ธรรมดีรุ่งโรจน์สัญจร ครั้งที่ 16คอร์สอานาปานสติ ณ วัดบุปผาราม กทม.วันที่ 20-23 ม.ค. 2565
คอร์สนี้เราก็ได้รู้หลายๆเรื่องนะเกี่ยวกับอานาปานสติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชัดเจนในธรรม ๓ อย่างของการภาวนา คือ นิมิต ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า จนหลายคนชัดเจนในเรื่องนิมิต
พอเมื่อวานนี้อาตมาก็บอกว่าอย่ายึดกับนิมิต ก็เลยรู้สึกว่ามันย้อนแย้ง โอ้ย อุตส่าห์ทำแทบตายกว่าจะได้นิมิต ไม่ให้ยึดซะอีกแล้ว สาเหตุที่ไม่ให้ยึดนิมิต เพราะว่าถ้าเรายึดนิมิตก็จะอยู่ที่นิมิต แต่เราไม่ใช่นิมิต นิมิตไม่ใช่เรา มันเป็นธรรมชาติที่แยกกัน นิมิตจึงเป็นที่อยู่ที่อาศัย สำหรับที่จะรู้ลมหายใจเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่พูดให้เราหานิมิต เราก็จะไม่มีนิมิต ไม่มีที่จะให้อยู่ พออยู่แล้วก็บอกว่ามันคือเครื่องอยู่นะ อย่าไปหลงดีอกดีใจว่าเรามีนิมิต มันคือเครื่องอาศัยเครื่องอยู่ สำหรับที่จะรู้ลมหายใจเท่านั้น
แล้วเราก็ได้รู้เรื่องของอุปกิเลสในอานาปานสติว่ามันมีอะไรบ้าง ซึ่งมาเมื่อเช้านี้ได้ยกตัวอย่างไมเคิลแองเจโล ที่เขาเห็นก้อนหิน แล้วก็มีภาพของเดวิด แล้วเขาก็หยิบสิ่งที่ไม่ใช่เดวิดออกไป ก็เหมือนอุปกิเลสที่เกิดขึ้น ตอนที่เรารู้ลมยาวอยู่ มันไม่ใช่การรู้ลมยาวเราก็หยิบออกไป ไม่ว่าสภาวะอะไรทั้งนั้นหยิบออก
ในการเจริญอานาปานสติแต่ละขั้น ให้สังเกตว่า สมาธิจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อจิตรู้อยู่ที่นิมิตแล้วรู้ลมยาว สมาธิจะเกิดอยู่ บ่มตัวเองขึ้นมาทุกครั้ง มันจึงเข้าไปสู่ความสงบและเข้าไปสู่ความตั้งมั่นในการที่เรารู้ลมแต่ละครั้งอย่างถูกต้อง
ปัญหามีต่อมาว่า พอเรารู้ลมยาวได้ จิตสงบ ละเอียดแล้ว ปราณีตแล้ว กิจอื่นมันยังไม่เกิด ถึงตอนนี้เราเดินปัญญาได้ไหม?
การเดินปัญญาก็คือการทำวิปัสสนา ในอานาปานสติมีการทำวิปัสสนา ๗๒ ญาณ การทำวิปัสสนานั้นก็คือ การตั้งอนุปัสสนา ๓
อนุปัสสนา ๓ ก็คือว่า การตามพิจารณาลมหายใจยาวโดยความไม่เที่ยง
การตามพิจารณาลมหายใจเข้ายาวโดยความไม่เที่ยง
การตามพิจารณาลมหายใจเข้ายาวโดยความเป็นทุกข์
การตามพิจารณาลมหายใจเข้ายาวโดยความเป็นอนัตตา
การตามพิจารณาลมหายใจออกยาวโดยความไม่เที่ยง
การตามพิจารณาลมหายใจออกยาวโดยความเป็นทุกข์
การตามพิจารณาลมหายใจออกยาวโดยความเป็นอนัตตา
อันนี้ ๖ ญาณเข้าไปแล้ว แล้วมันจะไม่ ๗๒ ได้อย่างไร (๑๒ ขั้นก็ ๗๒)
การตามพิจารณาเรียกว่าอนุปัสสนาญาณ การตามพิจารณาลมหายใจออกยาวโดยความไม่เที่ยงทำอย่างไร? ทำไมท่านจึงใช้คำว่า อนุปัสสนาหรืออนุปัสสติ?
อนุปัสสนาคือ ตามพิจารณา หมายความว่า ลมนั้นเกิดแล้ว ลมหายใจเข้ายาวมันเกิด สุดแล้ว เราตามพิจารณาลมหายใจเข้ายาวที่มันเกิดแล้วจบแล้วนั้น ในลมที่หายใจเข้ายาวจนสุดที่เกิดและหยุดไปแล้วนั้น ในนั้นมี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เราไม่รู้ในทันทีที่มันเกิดแต่เราสามารถตามรู้ได้ เพราะพอหายใจเข้าจนสุด มันจบ แล้วมันหยุด แล้วมันดับไปแล้ว เราตามพิจารณาลมนั้น
เอาอนิจจานุปัสสนาไปตามดูความไม่เที่ยงอย่างไร? เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันเปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปเรื่อยๆจนถึงที่สุด มันไม่เที่ยง ไม่มีความเที่ยงอยู่ในลมนั้น มันแปร พอเกิดปั๊บ ตั้งต้นเกิดปั๊บ
ลมแรกที่เกิดเคลื่อนเข้า นั่นคือการเกิด หลังจากนั้นมันไหลเข้าไป นั่นคือการตั้งอยู่ และจนสุด นั่นคือการดับ อุปาทะ ฐิติ พังคะ ในลมหายใจเข้ายาว ตั้งแต่เกิด แล้วก็ตั้งอยู่ เมื่อตั้งอยู่นี้ มันมีความแปรปรวนปรากฏ คือ การเคลื่อนไป แล้วก็พังคะ ก็คือว่าดับสลาย คือหยุด อันนี้เป็นอนิจจานุปัสสนา
ก็พิจารณาอย่างนี้แหละ พิจารณาจนจิตมันรู้สึกว่า ลมหายใจเข้ายาวนี้มันเป็นอนิจจังจริงๆ แล้วดูความเป็นทุกข์ เวลาดูโดยความเป็นทุกข์ ก็คือโดยการบีบคั้น หรือว่าทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ พอเกิดขึ้นเป็นต้นลม พออุปาทะปั๊บ มันจะทนอยู่ในความเป็นอุปาทะนี้ไม่ได้ มันโดนบีบคั้นให้เปลี่ยนแปลง แปรปรวน เสื่อมไป ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ อันนี้เป็นทุกข์ เป็นทุกขานุปัสสนา ตามพิจารณาโดยความเป็นทุกข์
หลังจากนั้นทำจนรู้สึกได้ว่า มันถูกบีบคั้นแล้วก็เป็นทุกข์จริงๆ ก็ดูอนัตตานุปัสสนา คือ ตามพิจารณาดูโดยความไม่อยู่ในอำนาจของการบังคับบัญชาของผู้ใด พอเกิดขึ้น อุปาทะ เกิดขึ้นปั๊บ เห็นได้ชัดว่า มันไม่มีอัตตาคือตัวตนหรือแก่นสารสาระใดๆเลย มันแค่เปลี่ยนแปลง แล้วก็แตกสลายไป ไม่มีแก่นสารใดๆให้หลงเหลืออยู่กับลมหายใจเข้ายาวที่จบไปแล้วนั้น อันนี้เป็นอนัตตลักษณะ
การทำวิปัสสนา เราต้องทำอนุปัสสนาดังว่านี้ก่อน พอเราทำอนุปัสสนาดังว่านี้ เมื่อใดก็ตามที่เราจะเดินวิปัสสนา คำว่า วิปัสสนา หมายความว่า มันมีปัญญามีความรู้เข้ามาทันท่วงทีในขณะที่ลมหายใจเข้ายาวมันเกิด ความเป็นอนิจจังเกิดขึ้นในขณะลมหายใจเข้ายาวเป็นปัจจุบันเกิดขึ้น เป็นวิปัสสนา แต่ถ้าลมหายใจเข้ายาวที่เกิดขึ้นและดับไปแล้วและเราไปตามพิจารณานั้น เป็นอนุปัสสนา
#อานาปานสติ #สติปัฏฐาน #ปฏิบัติธรรม #สมาธิ #สมาธิภาวนา #นั่งสมาธิ #วิปัสสนา #วิปัสสนากรรมฐาน #ปัญญา