ธรรมดีรุ่งโรจน์สัญจร ครั้งที่ 16 คอร์สอานาปานสติ ณ วัดบุปผาราม กทม. โดย พระกิตติวิมลเมธี (พระอาจารย์สุชีพ สุธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบุปผารามวรวิหาร
การที่จะพ้นทุกข์ต้องเข้าไปที่ กาย เวทนา จิต ธรรม
สติปัฏฐาน 4
1.กายานุปัสสนา กายนี้ก็สักแต่ว่ากายไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
2.เวทนานุปัสสนา เวทนานี้ก็สักแต่ว่าเวทนาไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
3.จิตตานุปัสสนา ใจนี้ก็สักว่าใจไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
4.ธรรมานุปัสสนา ธรรมนี้ก็สักว่าธรรมไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
อานาปานสติอันบุคคลใดอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมบำเพ็ญสติปัฏฐาน 4 ให้บริบูรณ์ได้
18:00 อุปสรรคและอุปการะต่ออานาปานสติ
อุปสรรค
1. กามฉันทะ วิถีชีวิตเราเรียกหาความพอใจในสิ่งที่ใคร่ พอเมื่อยกามฉันทะออกมาให้เราหาความไม่เมื่อย
2. พยาบาท ความหงุดหงิดขัดข้อง ความไม่ชอบ เมื่อไม่ได้ความสบายตามต้องการ
3. ถีนมิทธะ ความง่วงงุนหาวนอน
4. อุทธัจจะกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่าน ใจของปุถุชน อยู่กับอารมณ์ที่หลากหลายในแต่ละวัน ยากที่จะมารู้อารมณ์เดียว
5. วิจิกิจฉา ความลังเล สงสัย เมื่อสงสัยก็ออกจากลมหายใจ
6. อรติ ไม่ยินดี พอมีสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อความไม่ยินดีเกิด ก็ออกจากลม
7. อวิชชา ความไม่รู้ ไม่รู้ใน 3 เรื่อง คือ นิมิต ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ไม่รู้ว่า 3 อย่างนี้ไม่เป็นอารมณ์อันเดียวกัน
8. อกุศลธรรมทั้งปวง เหมือนกำลังจะทาสี แต่พื้นผิวไม่เรียบ การทาสีก็สะดุด
อุปการะ
1. เนกขัมมะ การออกจากกามฉันทะ รู้ให้ทันกามฉันทะ ละ วาง เมื่อเดินออกมาได้ครั้งนึงก็คือหนึ่งเนกขัมมะ
2. อพยาบาท เมื่อเกิดความพยาบาท ละความพยาบาทนั้นเสีย
3. อาโลกสัญญา เราละความง่วงไม่ได้ แต่ให้ทำสำคัญหมายถึงแสงสว่าง
4. ละความฟุ้งซ่าน
5. ธัมมววัตถาน กำหนดให้เห็นว่าสภาวะที่เกิดขึ้นมันเป็นธรรมชาติ กำหนดให้เห็นว่าเป็นธรรมดา
6. ความปราโมทย์ สร้างขึ้นจากการปรับท่านั่ง การทรงตัว ปรับความแรงของลมหายใจ โน้มใจทำความระลึกเข้าสู่ลมหายใจ หรือการเติมฉันทะ
7. ญาน ตัวรู้ รู้ให้ชัดให้นิมิต ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
8. สัมมัปปธาน ปหานปธานละอกุศล ให้จิตทรงตัวอยู่กับกุศล เช่น เอาเมตตามาช่วยละโทสะ
41:00 รู้ลมหายใจให้ถูกต้อง รู้นิมิต ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
นิมิต ที่ตั้งของจิตรู้ ตามที่ครูบาอาจารย์ยุคพระพุทธเจ้าว่าไว้ ให้นั่งตั้งสติทำในใจที่ปลายจมูก หรือริมฝีปากบน ลองหายใจดู ลมหายใจครูดไปตรงไหน ตรงนั้นคือนิมิต
เมื่อจิตอยู่ที่นิมิต เวลาลมหายใจผ่าน เราจะรู้สึกความยาวของลม ตามระยะเวลานานที่ลมกระทบนิมิต เหมือนเลื่อยไม้ เราจะรู้ตรงที่ฟันเลื่อยกินคลองเลื่อย
1:00:00 อุปกิเลส เมื่อไม่รู้นิมิต
1. ผู้ปฏิบัติใช้สติแล่นตามลมหายใจออก ตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดของลมหายใจออก จิตจะเข้าไปตกความฟุ้งซ่านภายนอก
2. ผู้ปฏิบัติใช้สติแล่นตามลมหายใจเข้า จิตจะเข้าไปตกความฟุ้งซ่านภายใน
3. เมื่อจิตมุ่งไปที่ลมออก จิตเกิดความปรารถนาลมที่กำลังจะไหลออก เป็นตัณหาจริยา เป็นอันตรายต่อการเจริญอานาปานสติ
4. เมื่อลมหายใจออกสุด จิตเกิดความปรารถนาลมที่กำลังจะไหลเข้า เป็นตัณหาจริยา ยิ่งใช้ความเพียรมากเท่าไร ตัณหายิ่งเจริญ
5. จิตหลงไปในการที่จะได้ลมหายใจเข้า ในขณะที่ลมหายใจออกกำลังครอบงำ ลมหายใจออกถูกหยุด เพราะหลงปรารถนาที่จะได้ลมหายใจเข้า
6. ในขณะที่ลมหายใจเข้าครอบงำ จิตหลงไปในการที่จะได้ลมหายใจออก
7. เมื่อผู้ปฏิบัติคำนึงถึงนิมิต จิตเกิดความกวัดแกว่งไปที่ลมหายใจออก
8. เมื่อผู้ปฏิบัติคำนึงถึงลมหายใจออก จิตเกิดความกวัดแกว่งไปที่นิมิต
9. เมื่อผู้ปฏิบัติคำนึงถึงนิมิต จิตเกิดความกวัดแกว่งไปที่ลมหายใจเข้า
10. เมื่อผู้ปฏิบัติคำนึงถึงลมหายใจเข้า จิตเกิดความกวัดแกว่งไปที่นิมิต
11. เมื่อผู้ปฏิบัติคำนึงถึงลมหายใจออก จิตเกิดความกวัดแกว่งไปที่ลมหายใจเข้า
12. เมื่อผู้ปฏิบัติคำนึงถึงลมหายใจเข้า จิตเกิดความกวัดแกว่งไปที่ลมหายใจออก
13. ในขณะที่รู้ลมหายใจ จิตแล่นเข้าไปสู่อดีต จะตกเข้าสู่ความฟุ้งซ่าน
14. ในขณะที่รู้ลมหายใจ (ปัจจุบัน) จิตแล่นเข้าไปสู่อนาคต จะตกเข้าสู่ความฟุ้งซ่าน
15. ในขณะที่รู้ลมหายใจ จิตเกิดความหดหู่ เบื่อ ไม่อยากทำ ปรุงแต่งเกิดความคร้าน
16. จิตเกิดความถือจัด ตกเข้าไปสู่ความฟุ้งซ่าน
17. จิตรู้มาก รู้เกิน จนตกเข้าไปอยู่ฝ่ายของราคะ สำคัญว่าเหนือกว่าที่เป็นอยู่
18. จิตไม่รู้ จนตกเข้าไปอยู่ในฝ่ายของพยาบาท เกิดความขุ่นเคือง
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา #ธรรมะในชีวิตประจำวัน #ธรรมะ #พระธรรมเทศนา #พุทธศาสนา #คำสอน