อบรมอานาปานสติ ครั้งที่ 77โดย (พระกิตติวิมลเมธี) พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโมผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหารวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 ณ อาคารธรรม ดีรุ่งโรจน์ YouTube: https://youtu.be/YGGPK3rBZ0M2 ขั้นแรกเป็นการกำหนดรู้ พอกำหนดรู้ไปเรื่อยๆ จิตผู้รู้ก็จะคลายตัวออกมาจากสิ่งที่กำหนด ที่ตั้งของจิตรู้ก็เหลือเป็นเพียงแค่สถานะ เป็นที่อาศัยของจิตผู้รู้ ไม่ใช่เป็นที่อยู่ ลมหายใจออก ลมหายใจเข้าก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ถูกรู้ ตัวผู้รู้จะต้องไม่ไปปักอยู่ที่ใดที่หนึ่ง นั่นคือเป็นอิสระจากนิมิต อิสระจากลมหายใจ เมื่อลมหายใจเป็นแค่สิ่งที่ถูกรู้ สภาวะอื่นๆที่จะเกิดขึ้นในขณะนั้นมันก็เป็นเพียงแค่สภาวะที่ปรากฏ จิตผู้รู้ก็แค่รู้ แค่รู้ แต่กิจที่ผู้ปฏิบัติจะต้องดำเนินอย่างแน่วแน่และต่อเนื่อง ก็คือ รู้ลมหายใจออกยาว รู้ลมหายใจเข้ายาว รู้ลมหายใจออกสั้น รู้ลมหายใจเข้าสั้น อะไรที่ไม่ใช่หยิบออกไป ก็เลยเหลือจิตผู้รู้ที่เป็นอิสระ สิ่งที่ไม่ใช่คืออุปกิเลสในอานาปานสติ นิวรณ์5 ลมหายใจยาวถ้าเราใช้การกำหนด เฝ้านิ่งๆอยู่ที่นิมิต ที่รู้สึกได้ ความยาวของลมมี 2 แบบ ตามระยะทาง จิตจะปักอยู่ที่ลมหายใจ ความกวัดแกว่งของจิตเกิดขึ้น พระสารีบุตรจึงให้รู้ความยาวของลมตามความนาน เหมือนเรายืนอยู่แล้วมีงูเลื้อยผ่านหลังเท้า เราจะรู้ความยาวของงู ตามความนานของงูที่เลื้อยผ่านหลังเท้า จุดที่ตัวงูสัมผัสกับเท้า ตรงนั้นเรียกว่า โผฏฐัพพารมณ์ ถ้าเฝ้ารู้ตรงนั้นจิตจะไม่วอกแวกไปไหน ไม่ปักที่ตัวงู ไปปักที่หลังเท้า อยู่กับการสัมผัส ไม่ได้ปัก การรู้แบบนี้จะทำให้พบเจอสิ่งที่ไม่ใช่ เปรียบเหมือนกับ Michelangelo เห็นก้อนหินก้อนหนึ่ง แล้วมีภาพของเดวิดปรากฏชัด เขาทำการหยิบสิ่งที่ไม่ใช่เดวิดออกไป สิ่งที่เหลือคือเดวิด เอกัคคตารมณ์ คือความเป็นผู้มีอารมณ์อันเดียวของจิต เราไม่ต้องไปปรารถนา มันเกิดการรู้อยากถูกต้อง ถ้าในใจเราแบ่งเป็นแดน เรามักจะแบ่งชีวิต ชาตินี้ ชาติหน้า ซึ่งไม่ควรมีความรู้แบบนั้น ถ้าไปมีความรู้แบบนี้จิตจะอยู่กับอนาคตตลอด คาดหวังว่าจะไปสุขคติ พรหมโลก พอจิตอยู่ที่อนาคตไม่มีวันที่จะไปได้ ไม่ใช่ความเป็นจริงเพราะมันยังไม่มี แต่แดนของจิตในปัจจุบัน ในขณะนี้ แดนแรกเลยที่เป็นอยู่ คือกามสัญญา ที่มีความชอบใจ ไม่ชอบใจ อภิชชา และ โทมนัส ในแดนกามสัญญาไม่สามารถมีเอกัคคตารมณ์ ซึ่งจะเป็นฐานที่เข้าสู่สัมมาสติและและสัมมาสมาธิ อานาปานสติให้เอกัคคตารมณ์ที่ถูกต้องอย่างไร เริ่มต้นจากการรู้ลมยาว จิตผู้รู้จะอยู่กับลมหายใจออกยาว ตั้งแต่ต้นลม กลางลม ปลายลมจดสุดลมหายใจ ให้สังเกตดูว่าจิตผู้รู้ไม่มีอะไรอื่น มีแค่ลมหายใจที่ออกไป เมื่อรู้อย่างถูกต้องจิตที่เคยรู้ในฐานะที่เป็นวิญญาณขันธ์ จะถอยตัวออกมา คลายตัวออกมารู้ลม มารวมเป็นตัวรู้ รู้ลมแค่ 1 คู่ จิตจะออกจากความพอใจและไม่พอใจทันที เพราะคุณสมบัติของจิตผู้รู้ที่รู้ลมหายใจอย่างถูกต้อง มีอาตาปี ความเพียรที่แผดเผา สัมปชาโนคือรู้ตัว สติมามีสติ มีตัวรู้ที่คลออยู่กับตัวระลึกตัวสติ วิเนยยะ โลเก อะภิชฌาโทมะนัสสัง คือหยุดความรัก ความชัง คือหยุดความพอใจและความไม่พอใจนั้น แสดงว่าจิตเริ่มเดินออกจากกามสัญญาเพื่อเข้าสู่พื้นผิวของรูปสัญญา ถ้าเปรียบตอนที่รู้ลมหายใจยาวแบบเต็มร้อย เอกัคคตารมณ์ยังไม่เกิด แต่เมื่อเกิดความสันโต คือจิตสงบราบเรียบ ลมหายใจที่ละเอียดก็จะหดตัวสั้นลง สั้นลงเท่าไหร่ เอกัคคตารมณ์ก็จะเริ่มเกิดเท่านั้น นั่นคือเกิดขณิกสมาธิ เอกัคคตารมณ์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในฐานะที่เราทำ แต่จะเกิดจากเราทำเหตุให้จิตผู้รู้ รู้ตรงต่อสิ่งที่ถูกรู้อย่างแน่วแน่ แล้วมันจะเกิดขึ้นเองจังหวะที่ลมหายใจหยุด เอกัคคตารมณ์ 100% เอกัคคตารมณ์แท้จริงก็คืออุเบกขาภายใน ถ้ามีสติรู้อยู่กับเอกัคคตารมณ์ในขณะนั้น ตรงนั้นเรียกอัปปนาสมาธิและเป็นสัมมาสมาธิ ลมหายใจยังมีอยู่แต่เป็นลมละเอียดขนาดที่ไม่เกิดโผฏฐัพพารมณ์ ในอานาปานสติ ลมหายใจเป็นเพียงแค่สิ่งที่ถูกรู้ ไม่ต้องไปกำหนดรู้ เราทำหน้าที่ในการศึกษาสภาวะที่ปรากฏ ไม่ใช่ลมหายใจ ลมหายใจเป็นเหมือนที่แขวนที่ยึดไม่ให้เราร่วงลงออกจากเส้นด้ายที่ชื่ออานา
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน