ไต้หวันไฮเทค  -10 มี.ค. 63-  ไต้หวันส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ

ธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ ทางการไต้หวันเล็งเห็นโอกาสธุรกิจมหาศาลมุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นชาวไต้หวันรวมทั้งดึงดูดทุนและบุคคลากรจากต่างประเทศเข้ามาในไต้หวัน

คาดว่าปี 2030 มูลค่าเศรษฐกิจ AI ในเอเชียจะสูงถึง 98 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน รัฐบาลไต้หวันทุ่มงบประมาณปรับปรุงบ้านพักนักกีฬา มหาวิทยาลัยโลก (Universiade)  เขต หลินโข่วด้วยงบประมาณ 700 ล้านเหรียญไต้หวัน จัดตั้งเป็น Linkou Starup Terrace สวนสตาร์ทอัพ เป็นศูนย์กลางบุคลากร และทรัยพากรด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ต่างๆ อยู่ด้วยกัน จะกลายเป็นฮับศูนย์กลางวิจัยพัฒนาเอเชีย ดึงดูดบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุน เป็นการขยายโอกาสธุรกิจของไต้หวันสู่ต่างประเทศ 

ไต้หวันไฮเทค  -03 มี.ค. 63-  ม. Taiwan Tech สร้างแขนกลฆ่าเชื้อโรคและขจัดกลิ่นหน้ากากอนามัย ด้วยเวลา 20 วินาที ต่อ 1 ชิ้น

การระบาดโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ โควิด-19 ลุกลาม หน้ากากอนามัยขาดแคลน ม. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน (National Taiwan University of Science and Technology - Taiwan Tech) แถลงข่าวในวันที่ 27 ศ. กัวหวีหลิน (郭俞麟) ผู้นำทีมวิจัย คณะวิศวกรรมเครื่องกล ม. Taiwan Tech ประดิษฐ์เครื่องจักรแขนกลทำความสะอาดฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัย 

ศ. กัว บอกว่า ในช่วงที่ผ่านการระบาดโควิด-19 รุนแรง หน้ากากอนามัยขาดแคลน จึงได้คิดวิธีการขยายอายุการใช้งานหน้ากากอนามัย โดยร่วมมือกับบริษัทผลิตเครื่องจักรในไต้หวันสร้างเครื่องจักรแขนกลทำความสะอาดฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัย มูลค่าเกินกว่าล้านเหรียญไต้หวัน ด้วยระบบ AP Plasma

ศ. กัวบอกว่า การใช้ plasma ในการฆ่าเชื้อโรคเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นนานแล้ว เช่น การฆ่าเชื้อเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ ฆ่าเชื้อบนเปลือกไข่ไก่ เป็นการใช้อนุภาคไฟฟ้าจากพลาสมาในการทำลายเชื้อโรค โดยการทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรค การนำ AP Plasma ทำความสะอาดฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยดีกว่าการใช้รังสีอุลตร้าไวโอเลตหรือแอลกอฮอล์ เพราะไม่ทำลายพื้นผิว ยังสามารถขจัดกลิ่นได้ด้วย หน้ากากอนามัย 1 ชิ้นใช้เวลา 20 วินาทีเท่านั้น

ม. Taiwan Tech กำลังจะเปิดเทมอวันที่ 2 มีนาคม ศ. กัว บอกว่า เลี่ยวชิ้งหรง (廖慶榮) อธิการบดีของมหาวิทยาลัย สนับสนุนวิธีการนี้ การที่นักศึกษาและอาจารย์ในมหาวิทยาลัยใช้ได้เครื่องจักรนี้ เป็นการขยายอายุการใช้งานหน้ากากอนามัยและยังลดปริมาณขยะได้ด้วย 

ไต้หวันไฮเทค  -25 ก.พ. 63-  ไต้หวันจะทดลองยิงจรวด HAPITH-I อีกครั้งในเดือนมีนาคม 

บริษัท TiSPACE ของไต้หวันทดลองยิงจรวดสร้างขึ้นเอง HAPITF-1 ประสบความล้มเหลวเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศไม่อำนวย ชนเผ่าหมู่บ้านหนันเถียน (南田) เมืองไถตง ยินยอมให้ทดลองยิงได้อีกโดยมีเงื่อนไขจะต้องมีการพัฒนาชุมชน คาดว่าการยิงจรวดจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 

บริษัท TiSPACE ประชุมร่วมกับชนเผ่าและได้มีการแถลงการณ์ร่วมในวันที่ 17 หมู่บ้านหนันเถียนชี้ว่ายินดีต่อโครงการพัฒนาจรวดแห่งชาติ ในการยิงจรวด บริษัท TiSPACE และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องวางแผนพัฒนากิจการและวัฒนธรรมท้องถิ่นของหมู่บ้านหนันเถียน และรวมถึงหมู่บ้านอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบที่ได้รับผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย 

จรวด HAPITH-1 ความสูง 10 เมตรกว้าง 1.5 เมตร น้ำหนัก 3 ตัน จะทดลองยิงขึ้นสู่ระดับความสูงเกิน 200 กิโลเมตร วัตถุประสงค์เพื่อส่งดาวเทียมและเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร มุ่งเป้าหมายตลาดเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศเป็นหลัก

ไต้หวันไฮเทค  -18 ก.พ. 63-  ไต้หวันพัฒนาเทคโนโลยีขนส่งผัก ผลไม้ไปต่างประเทศ

         นักวิจัยการเกษตรไต้หวันพัฒนาเทคโนโลยีขนส่งผักสดทดลองส่งออกผักกาดหอมห่อหรือผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce) และผักกาดโรเมน (Romaine Lettuce) หรือผักกาดคอส ที่เพาะปลูกในเมืองหยุนหลินจำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ปริมาณตู้ละ 13-15 ตันทางเรือ ไปยังประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับซาอุดิอาระเบีย

         คุณหลินเจียหรง (林家榮) หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศ คณะกรรมการการเกษตรไต้หวันเปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการผักกาดหอมสายพันธุ์ต่างๆ ในไต้หวัน มีความต้องการขยายตลาดใหม่ๆ ทาง คกก.การเกษตรจึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งผักสดในมีระยะเวลายาวขึ้น โดยล่าสุดสามารถยืดอายุในการเก็บรักษาคุณภาพผักให้สดใหม่ได้นานถึง 28 วัน เพราะฉะนั้นจึงสามารถส่งออกไปขายยังประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ ดังนั้นในอนาคตนอกจากการส่งออกไปขายยังประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนแผนใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดเดิมที่ได้รับความนิยมมากอยู่แล้ว และยังมีภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งอยู่ในระหว่างการทดลอง หากประสบความสำเร็จก็อาจจะขยายตลาดส่งออกไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา ทวีปอเมริกาใต้ รัสเซีย และทวีปยุโรปด้วย

ไต้หวันพัฒนาการแพทย์อัจฉริยะ จัดตั้งคลังข้อมูลการรักษาพยาบาล

       สถาบันอุตสาหกรรมสารสนเทศ (Institure for information Industry - III) และ ITM (nternational Trust Machines Corporation) ร่วมมือกัน จัดทำบล็อกเชนการดูแลสุขภาพระบบแรกของโลก 

ไต้หวันกำลังก้าวเข้าสู่สังคมคนชรา ผู้ประกอบการเล็งเห็นศักยภาพการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการดูแลรักษาพยาบาล III จัดตั้งพันธมิตรเทคโนโลยีสุขภาพ ระดมผู้ประกอบการพัฒนาการแพทย์อัจฉริยะ ช่วยเหลือขจัดอุปสรรคและสร้างโมเดลธุรกิจการรักษาพยาบาลอัจฉริยะ การนำข้อมูลบัตรประกันสุขภาพแบบเดิม และทะเบียนประวัติคนไข้ นำมาเชื่อมโยง กลายเป็นคลังข้อมูลอัจฉริยะสุขภาพของประชาชน เชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่ห่วงข้อมือผ่าน IoT เก็บข้อมูล น้ำหนัก ความดันโลหิต ประยุก์การใช้งานได้กว้างขวาง ในด้านการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ การประกันสุขภาพสร้างโอกาสธุรกิจไร้ขอบเขต 

ไต้หวันไฮเทค  -04 ก.พ. 63-  ไต้หวันสร้างดาวเทียม Formosat 8 ติดตั้ง AI มีความแม่นยำมากขึ้น ตั้งเป้ายิงขึ้นสู่วงโคจร ปี 2022 

โครงการวิจัยพัฒนาด้านอวกาศของไต้หวันมีความคืบหน้า ศูนย์อวกาศแห่งชาติแถลงว่า กำลังสร้างดาวเทียม Formosat 8 ดาวเทียมสำรวจระยะไกล ใช้ในการสำรวจพื้นที่ของประเทศ และป้องกันภัยธรรมชาติ คาดว่าจะยิงเข้าสู่วงโคจร ในปี 2020 ดาวเทียม Formosat 8 ติดตั้งกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงกว่า 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับ Fomosat 5

ศูนย์อวกาศแห่งชาติของไต้หวันแถลงว่า Formosat 8 ถ่ายภาพได้ละเอียดกว่า ภาพขาวดำระดับความละเอียด 2 เมตร ภาพสีความละเอียด 4 เมตร ความละเอียดเพิ่มขึ้นก็คือจะสามารถถ่ายวัตถุที่เล็กลงได้ เช่น แต่ก่อนถ่ายภาพเห็นรถยนต์แต่ละคัน พัฒนาขึ้นเป็นเห็นคนแต่ละคนที่อยู่บนถนนได้

เว็บไซต์ศูนย์อวกาศแห่งชาติของไต้หวันเปิดเผยด้วยว่า Formosat 8 จะมีระบบ AI คอยตรวจดูสภาพภูมิอากาศ หากพบกับภาวะมีเมฆหมอก AI จะเล็งหาตำแหน่ง ที่ไม่มีเมฆหมอกเพื่อการถ่ายภาพชัดเจน หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพเสียหรือภาพไม่มีประโยชน์

ไต้หวันไฮเทค  -28 ม.ค. 63-  AI ช่วยผลิตโฆษณา ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา

ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยชิงหัวของไต้หวัน ใช้เวลา 2 ปี พัฒนาเทคโนโลยี AI ผลิตคอนเท้นต์โฆษณา รวมทั้งแนะนำวิธีทำการตลาด ลดต้นทุนและเวลาได้อย่างมาก

ปัจจุบัน โฆษณาดิจิตอลมีบทบาทมากในการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน  ใน App มือถือจะเห็นโฆษณามากขึ้น การผลิตงานโฆษณาจะต้องมีความหลากหลาย และมีจุดเด่นที่น่าสนใจต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ การผลิตโษณาแต่ละชิ้นจึงต้องใช้เวลานาน

รศ. อู๋ส้างหง (吳尚鴻)  คณะวิศวกรรมสารสนเทศ และ รศ. หลิวอี้เวิ่น (劉奕汶) คณะวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยชิงหัว (National Tsing Hua University) ในไต้หวัน และทีมวิจัย ใช้เวลา 2 ปี พัฒนา AI Deep Learning ผสานกับการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย ทำการผลิตโฆษณาโดยอัตโนมัติ

รศ. อู๋ บอกว่า ผู้ใช้งานเพียงแค่ป้อนข้อมูลสินค้า และความคาดหวังของโฆษณา AI จะทำการวิเคราะห์ และผลิตคอนเท้นต์โฆษณาภาพและเสียงในเบื้องต้นที่มีรูปแบบผสมผสานองค์ประกอบหลายอย่าง เหมาะสมกับสถานการณ์ ผู้ใช้งานทำการปรับปรุงให้เหมาะสมมากขึ้นต่อไป ซึ่งจะลดเวลาและต้นทุนอย่างมาก  ระบบดังกล่าวไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อทดแทนนักออกแบบโฆษณาแต่จะช่วยทำให้การผลิตโฆษณามีความสะดวกและง่ายมากขึ้น

ไต้หวันไฮเทค  -21 ม.ค. 63-  ประมูล 5G รอบแรกมูลค่าสูงถึง 138,081 ล้านเหรียญไต้หวัน คาดแม่ข่ายกำไรหด ผู้บริโภคหวั่นค่ารายเดือนสูง

การประมูลคลื่นสื่อสาร 5G ปิดฉากลง ในตอนเช้าวันที่ 16 ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 138,081 ล้านเหรียญไต้หวัน ทะลุการประมูล คลื่น 4G ปี 2013 ที่ 118,650 ล้านเหรียญไต้หวัน คลื่นความถี่ยอดนิยม 3.5 GHz มูลค่าประมูล 136,433 ล้านเหรียญไต้หวัน ทำสถิติสูงสุดระดับต้นของโลก 

บุคคลในวงการชี้ว่า เป็นธรรมดาของมีอยู่น้อยแต่ความต้องการสูง จึงผลักราคาประมูลประมูลคลื่น 5G พุ่งกระฉูด บริษัทจงหัว เทเลคอม(อดีตองค์การโทรศัพท์) ได้รับการจัดสรรคลื่นมากที่สุด ด้วยราคาประมูล 46,293 ล้านเหรียญไต้หวัน รองลงมาคือ ฟาร์อีส โทน 41,012 ล้านเหรียญไต้หวัน ไต้หวัน โมไบล์ 30,656 ล้านเหรียญไต้หวัน และ ไต้หวัน สตาร์ 19,708 ล้านเหรียญไต้หวัน ส่วนเอเชีย แปซิฟิก เทเลคอม ถอยออกจากการประมูลช่วงคลื่น 3.5 GHz จึงเสนอประมูลช่วงคลื่นอื่นด้วยมูลค่าเพียง 412 ล้านเหรียญไต้หวันเท่านั้น สำหรับการประมูลในรอบที่ 2 เพื่อจัดสรรตำแหน่งคลื่น 5G จะมีการต่อสู้อย่างดุเดือดอีกหรือไม่ จะต้องรอดูต่อไป

ไต้หวันไฮเทค  14 ม.ค. 63-  ไต้หวันส่งเสริมการผลิตรถบัสไฟฟ้า

ไต้หวันเร่งยกระดับยานพาหนะขนส่งมวลชน สภาบริหารตั้งเป้าหมายจะเปลี่ยนรถบัสน้ำมันเป็นรถบัสไฟฟ้าทั้งหมด ปี 2030 (รวมทั้งรถของทางราชการใช้รถไฟฟ้าทั้งหมด) ส่งเสริมผลักดันการผลิตรถบัสไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีของตนเอง และยกระดับการผลิตตั้งแต่การออกแบบตัวรถ โดยจะดำเนินมาตรการจูงใจและการประสานห่วงโซ่การผลิต การบ่มเพาะบุคคลากรรวม 4 ประการ ภายในอนาคต 10 ปีข้างหน้า ทุ่มเทงบประมาณ 90 000 ล้านเหรียญไต้หวัน จะกระตุ้นโอกาสธุรกิจมหาศาล 170,000 ล้านเหรียญไต้หวัน

ไต้หวันไฮเทค  -07 ม.ค. 63-  ข้อมูลจากดาวเทียม FORMOSAT-7 จะใช้งานได้ทั่วโลก ก.พ.2020

     กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวต่อที่ประชุมสภาบริหารไต้หวันว่า ดาวเทียม FORMOSAT-7 ที่ถูกส่งขึ้นบนอวกาศเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ และเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็ได้ทดลองส่งข้อมูลการตรวจสอบสภาพชั้นบรรยากาศและการเคลื่อนตัวทางดาราศาสตร์กลับมาใช้งาน ซึ่งผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ถือว่ามีความแม่นยำสูง จึงคาดการณ์ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 จะเปิดให้ทั่วโลกสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับจากดาวเทียม FORMOSAT-7 ส่วนดาวเทียม wind hunter ที่อยู่ในระหว่างการวิจัยพัฒนาก็คาดว่าจะใช้งานได้ในปีพ.ศ.2564

     รายงานระบุว่า โครงการเกี่ยวกับอวกาศระยะที่ 3 ระหว่างปีพ.ศ.2562-2571 ซึ่งมีระยะเวลารวมทั้งหมด 10 ปีนั้น รัฐบาลได้ทุ่มงบลงไปถึง 25,100 ล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อพัฒนาดาวเทียวสำรวจระยะไกล (remote sensing satellite) จำนวน 10 ดวง สำหรับใช้สร้างกาแล็กซีดาวเทียมให้สมบูรณ์แบบที่สุด รวมถึงการบูรณาการอุตสาหกรรมการวิจัยของสถาบันการศึกษาภายในประเทศ สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ ยกระดับความก้าวหน้าเพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอวกาศระดับโลก