
Sign up to save your podcasts
Or


การมาทำความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของจิตว่า “จิต และ วิญญาณ เป็นคนละอย่างกัน” โดยจิตมายึดถือวิญญาณโดยความเป็นตัวตน เมื่อวิญญาณไปตั้งอยู่ในรูป เวทนา สัญญา และสังขาร จิตก็ยึดถือสิ่งเหล่านั้นโดยความเป็นตัวตนขึ้นมา ซึ่งจะเห็นได้ใน สังคีติสูตร ที่ได้กล่าวถึงวิญญาณฐิติ 4 ประการ ตามนัยยะของท่านพระสารีบุตร และในข้อที่ #44_สัตตวิญญาณัฏฐิติสูตรก็ได้อธิบายถึงวิญญาณฐิติ 7 ประการ (ภูมิเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณ) โดยประการที่ 1-4 พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแบ่งตามความละเอียดของรูปและนาม (สัญญา) และประการที่ 5-7 ทรงแบ่งตามอรูปฌาน การมาศึกษาตรงนี้จะทำให้เราเข้าใจอุปาทานขันธ์ 5 และวางความยึดถือลงได้
ข้อที่ #45_สมาธิปริกขารสูตร ว่าด้วยบริขารแห่งสมาธิ หมายถึงองค์ประกอบของมรรคสมาธิ คือ สัมมาสมาธิที่แวดล้อมประกอบไปด้วยมรรคทั้ง 7 อย่าง
ข้อที่ #46_ปฐมอัคคิสูตร และ ข้อที่ #47_ทุติยอัคคิสูตร ว่าด้วยไฟ สูตรที่ 1-2 กล่าวถึง ไฟที่ควรละอยู่ 3 กองได้แก่ ไฟ คือ ราคะ โทสะ และโมหะ และไฟที่บูชา (การบำรุง) ได้แก่ อาหุเนยยัคคิ คหปตัคคิ ทักขิเณยยัคคิ และไฟที่ต้องจุด คอยดู คอยดับ คอยเก็บตามกาลอันควรได้แก่ กัฏฐัคคิ (ไฟที่เกิดจากไม้)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต มหายัญญวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
 By ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
By ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana5
11 ratings
การมาทำความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของจิตว่า “จิต และ วิญญาณ เป็นคนละอย่างกัน” โดยจิตมายึดถือวิญญาณโดยความเป็นตัวตน เมื่อวิญญาณไปตั้งอยู่ในรูป เวทนา สัญญา และสังขาร จิตก็ยึดถือสิ่งเหล่านั้นโดยความเป็นตัวตนขึ้นมา ซึ่งจะเห็นได้ใน สังคีติสูตร ที่ได้กล่าวถึงวิญญาณฐิติ 4 ประการ ตามนัยยะของท่านพระสารีบุตร และในข้อที่ #44_สัตตวิญญาณัฏฐิติสูตรก็ได้อธิบายถึงวิญญาณฐิติ 7 ประการ (ภูมิเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณ) โดยประการที่ 1-4 พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแบ่งตามความละเอียดของรูปและนาม (สัญญา) และประการที่ 5-7 ทรงแบ่งตามอรูปฌาน การมาศึกษาตรงนี้จะทำให้เราเข้าใจอุปาทานขันธ์ 5 และวางความยึดถือลงได้
ข้อที่ #45_สมาธิปริกขารสูตร ว่าด้วยบริขารแห่งสมาธิ หมายถึงองค์ประกอบของมรรคสมาธิ คือ สัมมาสมาธิที่แวดล้อมประกอบไปด้วยมรรคทั้ง 7 อย่าง
ข้อที่ #46_ปฐมอัคคิสูตร และ ข้อที่ #47_ทุติยอัคคิสูตร ว่าด้วยไฟ สูตรที่ 1-2 กล่าวถึง ไฟที่ควรละอยู่ 3 กองได้แก่ ไฟ คือ ราคะ โทสะ และโมหะ และไฟที่บูชา (การบำรุง) ได้แก่ อาหุเนยยัคคิ คหปตัคคิ ทักขิเณยยัคคิ และไฟที่ต้องจุด คอยดู คอยดับ คอยเก็บตามกาลอันควรได้แก่ กัฏฐัคคิ (ไฟที่เกิดจากไม้)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต มหายัญญวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

21 Listeners

3 Listeners

2 Listeners

5 Listeners

3 Listeners

3 Listeners

2 Listeners

17 Listeners

7 Listeners

66 Listeners

3 Listeners

19 Listeners

5 Listeners

1 Listeners

3 Listeners

1 Listeners

0 Listeners

0 Listeners