ก่อนปิดท้ายปีเก่าบ้านเราได้เกิดข่าวใหญ่ขึ้นด้วยการบุกเข้าจับกุม ‘รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา’ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คาห้องทำงาน พบเงินสดจำนวนมากเกือบ 5 ล้านบาท พร้อมหลักฐานเป็นซองเงินที่เขียนกำกับหน้าซอง ระบุถึงแหล่งที่มาของเงินและเดือนที่จ่าย จากหน่วยงานในสังกัดของกรมอุทยานฯ

วันนี้พยานปากเอก ‘ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร’ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้าพบตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อให้ปากคำกรณีที่เป็นคนยื่นข้อมูลหลักฐานให้ตรวจสอบ รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน และมีความผิดในมาตรา 149 ‘เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ’ และมาตรา 157 ‘ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่’

พร้อมยืนยันข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนมา ได้รับรู้มาตั้งแต่ตนเองกลับเข้ามารับตำแหน่งว่ามีการรังแกมาโดยตลอด ทั้งต้องจ่ายรายเดือน, การเก็บเปอร์เซ็นต์ และการเก็บเงินเหล่านั้นส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานเดือดร้อนในการใช้ชีวิต

ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน โยกอธิบดีกรมอุทยานฯ ช่วยงานทำเนียบ เพื่อสืบสวนอย่างเต็มที่

เหตุการณ์นี้สร้างความสั่นคลอนระบบข้าราชการไทยอีกครั้ง และยังอยู่ในความสนใจของประชาชนว่าผลสุดท้ายจะจบลงเช่นไร?

พูดคุยกับ ศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT