EP_28 วิธีเปลี่ยนฝันให้เป็นความจริง

1.คุยกับตัวเองอย่างจริงจังว่าต้องการอะไร

2.ทำสิ่งที่ต้องการออกมาให้ชัดเจน (เขียน พูด ทำเป็นภาพ)

3.ลงมือทำบางอย่าง (เคยทำ ไม่เคยทำ)

4.หมั่นเอาสิ่งที่เขียนมา Review ให้ไม่ลืมเป้าหมาย

5.Celebrate ชื่นชมตัวแอง ทุกครั้งที่สำเร็จ

Credit Pic: Pixabay

EP_27 5 เรื่องที่ผมได้เรียนรู้

จากผู้บริหารระดับสูงของโตโยต้า

1.ทำงานต้องไม่มีความสูญเปล่า

2.ให้ความสำคัญกับการสื่อสารแบบ Face to Face

3.เลือกคนเข้าทำงานให้ดีที่สุด

4.พัฒนาคนเหล่านั้นให้ดีที่สุด

5.วางใจให้โอกาสพวกเขา

 

Credit Pic : Pixabay

อุตสาหกรรมหนึ่งที่เป็นทั้งแหล่งรายได้

ให้ญี่ปุ่น

เป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรม

และแรงบันดาลใจของคนเก่งๆ

ในญี่ปุ่น

ร่วมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์ชาติ

ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

การ์ตูน

ข้อดีก็คือเป็น

ความคิด ที่อยู่ในสมอง

มีต้นทุนไม่สูงนัก

สามารถทำซ้ำได้ง่ายกว่า

ผลิตภัณฑ์ทั่วไป

http://factsanddetails.com/japan/cat20/sub135/item2891.html

ว่ากันว่ายอดขายของ

การ์ตูนที่ขายทั่วโลกนั้น

มีมากกว่า 2 ล้านล้านเล่ม

ปัจจุบันปีหนึ่งมียอดขาย

มากกว่า 10 ล้านล้าน USD

มีคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้

ราวๆ 40,000 คน

20-30% ของรายการทีวี

ในประเทศญี่ปุ่นมาจาก การ์ตูนมังงะ

15 เรื่องการ์ตูนที่มียอดขายเกิน

100 ล้านเล่มทั่วโลก

มีดังนี้

https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_best-selling_manga

EP_25 รีวิวหนังสือญี่ปุ่น

ทักษะการเขียนที่ไม่เคยมีใครสอน

สิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์

เริ่มแตกต่างกับสิ่งมีชีวิตทั่วไปคือ

การเขียน

การเขียนคือการถอดความคิดดีๆ

ในสมองของตัวเอง

มาบอกเล่าและถ่ายทอด

ให้คนจำนวนมากเห็น

และเข้าใจได้แม้ว่า

เวลาจะผ่านไปกี่ปีแล้วก็ตาม

เราอาจจะเรียนและฝึกทักษะ

ด้านการเขียนกันมาก็ไม่น้อย

จนทุกคน เขียนเป็น

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่

เขียน เก่ง

แล้วเคล็ดลับของ

คนที่ เขียนเก่ง

คืออะไร

หนังสือเล่มนี้มีคำตอบฮะ

ชื่อหนังสือ

Daredemo Oshietekurenai

Kaku Sukiru

ทักษะการเขียนที่ไม่เคยมีใครสอน

เขียนโดย Shibamoto Hidenori

CEO ของ บริษัท Process Design Agent

ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์  นิคเค พีบีฉะ

ประเด็นสำคัญของหนังสือเล่มนี้

โทษของการเขียนไม่เป็น

     1.1 สื่อสารแล้วเข้าใจผิด

       ไม่ได้อยากจะสื่อออกไปอยากนั้นเสียหน่อย

    

      1.2 แก้งานซ้ำซ้อน (Rework)

        ไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้สักหน่อย

      1.3 ขออนุมัติไม่ผ่าน

        ถ้าเน้นให้เข้าใจตรงนี้มากกว่านี้สักหน่อย

      1.4  ไม่ได้รับการยอมรับ

        ถ้านำเสนอให้น่าสนใจกว่านี้สักหน่อยละก็

    

     และสิ่งที่จะช่วยให้เราเขียนเก่ง

     คือการมีทักษะการเขียนที่ดี

     ทักษะที่ว่าอาจจะประกอบไปด้วย

การเรียบเรียงความคิด

การสร้าง Story

การทำแบบร่าง

การขัดเกลาคำ

7 Step กระบวนการการเขียนที่ดี

ทักษะ = กระบวนการ x เทคนิค

Step 1 กำหนดประเด็นสำคัญของเนื้อหา

Step 2 วิเคราะห์ผู้อ่าน

Step 3 คิดหาไอเดีย

Step 4 วางโครงเรื่อง

Step 5 ร่างแบบ

Step 6 ลงรายละเอียด

Step 7 ปรับแก้

 

3 อย่างที่ผมได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้

1.ประโยชน์ของการเขียนเป็นนั้นมีเยอะมาก

       ทำงานเก่ง แต่ เขียน (สื่อสารไม่เป็น) จะเสียเปรียบ

       ยิ่งในยุคที่เราทุกคนสามารถมีสื่อเป็นของตัวเองได้

2.การเขียนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

      คนทำงานแถบทุกคนต้องเขียน

      (เมล์ รายงาน พรีเซนเตชั่น แคปชั่นเท่ห์ๆ Line, Facebook)

3.การเขียน เป็น ทักษะ ทักษะแปลว่าฝึกฝนได้

      สิ่งสำคัญคือ หา ชุดความรู้และครูที่ตรงจริตของเรา

EP_24 ถอดรหัส KAIZEN ของ

MK ที่ทำให้กลายเป็นร้านสุกี้อันดับ 1 ของประเทศไทย

 

Mile Stone ของ MK

1996 เปลี่ยนหม้อแก็สเป็นไฟฟ้า

2000 100 สาขา

2009 300 สาขา

2013 400 สาขา

2018 436 สาขา

MKT CAP 68.000 ล้านบาท ณ เดือน ธค 2018

ส่วนหนึ่งที่ทำได้เพราะ KAIZEN

ที่อยู่ในร้าน MK

 

จากนี้ไปเวลาเข้าร้าน MK

จะเห็นอย่างอื่นมากกว่า ร้านสุกี้

 

1.จุดเปลี่ยนของ MK

การเปลี่ยนให้เตาไฟฟ้าสามารถ

ต้มน้ำให้เดือดได้ด้วยเวลา 7 นาที

จากไอเดีย อุ่นน้ำซุปรอไว้ก่อน

 

2.ตัวอย่างกรณี ศึกษา

A)มะนาว -> มะนาวขวด

B)มะนาวขวด -> มะนาวแช่แข็ง

C)ไม้จิ้มฟัน -> หลอดดูดน้ำ ตะเกียบ

D)ชั้นวางอาหาร

D) ป้ายรอเรียกคิว

E) ที่ตักอาหาร (ตักน้ำ ตักเนื้อ -> ปลา เป็ด)

KAIZEN เหล่านี้ดียังไงกับองค์กร

Cost, Quality, Delivery

 

3. Kaizen Benefit

แค่มะนาวอย่างเดียว

คาดการณ์ว่าช่วยประหยัดเงินให้

MK ได้วันละ 200,000 บาท

 (ประหยัดมะนาวได้ 50,000 ลูกจาก 436 สาขา

สาขาละ 114 ลูก/วัน)

200,000*365*10 = 730 ล้านบาทในรอบสิบปี

 

4. สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก MK

1.KAIZEN เป็นเรื่องของการสังเกตและทำให้ดีขึ้นจากของเดิม

2.ใครก็ทำได้ เพราะไม่ต้องใช้เทคโนโลยี

3.คุณค่าของสิ่งเล็กๆ อาจจะยิ่งใหญ่เมื่อมีการประหยัดทางขนาดเข้ามาเกี่ยวด้วย

EP_23 4 ขั้นตอนวางแผนทำงานปีใหม่ให้ได้ประสิทธิภาพ

รู้สึกว่าทำงานได้ ผลลัพธ์

ทำเท่าไหรก็ไม่หมดเสียที

มีงานด่วนเข้าตลอดๆทำไม่ไหว

 

1. Concept

เวลางาน เหมาะสมกับ ปริมาณงาน(ทั้งคาดไว้และไม่คาดไว้

2. คำนวณปริมาณเวลา/ทรัพยากรที่มี

งานที่อยากทำ / ต้องทำ : 80%

จำนวนวันทำงานจริง x จำนวนเวลาทำงานจริง x สัดส่วนคาดหวัง

(312-22) * 8 * 0.8

= 1,856 ชม -> 184 วัน

งานที่เร่งด่วน / ต้องทำ : 20%

(312-22) * 8 * 0.2

= 464 ชม -> 46 วัน

รวม ชั่วโมงที่มี = 2,320

ทำงาน 290 วัน หรือ 5.5 วันต่อ สัปดาห์

 

3. List รายการงานที่ต้องทำ (Direct)

   A) เขียนหนังสือ 2 เล่ม เล่มละ 200 ชม = 400 ชม   B) งานบรรยาย/ล่าม 60 วัน วันละ 10 ชม = 600 ชม   C) งานทำ Value Content 50 Content = 2 ชม = 100 ชม   D) งานทำ Podcast Content 365 Content = 1.5 ชม = 550 ชม   E) งานทำ Digital Course for corporate = 200 ชม   F) งานพบลูกค้า และ ทำหลักสูตรใหม่ = 200 ชม

    รวม = 2,050 ชม (88%)

     List รายการงาน (Indirect)

เอกสารการเงินลูกค้า -> 50 ชม

อ่านหนังสือ 52 เล่ม เล่มละ 3 ชม = 156 ชม

ประชุม อื่นๆ เข้าสัมมนาอบรม สร้างโอกาส = 80 ชม

     รวม = 286 ชม (12%)

     รวมสองอย่าง = 2,336 (100%)

4) ทางปรับปรุง

1.เพิ่มความแม่นยำให้การประมาณการณ์

2.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใข้เวลาในแต่ละงานให้น้อยลง

3.ปรับลดงานให้เหมาะสม เพิ่มเวลางานให้เหมาะสม(ไม่แนะนำ)

4.ปรับสัดส่วนงานให้เหมาะสม (80/20)

5.ใช้ทรัพยากรจากภายนอก

(ชมทำงานของเรามูลค่าเท่าไหร ถ้าจ้างแล้วถูกกว่านั้นสัก 50% ก็น่าสนใจ)

 

ตัวอย่างนี้ใช้ได้กับงานแบบทำคนเดียว

ถ้าจะนับทีมงานด้วยก็เอาเวลาของแต่ละคน

มากองรวมกัน (อาจจะคิดจากสูตรเดียวก็ได้ หรือ แยกก็ได้)

หรือถ้าล้น

ก็ลบ เรียง แบ่ง จ้าง Outsource ทำแทน

A) Career Path ที่ชัดเจน

      รู้คร่าวๆ ล่วงหน้า 10 ปีเป็นอย่างน้อยว่าจะเติบโตเป็นอะไร

      เปลี่ยนทุกๆ 3 ปีก็จริงแต่จะมี Plan ที่ทำให้รู้ว่าจะพัฒนาเขาไปทางไหน

B) Training Road Map

      แผนการอบรมที่ชัดเจนว่าปีไหนอายุงานเท่าไหรจะอบรมอะไร

      วางควบคู่สอดคล้องไปกับ Career Path

       เช่น อายุงาน 2 ปี อบรมพื้นฐานการสื่อสาร วางแผน

       อายุงาน หก ปี อบรม วิธีการแก้ปัญหา เชิงซับซ้อน การเป็นพี่เลี้ยง

       อายุงาน สิบ ปี อบรม การบริหารจัดการ

C) Training content categories

     Global content (ปรัชญาองค์กร แนวคิด ไม่จำกัดสายวิชาชีพ)

     Regional content (Culture training, Business for regional)

     Functional content (Engineer, Safety, Sale, Accountant)

 

D) Training Environment

Content provider (Course, Material) -> HR

Trainer (Internal training system) -> PTT, SCG, Chevron, Samsung

Facility (In house) -> ประหยัดเวลาเดินทาง ค่าใช้จ่ายระยะยาว (ข้อเสีย คือ หนีไปทำงาน)

Training System

 

E) System

Training with Assignment

People development role (Audience, Trainer, Supervisor, Manager)

Follow up with Reward and Penalty system (Checkable, Effect to promotion)

5 วิธีรับมือ กับงานที่เพิ่มขึ้น

==================

1.สร้างมุมมองที่ดีต่องานที่เพิ่มขึ้น

See Do Get model

7 Habit

ถ้าทำงานพวกนี้

เราจะได้อะไร เก่งขึ้นในมุมไหนบ้าง

ถ้าเก่งขึ้นแล้วจะได้อะไร

ลูกค้าจะได้อะไร

ถ้าลูกค้าได้รับสิ่งนั้น

ลูกค้าจะรู้สึกยังไง

บริษัทจะได้อะไร

ถ้าบริษัทได้รับสิ่งนั้น

บริษัทจะเป็นยังไง

เหตุผลดีๆที่จะเก็บเสื้อตัวนี้

ไว้ในกระเป๋าเดินทาง

กระเป๋าเล็กจุได้น้อย

คุณค่าน้อย

กระเป๋าใหญ่ไปเป็นภาระกับชีวิต

 

 

ตัด

มองหางานที่ไม่จำเป็นเอาออกไป

Non Value Added Activity

เอาสัมภาระที่เคยคิดว่าจำเป็นออก

 

 

ทำให้ง่าย

Business Valued Added Activity

หาวิธีพับหรือจัดเก็บ

ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Eliminate / ลบ

Re-arrange / เรียง

Add / รวม

Simplify / ทำให้ง่าย

 

แบ่ง

ยกเสื้อตัวนั้นให้เพื่อนร่วมทาง

เก็บในกระเป๋าของเขา

People Development

Can do

Should do

Must do

 

ต่อรอง

Dare to say no

ไม่รับเพิ่ม

If you want this, I need support (Time, Budget, People)

ถ้าจะให้เก็บตัวนี้

ขอขนทางอากาศ / ขอโหลดลงเรือ ใช้ Outsource

ขอขนสองรอบ

ขอรถขนกระเป๋า 1 คัน

5 วิธีรับมือ เมื่อไม่ได้โปรโมท

================== ลงแรง ทุ่มเท สุดตัว คิดว่าทำได้ดี

แต่สุดท้าย กลับไม่ได้โปรโมท

ผิดหวัง เสียใจ ไม่อยากทำอะไรแล้ว

ในฐานะคนที่เคย ผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน

อยากแชร์วิธีรับมือ ในแบบของผมให้ อ่านกันครับ

==============

1.หยุดพัก

สั้นๆตามนั้นเลยฮะ

==============

2. ถามเหตุผลตรงๆ จากหัวหน้าเพื่อข้อเท็จจริง

ปีที่ลุ้นว่าตัวเอง จะได้โปรโมท แต่กลับไม่ได้ขึ้นนั้น ผมใช้เวลาอยู่กับความเสียใจ อยู่พักใหญ่

เลยตัดสินใจถามหัวหน้า จนได้คำตอบว่า

ตามระเบียบบริษัท อายุงานผมในตำแหน่งนั้น ไม่สามารถโปรโมทได้

เมื่อใดก็ตามที่ได้คำตอบ อย่างน้อยเราจะเลิกฟุ้งซ่าน

===============

3. ศึกษาข้อมูล เรื่องการปรับตำแหน่ง เท่าที่หาได้

ข้อมูลเหล่านี้ อาจไม่มีเป็น Official ให้ดู

แต่เราก็สามารถ ใช้การดูผลลัพธ์ ที่เกิดจริง มาเชื่อมโยง กับความสัมพันธ์เช่น

เลเวลเดียวกับเรา โปรโมทกี่คน อายุงานเท่าไหร จบ โท ตรี เอก

หรือสอบถาม HR  ที่ใจดี หลายๆท่าน

เท่านี้เราก็จะพอได้ ไอเดียว่าทำไม และทำอย่างไร ครั้งหน้าเราจะอยู่ ในพื้นที่แข่งขันอีกครั้ง ================

4. เอาเวลาเสียใจ มามุ่งมั่นพัฒนาตนเอง

เมื่อเปลี่ยนแปลง ผลลัพธ์ไม่ได้

ก็เอาเวลาที่ใช้ผิดหวัง มาพัฒนาตัวเอง ให้เก่งยิ่งขึ้นๆไปดีกว่า

สถานการณ์ของบริษัท มีหลายอย่างที่เรา ควบคุมไม่ได้

สิ่งที่เราคุมได้ คือ การใช้เวลาของเรา

ว่าจะเอาไปใช้

ผิดหวัง

หรือเอาไปใช้

ทำให้ตัวเอง เก่งขึ้น

พอคิดแบบนี้ ปีถัดมาผมก็ได้โปรโมท เป็นผู้จัดการ

และเชื่อว่า ถ้าวันนั้นตัดสินใจ ถอย ผมก็น่าจะไม่ได้รับเลือก

เพราะผมน่าจะยัง ทำงานได้เท่ากับ ตัวเองคนเดิม

คนที่ไม่ได้รับเลือกในปีก่อน

 

5. หาเหตุผลของความเสียใจ

แล้วลองหาวิธีการแก้ปัญหา

อยากได้การยอมรับ

มีวิธีอื่นไหม

อยากได้รายได้เพิ่ม

มีวิธีอื่นไหม

อยากรู้สึกสำเร็จ

มีแนวทางอื่นไหม

================

ท้อได้ แต่ อย่าถอย เหนื่อยได้ แต่ ต้องสู้ เจ็บใจ ต้องใช้ ให้เป็นพลัง

อย่าเอาความผิดหวัง มาทำร้ายตัวเอง

เป็นกำลังใจให้ ทุกคนที่พลาดหวังในปีนี้ครับ

#ไม่ยอมก็ไม่แพ้#SenseiPae#Promotion#LeanovativeThinking

Credit : Live and Learn Piano

https://www.youtube.com/watch?v=sqNjG7thbBw

9 เรื่องที่คนญี่ปุ่นใส่ใจเมื่อร่วมงานกับคนไทย

1.ห้ามต่อว่าให้เสียหน้า

2.ไม่ตรงเวลา

3.ไม่เป็นไร หมายถึงยังไม่เข้าใจ

4.ประนีประนอม ไม่เอาแต่ยึดความเป็นชาตินิยม

5.กินข้าวเที่ยงให้คุยเรื่องสบายๆบ้าง

6.อาวุธที่ดีที่สุดคือ ความจริงใจ คำขอบคุณ และ การพูดภาษาไทย

7.ทำงานเพื่อตัวเอง เปลี่ยนงานบ่อย

8.สังคมชนชั้น หัวหน้าลูกน้องชัดเจน (ไม่บ่นแต่ก็ไม่ปฏิเสธ)

9.เรื่องส่วนตัว มาก่อนเรื่องส่วนรวม

 

=====================

There is nothing wrong with listening.

You can listen to people; you can hear people's concerns.

You can keep an open mind and still be perfectly strong.

ไม่มีอะไรเป็นเรื่องผิดหากเราจะฟัง

เราสามารถฟังเรื่องของผู้คน

เราสามารถได้ยินความกังวลของพวกเขา

เราสามารถเปิดใจและยังเป็นคนที่แข็งแกร่งได้

Bill de Blasio นักการเมืองชาวอเมริกัน