หลังบริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) (Zipmex Thailand) แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์สัญชาติไทย ประกาศระงับการถอนเงินบาทและคริปโตเคอร์เรนซีชั่วคราวเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง เพราะมีผู้เทรดได้รับผลกระทบค่อนข้างมากรวมแล้วกว่า 700 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 622 ล้านบาท

ช่วงแรก Zipmex ให้เหตุผลว่า มาจากความผันผวนของตลาด เหตุการณ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรม ตลอดจนปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นจากคู่ค้าทางธุรกิจหลัก ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท

ต่อมาได้ยอมรับว่า บริษัทประสบปัญหาในผลิตภัณฑ์ ZipUp ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะฝากสินทรัพย์ไปยัง Zipmex Global ที่สิงคโปร์ โดย Zipmex Global นำสินทรัพย์ไปลงทุนกับ Babel Finance และ Celsius ซึ่งเป็นอีกสองบริษัทด้านคริปโตที่ประสบปัญหาสภาพคล่องไปก่อนหน้านี้ และจะดำเนินการฟ้องร้องด้วย

แม้ที่ผ่านมาจะมีข่าวดีว่ามีนักลงทุนสนใจ มีการเซ็น MOU นำไปสู่กระบวนการตรวจสอบสถานะ (Due Diligence) แต่เวลาก็ล่วงเลยมาจนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บอร์ด ก.ล.ต. ได้ขีดเส้น 3 วัน สั่ง Zipmex เปิดซื้อ-ขายตามกฎ Trading Rules และต้องฝาก-ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ครบทุกเหรียญ

มาร่วมพูดคุยกับ พิริยะ สัมพันธารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตเคอร์เรนซี ผู้ก่อตั้ง ChalokeDotCom และกรรมการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Zipmex มีโอกาสฟื้นไหม และจะสร้างผลกระทบต่อวงการคริปโตไทยหรือไม่?