ก่อน สำรวจดูว่าในแต่ละวันมีอะไรบ้างที่ให้ความสุขแก่เรา

.

.. สิ่งไหนให้ความสุขสิ่งนั้นย่อมเป็นที่ตั้งแห่งความรักความพอใจของเรา

เมื่อมีที่ตั้งที่เป็นที่รักที่พอใจ ความทุกข์ก็ย่อมเกิดจากสิ่งนั้น.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 08 กุมภาพันธ์ 2567

#ความสุข #ที่ตั้งแห่งความทุกข์ #วิสาขาสูตร #ร้อยรักก็ทุกข์ร้อย #ความสุขที่แท้จริง #พระชยากร #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...สันตติพอไปอาบน้ำเสร็จที่ท่าน้ำเสร็จก็เดินทางกลับมาที่โรงสุราต่อ ก็มาดื่มสุรา ชมนางงามขับร้องฟ้อนรำต่อ

แต่ก็ได้มีเหตุการณ์หนึ่งมีนางงามคนหนึ่งทเรียกว่า กินข้าวน้อย แล้วก็ทำงานหนักมาตลอด 7 วัน อยู่ ๆ ก็ป่วย เป็นลม แล้วก็ล้มนอนเสียชีวิต ณ ขณะนั้นเลย จากที่สวยสดงดงามนะ ตาก็เหลือก ปากก็อ้าค้างไว้

สันตติมหาอำมาตย์เห็นเข้า ก็เห็นความจริงเลย ตื่นเลย

..คนที่สวยสดงดงาม ดูน่ารักใคร่น่าพอใจที่เราชอบอยู่ทำไมกลายเป็นศพไปแล้ว ..เสียใจมาก ทุกข์มากเลย ..เห็นทุกข์ก็เลยเห็นธรรมขึ้นมา

ก็นึกถึงพระศาสดาที่จะเป็นผู้คลายโศกดับทุกข์ในใจให้เขาได้

พระองค์ก็ได้ชี้ให้เห็น ..ทุกข์ในวัฏสงสาร น้ำตาที่หลั่งไหลของสันติมหาอำมาตย์ที่ทุกข์จากการพลัดพรากจากนางรำ

เห็นน้ำตาเพียงแค่นี้ แต่น้ำตาที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารรวมกันแล้ว แม้กระทั่งรวมน้ำตาในที่ทุกข์ครั้งนี้ด้วยและที่เคยเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ..รวมกันแล้วก็ยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4

เพราะน้ำตาของคนที่ท่องเที่ยวในวัฏสงสารยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 อย่างเทียบไม่ได้เลย

หลังจากนั้นพระองค์ก็ได้ให้คติธรรมเป็นคติธรรมสอนใจ ให้ท่านได้ตัดกิเลสเครื่องกังวลทั้งในอดีต อนาคต และปัจจุบัน อย่ายึดมั่นในขันธ์ทั้ง 5 ท่านจะเป็นผู้สงบระงับ

สันติมหาอำมาตย์ฟังก็ตรัสรู้ธรรมเป็นพระอรหันต์สาวกขึ้นมา

.

.

.

ต่อให้วันนี้จะหนักแค่ไหน จะเรื่องจะหนักแค่ไหน แต่กลับสู่เส้นทางแล้ว ชีวิตจะเปลี่ยนเลยนะ พลิกจิตได้เลย ก็คือถ้าใครทุกข์มาก ๆ แล้วอยู่ ๆ สัมผัสความสงบ ..ถ้าเหตุปัจจัยถึงพร้อม กำลังแก่กล้า ได้สัมผัสความสงบจริง ๆ บางทีไม่เอาความทุกข์นั้นเลยนะ เดินหนีและเดินจากไปเลย ไม่กลับไปทุกข์เรื่องเดิมอีก

การกลับมาอยู่ในเส้นทางสำคัญมากเลย

ทุกวันอย่างน้อย ก็เจอเรื่องราวหนักแค่ไหน ก็อย่างน้อยก็ต้องทำในรูปแบบทุกวัน ญาติโยมฆราวาสทำในรูปแบบ เพื่อกลับสู่เส้นทางในทุก ๆ วัน..."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 07 กุมภาพันธ์ 2567

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถ้าเรามองแล้ว น้องหมาน้องแมวเขาสอนอะไรเราได้บ้าง ถ้าคนที่เขาไม่เคยพบเจอกิริยากันอย่างนี้ ก็ให้ได้ยินได้ฟังไว้ว่าไหนๆแล้ว เราก็มีร่างกายอันสมบูรณ์ มีจิตใจที่พูดคุยสื่อสาร คิดได้เป็นเหตุเป็นผล

.

เพราะฉะนั้น ก็ให้ขวนขวายนะ กิจอันสำคัญ นั่นก็คือ การสละ ละ วาง ในความเห็นผิด ว่ากายนี้ใจนี้เป็นตัวเป็นตน ละความเห็นแก่ตัวออก เพราะความเห็นแก่ตัวนี่แหละที่ทำให้เกิดการเบียดเบียนได้มากมาย

.

เมื่อเรารู้จักละวางความเห็นผิดได้ เรียกได้ว่า ให้ทานเป็น รักษาศีลเป็น รักษาความเป็นปกติของใจ พอถึงขั้นนั้น ใครมีปัญญาในการต่อยอดในก็หมั่นเจริญภาวนานะ อย่าให้ได้อายน้องหมาน้องแมวเขา มาใส่บาตรก็มามาช่วยพระเดินดูทางก็มา เรียกว่ามีปัญญาครบกระทำกิจที่เหมาะสมแก่ปัญญาของตน

.

มนุษย์ก็เรียกว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพอยู่แล้ว ถ้าในมุมมองของสัตว์เดรัจฉานเองก็ยังอยู่ในอบายนะ เพราะว่าชีวิตเขาเนี่ยไม่สามารถที่จะประกอบทาน รักษาศีล หรือเจริญภาวนาได้เลย เรียกว่าเป็นชีวิตถ้าพบเจอก็พบเจอได้แค่สุขแค่เพียงเล็กน้อยนะ สุขอย่างยิ่งไปจนถึงความหลุดพ้นเป็นไปไม่ได้

.

เมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้วก็หมั่นตระหนักเตือนตัวเองอยู่เนืองๆ อะไรที่เราพึ่งทำแล้วเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง แก่ผู้อื่นได้ก็พึ่งทำ โดยเฉพาะเป็นประโยชน์แก่พระศาสนาได้ก็ยิ่งดีเลย

.

ก็เมื่อนั้นเอง ก็จะไม่ได้ชื่อว่าเสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบเจอพระพุทธศาสนา สิ่งนี้เองก็ย่อมที่จะเป็นไปเพื่อให้เราจะได้หลุดพ้นจากภัยในวัฏสงสารทั้งปวงได้.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 07 กุมภาพันธ์ 2567

#เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบเจอพระพุทธศาสนา #กิจที่พึงทำ #กาสาวชาดก #ผู้ควรนุ่งห่มผ้ากาสาวะ #พระชยากร #ธรรมอารี

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..นี่แหละชีวิตก็ผ่านไปไว วันเวลาก็ผ่านไป แป๊บเดียวนะ ..แป๊บเดียวเดือนที่สองแล้ว วันเวลากับดาราติดกับหายไวๆผ่านไปไวๆ

เวลาผ่านไปชีวิตก็ค่อย ๆ เดินทางไปสู่ความดับ

ทุกครั้งที่เกิดมาก็เรียกว่าถูกพยากรณ์ไว้แล้ว ..แก่แน่ ..เจ็บแน่ ..แล้วก็จากไปแน่ ๆ

เมื่อเกิดมา มีแก่ ยังไงก็ต้องเจ็บเป็นธรรมชาติ

เวลาความเจ็บเข้ามาถึง ทำยังไงโยม ? ถ้าใจไม่มั่นคงพอ ก็จะเป็นทุกข์ไปกับความเจ็บ เป็นเรื่องธรรมชาตินะ การเจ็บป่วยต่าง ๆ มีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

แต่ถ้าใจเราไม่ยอมรับความจริงก็จะทุกข์ไปกับความเจ็บป่วยนั้น ก็เป็นสัญญาณเตือนให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เด็ก คนโต หนุ่มสาว วัยรุ่น วัยชรา จะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ..ทุกคนก็เจ็บป่วยกันได้ทุกคน

เมื่อความเจ็บป่วยเข้ามาถึงก็เป็นสัญญาณเตือนให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต

พอเป็นสัญญาณเตือนสู่ความดับ ..ความตายย่อมมาถึงแน่ ไม่มีไม่แน่ ..เรามีความตายเป็นธรรมดา ยังไงก็เลี่ยงไปไม่พ้น เป็นข้อสอบใหญ่ที่ทุกคนต้องเจอนะ

ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่า สิ่งนี้เจอแน่ หนีไปไม่พ้น เลือกไม่ได้ด้วยว่าจะจากไปเมื่อไหร่ เวลาไหน ที่ไหน กับใคร ..อาจจะไปคนเดียวก็ได้ ไม่มีใครอยู่ด้วยก็ได้

ทุกขณะเลือกไม่ได้เลย จะจากไปด้วยขณะจิตแบบไหน ..เลือกไม่ได้นะ เพราะขณะจิตที่สุดท้ายเป็นผลที่มาจากสภาพจิตปัจจุบันนี่แหละที่สร้างเหตุปัจจัย.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 06 กุมภาพันธ์ 2567

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..จิตใจก็ซึมซับสิ่งต่างๆผ่านมามากมาย มีกิเลสตัณหาอุปาทานต่างๆ เครื่องร้อยรัดอุปาทานต่างๆ ก็เป็นธรรมดา จิตก็จะคอยจะดิ้น หรือคอยไหลไปกับความคุ้นชินเก่าๆ

.

ก็สามารถเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนความคุ้นชินได้ด้วยการเจริญมรรคมีองค์ 8 อบรมด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา เป็นประจำสม่ำเสมอ จนมีคุณสมบัติภายในจิต ที่เรียกว่า องค์มรรคทั้ง 8 อันนี้ต้องเพียรสร้างเหตุอย่างนี้เรื่อยไป

.

เปลี่ยนวิถีของจิต เปลี่ยนจากความคุ้นชินเก่าๆที่มันทำให้เป็นการสร้างเหตุแห่งความทุกข์ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นเจริญมรรคมีองค์ 8 เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่

.

ตรงนี้แหละจิตก็จะค่อยๆพรากออกจากสิ่งที่เป็นอกุศลต่างๆ ค่อยๆฝึกฝนไป เมื่อถึงจุดหนึ่งจึงได้เกิดการเรียนรู้ก็จะเกิดความรู้ทุกข์ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย เบื่อหน่อย เห็นเหตุแห่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เบื่อหน่ายไปจะเป็นการละเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ละตัณหาอุปาทานต่างๆ เห็นโทษภัยในวัฏสงสาร

.

เมื่อเรียนรู้กายใจมากๆ มันก็จะค่อยๆเรียนรู้เอง จิตเขาค่อยๆเรียนรู้นะ เพาะบ่มฟูมฟักได้

.. จากสัมมาปฏิบัติ

.. จากการอบรมด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา

.. ด้วยอริยมรรคมีองค์ 8

.

ถึงเขายังไม่ได้ซึมซับถึงโทษภัยในวัฏสงสาร เราก็สามารถค่อยๆพิจารณาได้จากการฟังธรรมจากการพิจารณาแล้วก็จากการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเรื่อยไป

.

พอฝึกไปจิตเริ่มมีความละเอียด ก็จะเริ่มเห็นนี่แหละ เห็นโทษภัยของจิตที่เป็นอกุศล ความเร่าร้อนต่างๆ ความคิดที่ไม่ถูกต้อง คำพูดที่ไม่ถูกต้อง การกระทำที่ไม่ถูกต้อง ที่ทำให้เกิดความเร่าร้อน เกิดความทุกข์ เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจตามมา

.

คำว่า "เห็นทุกข์ในวัฏสงสาร" มันก็ไม่ได้มองไกลออกไปนอกตัวที่ไหนหรอก ก็เห็นอยู่ในกายในใจ สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันในกายในจิต ซึ่งจริงๆแล้วมันก็เกิดอยู่เป็นปกติ เพียงแต่ว่าจะมีสติรู้เท่าทันเห็นการทำงานเห็นสิ่งที่ปรากฏ

.

จริงๆแล้วสิ่งต่างๆก็แสดงสัจธรรมอยู่เนืองๆ แต่ว่ามองไม่เห็น เห็นแต่สิ่งที่มันเป็นสมมุติแล้วก็ไหลไปตามโลกสมมุติจริง

.

จริงๆสภาวะที่เป็นสัจธรรม เป็นปรมัตถธรรม ก็แสดงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

.

แต่จะเห็นได้ก็ต้องอบรมปฏิบัติอบรมศีลสมาธิปัญญา อริยมรรคมีองค์ 8 นั่นเองนะ

.

ก็จะเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายเพื่อความคลายความกำหนัด เพื่อความจางคลาย เพื่อความดับเพื่อการตรัสรู้เพื่อพระนิพพาน.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 06 กุมภาพันธ์ 2567

#เห็นทุกข์ #เปลี่ยนวิถีจิต #เปลี่ยนนิสัย #คุณสมบัติภายในจิต #อริยมรรคมีองค์8 #สัมมาปฏิบัติ #เพียรสร้างเหตุที่ถูกต้อง #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..การทำบุญ ก็เป็นการให้การสละออก เป็นการสละความตระหนี่ถี่เหนียวมลทินในจิตใจ สละความหวงแหน สละความโลภ มีจิตที่เห็นอกเห็นใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูล ก็ให้อยู่ในความพอดีที่ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

.

หลักของพระพุทธศาสนา ทุกอย่างก็อยู่บนความพอดี ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ไม่มากไป ไม่น้อยไป ทุกอย่างอยู่ในความพอดี

.

ถ้าทำบุญแล้วต้องมาร้อนใจเดือดร้อนในภายหลังมันก็ไม่เป็นบุญแล้วโยม ก็เกิดกังวลเกิดความทุกข์ต่างๆ ทุกอย่างก็ด้วยความพอดี

.

เรื่องของการทำบุญไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องของการถวายทานวัตถุสิ่งของเท่านั้นนะ ก็มีทั้งเรื่องของความมีน้ำใจ การให้การเอาใจใส่ต่อกัน การให้การช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งแรงกายแรงใจ หรือให้ความรู้ความเข้าใจที่ดีต่อกัน ให้กำลังใจกัน ให้ความรู้สึกที่ดีต่อกัน ให้โอกาสต่อกัน ให้อภัยต่อกัน อย่างนี้ก็เป็นการให้ การแบ่งปัน การสละออก ด้วยกันทั้งหมด

.

ถ้าจัดง่ายๆก็มีทั้งวัตถุทาน อภัยทาน ธรรมทานให้ความรู้ความเข้าใจ ก็เป็นบุญเป็นกุศลทั้งหมด

.. นอกจาก ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ทานแล้ว

.. ก็มีทั้ง สีลมัย บุญที่สำเร็จจากการรักษาศีล การประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องดีงาม

.. ภาวนามัย บุญที่สำเร็จจากการภาวนา เรียนรู้การเจริญสติสัมปชัญญะ การทำความรู้สึกตัวขึ้นมาอยู่เสมอ

.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า หากพูดถึงกองกุศลธรรมทั้งปวง บ่อเกิดแห่งกองกุศลทั้งปวงถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ สติปัฏฐาน 4

.

ญาติโยมเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ก็ควรที่จะได้ศึกษาปฏิบัติ เป็นบุญเป็นกุศลเป็นอริยทรัพย์อันประเสริฐทำให้พัฒนาคุณสมบัติของจิตใจ ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวไป

.

กายภาพนี้ ก็พอหล่อเลี้ยงชีวิตในชีวิตนี้ แต่เมื่อต้องหมดสังขาร ทรัพย์สมบัติต่างๆก็เป็นของโลก ร่างกายก็ยังต้องทิ้งไว้ที่เชิงตะกอน เอาอะไรไปไม่ได้

.

ก็มีแต่บุญกุศล ก็คือคุณสมบัติของจิตที่เป็นทรัพย์ภายใน ที่เรียกว่า อริยทรัพย์ จะติดตัวไป

.

เพราะว่าจิตมีคุณสมบัติในการส่งต่อ..ส่งต่อ..ส่งต่อ จิตเกิดแล้วก็ดับ แต่ก็มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดส่งต่อไป

.

เมื่อจิตดวงสุดท้ายดับลง เกิดจุติจิต เกิดปฏิสนธิจิตในภพภูมิต่อไป ก็มีการส่งต่อคุณสมบัติของจิตต่อไป แต่ทรัพย์ทางทางโลกนี้ส่งต่อไม่ได้เอาไปไม่ได้ ร่างกายก็เอาไปไม่ได้ ความรู้ทางโลกก็เอาไปไม่ได้ จบแล้วจบกัน แต่คุณสมบัติที่เพาะบ่มไว้ในคุณสมบัติของจิต เป็นอริยทรัพย์ภายในติดตัวไป.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 05 กุมภาพันธ์ 2567

#การทำบุญ #วิธีทำบุญ #บุญกุศล #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree