
Sign up to save your podcasts
Or


กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น หรือ MIC ได้เรียกร้องให้บริษัทแอลวาย คอร์ป (LY Corp) เจ้าของแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) ยกระดับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน หลังเกิดเหตุข้อมูลจำนวนมากรั่วไหล โดยทาง MIC ระบุว่า เจ้าของแอปพลิเคชันไลน์ต้องพึ่งพาเนเวอร์ คอร์ป (Naver Corp) ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อดำเนินการระบบแอป แต่ก็ยังขาดมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
นอกจากนี้ MIC ยังเรียกร้องให้บริษัทแอลวาย คอร์ป ยกระดับการดำเนินงานด้วยการทบทวนความสัมพันธ์ด้านทุนกับเนเวอร์ เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้อิทธิพลของเนเวอร์อย่างมาก
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อนับจนถึงเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา เอ โฮลดิ้งส์ คอร์ป ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นของซอฟต์แบงก์ คอร์ป บริษัทด้านโทรคมนาคมของญี่ปุ่น ถือหุ้นในบริษัทแอลวายถึง 64.5% และอีกครึ่งหนึ่งถือหุ้นโดยเนเวอร์
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ย. แอลวายเปิดเผยว่า ข้อมูลส่วนบุคคลถึง 440,000 รายการรั่วไหล รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ใช้และพันธมิตรทางธุรกิจ และเพิ่มขึ้นแตะ 510,000 หลังจากการสอบสวนในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลครั้งนี้เกิดจากการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทในเครือโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะโดยส่วนใหญ่มีประชาชนมากมายที่ใช้ LINE เป็นหลักในการติดต่อข้อมูล ดั้งนั้นทางด้านบริษัทแอลวาย คอร์ปเองก็ควรที่จะยกระดับการป้องกันข้อมูลต่างๆของแอปเพื่อไม่ให้เกิดข้อมูลรั่วไหลแบบครั้งก่อนอีก และต้องมีการพูดคุยกับเนเวอร์คอร์ปด้วยเช่นกันว่าจะมีการแก้ไขหรือมาตรการต่างๆอย่างไรหลังจากนี้
By RCMediaกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น หรือ MIC ได้เรียกร้องให้บริษัทแอลวาย คอร์ป (LY Corp) เจ้าของแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) ยกระดับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน หลังเกิดเหตุข้อมูลจำนวนมากรั่วไหล โดยทาง MIC ระบุว่า เจ้าของแอปพลิเคชันไลน์ต้องพึ่งพาเนเวอร์ คอร์ป (Naver Corp) ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อดำเนินการระบบแอป แต่ก็ยังขาดมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
นอกจากนี้ MIC ยังเรียกร้องให้บริษัทแอลวาย คอร์ป ยกระดับการดำเนินงานด้วยการทบทวนความสัมพันธ์ด้านทุนกับเนเวอร์ เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้อิทธิพลของเนเวอร์อย่างมาก
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อนับจนถึงเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา เอ โฮลดิ้งส์ คอร์ป ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นของซอฟต์แบงก์ คอร์ป บริษัทด้านโทรคมนาคมของญี่ปุ่น ถือหุ้นในบริษัทแอลวายถึง 64.5% และอีกครึ่งหนึ่งถือหุ้นโดยเนเวอร์
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ย. แอลวายเปิดเผยว่า ข้อมูลส่วนบุคคลถึง 440,000 รายการรั่วไหล รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ใช้และพันธมิตรทางธุรกิจ และเพิ่มขึ้นแตะ 510,000 หลังจากการสอบสวนในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลครั้งนี้เกิดจากการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทในเครือโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะโดยส่วนใหญ่มีประชาชนมากมายที่ใช้ LINE เป็นหลักในการติดต่อข้อมูล ดั้งนั้นทางด้านบริษัทแอลวาย คอร์ปเองก็ควรที่จะยกระดับการป้องกันข้อมูลต่างๆของแอปเพื่อไม่ให้เกิดข้อมูลรั่วไหลแบบครั้งก่อนอีก และต้องมีการพูดคุยกับเนเวอร์คอร์ปด้วยเช่นกันว่าจะมีการแก้ไขหรือมาตรการต่างๆอย่างไรหลังจากนี้

42 Listeners

80 Listeners

21 Listeners

45 Listeners

15 Listeners

64 Listeners

5 Listeners

8 Listeners

14 Listeners

5 Listeners

6 Listeners

19 Listeners

10 Listeners

3 Listeners

11 Listeners