"..รากฐานเรื่องกายภาพ ..เรื่องของศีลธรรมคุณธรรม ..การวางใจที่ถูกต้องจากการใช้ชีวิต ...ตรงนี้สำคัญมาก แล้วมันจะต่อยอดในเรื่องของการปฏิบัติ ในเรื่องสภาวธรรม ทำให้ญาติโยม เป็นสภาวะที่นุ่มนวลละมุนละไมตรงทางตรงธรรม

สมาธิบางคนก็แห้งๆ บางคนก็ชุ่มเย็น ถ้าญาติโยมมีพื้นฐานจิตใจที่ดี คิดดีพูดดีทำดีจากการใช้ชีวิตตรงนี้ นำศีล 4 ข้อไปฝึกฝนอยู่เป็นประจำจนมีรากฐานที่หนักแน่นมั่นคง สภาวะที่ดีงามจะมาเองโดยธรรมชาติ เวลาญาติโยมนั่งลงใจจะมีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใส มีแค่ความอิ่มเอิบ มีแต่ความนุ่มนวลละมุนละไมมีแต่ความตั้งมั่นที่ถูกต้องจนนำไปสู่การรู้เห็นตามความจริงจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเลย ท่านเรียกว่า #สมาธิโดยธรรมชาติ จากการที่เราใช้ #วิถีชีวิตที่ถูกต้อง

การเรียนรู้ในคอร์สจึงไม่ได้เน้นแค่ว่าให้มาเก็บตัวปฏิบัติ แต่วัตถุประสงค์คือ เพื่อให้มาเรียนรู้เพื่อนำไปปรับเป็นวิถีชีวิตของญาติโยม เราจะถือว่าครบปีนึงเราทำงานเหนื่อย 7 วันเก็ยตัวสักครั้งหนึ่ง อันนั้นมันก็ได้ประโยชน์ระดับหนึ่ง แต่มันจะเกิดประโยชน์อย่างไพบูลย์เมื่อญาติโยมนำสิ่งที่เรียนรู้แล้วนำไปใช้ในชีวิตได้จริงจนเป็นวิถีชีวิตของญาติโยมเอง อันนั้นแหละจะเกิดผลที่เติบโตอย่างประมาณค่าไม่ได้เลย

เพราะฉะนั้นก็ให้เรียนรู้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของ #ศีล มีอยู่ 4 ด้าน

1) ข้อวินัยข้อปฏิบัติต่างๆ อย่างเราอยู่บ้านก็มีกฎระเบียบในบ้านใช่ไหมอยู่ในสังคมในที่ทำงานก็มีกฎระเบียบของที่ทำงาน มีกฎหมายบ้านเมืองต่างๆก็รู้จักรักษากฎระเบียบเห็นคุณค่าของข้อปฏิบัติต่างๆ เห็นโทษของการไม่รักษาต่างๆ เป็นผู้มีระเบียบวินัย เป็นผู้มีความเที่ยงตรง ก็เป็นการฝึกฝนขัดเกลาในทุกมิติ

2) ก็คือ อินทรียสังวรศีล รู้จักสำรวมอินทรีย์ให้เป็น

3) ก็คือ ความรู้ประมาณในการบริโภค รู้จักพิจารณาโดยแยบคายเสียก่อน แยกแยะได้ว่าอะไรคือคุณค่าแท้ อะไรคือคุณค่าเทียมที่พอกเสริมขึ้นมาเฉยๆ

4) ก็คือ อาชีวปาริสุทธิศีล การประกอบอาชีพที่สุจริต ก็ใช้เป็นช่วงเวลาในการปฏิบัติธรรมได้ ฝึกความมีหน้าที่ มีระเบียบวินัย ความเป็นคนตรงต่อกาล ความมีกาละเทศะ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความมีมนุษยสัมพันธ์ ฝึกได้เยอะหลายญาติโยม ในกิจทำงานต่างๆ แล้วแต่ว่ากิจการงานที่ญาติโยมจะเจอยังไงเวลามีปัญหาอุปสรรคก็ได้เป็นโอกาสให้ฝึกความเข้มแข็งอดทนฝึกการใช้สติปัญญา สติปัญญาจะเจริญเมื่อเจอปัญหาอุปสรรค เหมือนเวลาเรียน ต้องขยันทำแบบฝึกหัดไว้ถึงจะเก่ง เพราะฉะนั้นเวลาเจอปัญหาอุปสรรคอย่าไปท้อถอยปรับจิตปรับใจถูกว่ามันเป็นโอกาสให้เราได้ฝึกปรือเรื่องของฝีมือ เรื่องของสติปัญญาได้มาก เรื่องพวกนี้ควรจะเรียนรู้แล้วก็ไปฝึกได้.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี (ศูนย์ 4) จ.พระนครศรีอยุธยา

บ่าย 18 พฤศจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ในการฝึกฝนในด้านของกายภาพ ในด้านของศีล

..เมื่อวานก็จะมีในส่วนของเรื่องของวินัยข้อปฏิบัติต่างๆ ในการฝึกฝนขัดเกลาตน

อย่างที่ญาติโยมมาเรียนรู้ในเรื่องของศีล 8 สิกขาบททั้ง 8 ก็เป็นข้อปฏิบัติในการฝึกฝนขัดเกลา

ก็รู้จักการพิจารณาโดยแยบคายให้เห็นคุณค่าของข้อปฏิบัติต่างๆที่ช่วยในการฝึกฝนขัดเกลา ลดการสัมผัสสิ่งต่างๆในโลกลง ลดการพึ่งพาวัตถุสิ่งต่างๆภายนอกลง ก็จะมีโอกาสเข้าถึงความสุขความสงบจากภายใน ความสุขที่ไม่ต้องไปอิงกับสิ่งภายนอกมากจนเกินความจำเป็น

..ศีล ในข้อที่ 2 ก็จะเป็น อินทรียสังวรศีล ก็คือการสำรวมอินทรีย์นั้นเอง

อินทรีย์ก็คือความเป็นใหญ่ ตาเป็นใหญ่ในการเห็นรูป หูเป็นใหญ่ในการได้ยิน จมูกเป็นใหญ่ในการได้กลิ่นลิ้นเป็นใหญ่ในการลิ้มรส กายเป็นใหญ่ในการสัมผัสความรู้สึกทางกายต่างๆ ใจก็เป็นใหญ่ในการรับรู้ทางใจ ปกติช่องทางเหล่านี้ก็เป็นทวาร ตาหูจมูกลิ้นกายใจในการสัมผัสสิ่งต่างๆในโลก

ถ้ายังไม่ได้เกิดการเรียนรู้ฝึกฝน ก็เป็นช่องทางนำมาของกิเลสเครื่องเศร้าหมองต่างๆ พอสัมผัสรูปสวยๆ เกิดความชอบใจเกิดความติดใจ เกิดความเพลิดเพลินใจ เกิดความรู้สึกที่ดีมีความสุข เราก็ติดใจเพลิดเพลิน เกิดความอยากเพิ่มขึ้นต่อไป

ก็เรียกว่า เกิดวังวนแห่งความทุกข์ จากผัสสะการกระทบ เกิดเวทนาความรู้สึก พอใจ ไม่พอใจก็เกิดตัณหาความทะยานอยาก แล้วก็เกิดความอุปาทานการเข้าไปยึดเกิดความรู้สึกเป็นตัวตนเกิดเป็นภพขึ้นมา ก็เป็นที่ตั้งแห่งกองทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง พอไม่ได้ดั่งใจก็เกิดความโกรธเกิดความขุ่นเคืองใจ

ทีนี้เราก็ต้องฝึกเรื่องของอินทรีย์ เรื่องของความเป็นใหญ่ การสำรวมอินทรีย์ ก็เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการฝึกฝนพัฒนาเช่นกัน สำรวมในการเห็นการได้ยินการได้กลิ่นการลดการสัมผัสต่างๆ พี่จะทำให้ไม่เกิดบาปและอกุศลกรรม

การฝึกเรื่องของการสำรวมอินทรีย์มีก็ต้องใช้ โยนิโสมนสิการการรู้จักพิจารณาโดยแยบคาย แล้วก็ต้องใช้ในส่วนของสติสัมปชัญญะ ความระลึกได้ ความรู้สึกตัวอยู่ ในการฝึกฝน.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 18 พฤศจิกายน 2566

#ขัดเกลากายภาพ #ศีล #อินทรียสังวร #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ในการปฏิบัติธรรมเราก็มีหลักใจที่เป็นสัมมาทิฏฐิในการปักหลักไว้ ก็จะช่วยให้เราเดินอย่างเรียกว่าเดินอย่างสบายใจ แล้วก็เดินอย่างปลอดภัยว่ามีสัมมาทิฏฐิที่ปักไว้

สัมมาทิฏฐิในเบื้องต้น สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน

สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา

นี่ไม่ใช่ของเรา นี่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา

อย่างน้อยเป็น GPS ที่ปักอยู่ในหัวใจไว้ก่อนนะ บางทีเราฟังเขาว่าไม่ใช่เราเนี่ย ก็อาจจะค้านกับความรู้สึกนะ แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่เป็นสัมมาทิฏฐิที่ปักหลักไว้ก่อนนะ แล้วก็ค่อยเรียนรู้ตามขึ้นมา เพราะส่วนใหญ่เราจะมีสิ่งที่ไม่ตรงกับสิ่งที่เป็นสัมมาทิฏฐิ

เราอาจจะมีความเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ เป็นของเที่ยง สิ่งต่าง ๆ เป็นความสุข เราเห็นอะไรแล้วก็เห็นเป็นความสุขนะ

สิ่งต่าง ๆ เป็นตัวตน นี่เป็นของเรา นี่เป็นตัวตนของเรา แต่ถ้าเราปักด้วยสัมมาทิฏฐิก่อน การปฏิบัติธรรมก็จะมีสมาธิเป็น Backup นะ ก็จะเรียกว่าอุ่นใจสบายใจนะมีสัมมาทิฏฐิเป็น Backup อยู่

อ้าวแล้วคำว่าไม่ใช่ตัวตนเนี่ย แล้วตัวตนมาได้อย่างไร ตัวตนมาได้อย่างไร ความรู้สึกเป็นเรามาได้อย่างไร

ความรู้สึกเป็นเรานี่เป็นผลนะ เป็นผลมาจากเหตุ เรียกว่าขันธ์ทั้ง 5 มีสภาพอุปทานเกิดขึ้นในขันธ์ทั้ง 5 ก็ความรู้สึกเป็นของเราและเป็นเราขึ้นมา

ซึ่งสภาพความรู้สึกเหมือนเราเป็นของเราเนี่ยก็ไม่ได้มีอยู่จริงนะ เป็นผลที่มาจากเหตุ.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี (ศูนย์ 4) จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 17 พฤศจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..การที่จะเป็นอิสระหลุดพ้นจากความทุกข์ก็คือต้องมาดับที่เหตุกิเลสเครื่องเศร้าหมอง

พระผู้มีพระภาคเจ้าก็วางระบบสำหรับการฝึกปฏิบัติไว้

เรียกว่า ระบบไตรสิกขา

เรื่องของศีลสิกขา เรื่องของจิตตสิกขา เรื่องของปัญญาสิกขา

..คำว่า ศึกษาในพระพุทธศาสนา หมายถึง การเรียนรู้ฝึกหัดปฏิบัติพัฒนาจนกลายเป็นวิถีชีวิตของเรา

ก็เรียกว่าทั้งปริยัติการเรียนแล้วก็ปฏิบัติควบคู่กันไป ถึงจะเรียกว่าสิกขา อย่างเช่นโยมรับศีลสิกขาบทนี้คือรับไปปฏิบัติจนกลายเป็นวิถีชีวิต มันถึงจะเกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

อย่างที่ญาติโยมมาเรียนรู้ในคอร์สปฏิบัตินี้ ก็มาเรียนรู้ระบบนี้แหละ ศีล สมาธิ และปัญญา

เพราะว่าชีวิตคนเราก็อาศัยการฝึกปฏิบัติพัฒนาทั้ง 3 ด้าน

..เรื่องศีลนี้ก็จะครอบคลุมเรื่องของการใช้ชีวิต การมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมผู้คนสังคมต่างๆเรียกว่าโลกในด้านกายภาพคือโลกภายนอก จะรวมในเรื่องของศีลทั้งหมด ให้เราได้ศึกษาปฏิบัติ ถ้าพูดถึงศีลญาติโยมจะนึกถึงศีล 5 ศีล 5 ศีล 8 แต่ความหมายจริงๆกว้างกว่านั้นน่ะ รวมแล้วก็คือ การใช้ชีวิตในกายภาพที่ถูกต้อง การพูดการจาการกระทำ การใช้ชีวิตปฏิสัมพันธ์กับผู้คนสังคมสภาพแวดล้อมต่างๆที่ถูกต้อง ที่รวมเรียกว่า ศีลสิกขา

..เรื่องของสมาธิก็คือ จิตตสิกขา ก็คือเรื่องของจิตใจ ก็จะมีเฉพาะเรื่องของจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณธรรมในจิตใจเรื่องของประสิทธิภาพของจิตใจจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคงความตั้งมั่นต่างๆ โดยมีสมาธิคือความตั้งมั่นเป็นแกน นี่ก็ส่วนหนึ่งที่จะศึกษาปฏิบัติเพราะชีวิตคนเราก็ประกอบด้วยกายและใจ ศีลนี้จะคุมเรื่องกายภายนอก จิตใจก็จะเข้าถึงข้างใน

..แล้วก็เรื่องของ ปัญญาสิกขา ปัญญานี้ก็เป็นองค์ธรรมหนึ่งเป็นเจตสิกหนึ่งของจิตนี่แหละ แต่ว่าเป็นเรื่องใหญ่เป็นแดนใหญ่ที่ต้องพัฒนาขึ้นมาจึงแยกออกมาเป็นเรื่องของปัญญาเฉพาะเป็นความรู้ตั้งแต่ระดับพื้นการเรียนรู้ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนพัฒนาขึ้นไประดับที่สูงขึ้นไปจนเรียกว่าพ้นโลกเป็นโลกุตรธรรม แดนปัญญาจึงเป็นแดนที่ใหญ่มากที่จะต้องเรียนรู้และฝึกพัฒนาไปโดยลำดับ

#การศึกษาในพระพุทธศาสนา #ระบบไตรสิกขา #ศีลสมาธิปัญญา

ก็มาว่าในเรื่องของศีลก่อน อย่างที่ญาติโยมมาเรียนรู้ในคอร์สก็เริ่มต้นด้วยศีล 8 สิกขาบททั้ง 8 ตรงนี้จะเป็นในส่วนของสิ่งที่เรียกว่าวินัย ข้อปฏิบัติที่ใช้ในการฝึกฝนขัดเกลาตนนั่นเอง ศีล8 เป็นข้อปฏิบัติที่ดีมากเลยเป็นข้อปฏิบัติที่เอื้อต่อการพัฒนาจิตใจและปัญญาการใช้ชีวิตมากเลยเรียกว่าการประพฤติพรหมจรรย์ การประพฤติพรหมจรรย์ คือ การใช้ชีวิตที่ประเสริฐ.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี (ศูนย์ 4) จ.พระนครศรีอยุธยา

บ่าย 17 พฤศจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..สมัยนี้มีสิ่งที่แสวงหาเสพเยอะไหม แต่ทำไมความทุกข์มันเยอะเหลือเกิน

เพราะว่ามันมีพิษภัย สิ่งเหล่านี้จะสะสมอยู่ในขันธสันดาน ในจิตใต้สำนึกของเรา

หมักหมนเป็นอนุสัยนอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน แล้วมันก็ผุดขึ้นมาเมื่อเจอสิ่งเร้า ก็กระตุ้นกลายเป็นคนมีความโลภมาก มีความโกรธมาก มีความหลงมาก

#กิเลสคือต้นตอแห่งความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง

ถ้าเราจะเป็นอิสระหลุดพ้นจากความทุกข์ ก็ต้องดับที่เหตุ เหตุดับผลจึงดับ

ความทุกข์เป็นผล เหตุก็คือกิเลสเครื่องเศร้าหมองความไม่รู้

.. ทำให้เกิดตัณหาอุปาทานเกิดความทะยานอยากความหลงยึดมั่นถือมั่น

.. เกิดผัสสะกระทบปุ๊บเกิดเวทนา ความรู้สึก ถ้าเป็นสิ่งที่ดีก็ชอบใจ ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่ดีเกิดเห็นรูปไม่ดีคนที่เราไม่ชอบ ทานอาหารที่ไม่อร่อยก็เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี

.. เกิดทุกขเวทนา เกิดไม่ชอบใจขึ้น

.. จากนั้นก็เกิดตัณหา อะไรที่ชอบก็ดึงเข้าอยากได้ อะไรไม่ชอบก็ผลักออก ไม่ได้ดั่งใจก็โกรธโมโห

.. ตัณหาก็ทำให้เกิดอุปาทานความยึดมั่นถือมั่น

.. อุปาทานก็ทำให้เกิดภพเกิดความรู้สึกเป็นตัวตนขึ้นมา #ที่ตั้งแห่งความทุกข์ เกิดขึ้นแล้ว อุปาทาน

.. จากนั้นชาติชรามรณะโสกะปริเทวะมหากาพย์แห่งความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงก็เกิดขึ้น จากการติดใจอยู่กับรสอร่อย

แล้วเราจะหลุดจากวังวนแห่งความทุกข์ยังไง #กระแสปฏิจจสมุปบาท

..เวลาความรู้สึกทุกข์เกิดขึ้นไม่ต้องไปโทษอะไรมันคือสิ่งที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของเรานี่แหละถ้าจะดับมันต้องดับในใจไม่ดับที่อื่น

ชาติชรามรณะโสกะปริเทวะกองทุกข์ทั้งปวงที่เกิด เมื่อเราเริ่มฝึกสติเราจะเริ่มรู้เท่าทันตรงนี้

แล้วเราจะเปลี่ยนกระบวนการตรงนี้ หลุดจากวังวนแห่งความทุกข์ได้อย่างไร

พระองค์ก็ส่งทรงมอบเครื่องมือการฝึกพัฒนามาแล้ว

ที่เรียกว่าอบรมด้วย ไตรสิกขา ด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา ที่พวกเราจะได้เรียนรู้ฝึกฝนกันต่อไป

การฝึกสติก็เพื่อรู้เท่าทันและเกิดปัญญา เปลี่ยนกระบวนการตรงนี้ พอเกิดเกิดความรู้สึกแทนที่มันจะเกิดตัณหาและพัฒนาต่อไปก็ มีสติรู้เท่าทันแทนมีปัญญารอบรู้แทนแล้วก็พลิก จากกระบวนการตัณหาที่เป็นอกุศลเป็นกุศลธรรมต่อไปจากการฝึกฝนขัดเกลาตัวเอง.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 17 พฤจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"การที่เราเนกขัมมะกันมา ไม่ใช่เรื่องน้อย ๆ เลยนะ มีอานุภาพมหาศาล อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการก้าวเดินในเส้นทางธรรม ก็ให้พวกเราได้หมั่นที่จะตั้งใจในการฝึกฝนปฏิบัติธรรม

เรามีโอกาสเข้ามาในยุวพุทธเขมรังสีที่เรียกว่าทุ่งนาธรรม ก็จะมีหลักใจที่เป็นประโยชน์ต่อการก้าวเดินในเส้นทางธรรม

ก็มีพระสูตรหนึ่งที่เรียกว่า กิจของชาวนา เป็น หัวใจหนึ่งเลยนะที่จะเป็นประโยชน์ในการวางใจในการปฏิบัติธรรม

ในกิจของชาวนานี่ พระศาสดาท่านก็ตรัสถึงกิจอันเร่งด่วนของชาวนา

ชาวนาก็ทำกิจ 3 อย่าง คือ

การที่เตรียมพื้นดินไถคราดนา เตรียมดินไถคราดนา

สองก็คือการที่หว่านเมล็ดลงไป

สามก็คือเตรียมผันน้ำเข้า ผันน้ำออก ..ประสบการณ์ตรงน่ะ โยมมาแถวนี้ มองไปก็จะเจอทุ่งนา มีชาวนาทำนากันอยู่

เมื่อชาวนาสร้างเหตุ 3 อย่างนี้แล้ว ชาวนาไม่ต้องใช้อานุภาพ ใช้ฤทธิ์บันดาลเลยว่า ข้าวนี่ เมล็ดข้าว ข้าวเปลือก ..จะงอกมาเมื่อไหร่ รวงข้าวจะเกิดมาในวันถัดไปไหม ข้าวสวยจะหุงได้ในวันที่ 3 ไหม ในวันมะรืนไหม

ข้าวยังปลูกไม่เสร็จเลยนะ จะหุงแล้วในวันที่ 3 ก็ไม่สามารถที่จะใช้ฤทธิ์ดลบันดาลได้เลย

เพราะที่ข้าวจะออกรวง จะหุงได้ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยในการสร้างเหตุของชาวนา และมีระยะเวลาอันเหมาะสมตามเหตุตามปัจจัย ฉันใดก็ฉันนั้น.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 16 พฤศจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ความรู้สึกตัวทำให้หลุดออกจากโลกของความคิดปรุงแต่ง

ความปรุงแต่งที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจนี่แหละ ที่เป็นที่มาแห่งความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ที่ท่านบอกว่าคนสมัยนี้ก็ #ทุกข์เพราะความคิด

จริงๆแล้วความคิดความปรุงแต่ง มันเป็นเรื่องกลางๆนะ มันมีทั้งความคิดที่ทำให้เกิดความทุกข์ แล้วก็ความคิดที่ทำให้เกิดความสุข แต่ส่วนใหญ่คนที่ยังไม่ได้ฝึกจะชอบคิดลบเสียมาก ชอบคิดที่ทำให้เกิดความทุกข์ใจเสียมากกว่า โดยเฉพาะสมัยนี้เนี่ยความเครียดความกังวลต่างๆก็มาจากสิ่งนี้

ก็ค่อยๆชำระสะสางกันไป รู้เท่าทันกันไป

เบื้องต้นการที่จะหลุดออกจากโลกของความคิดก็อาศัยสิ่งที่เรียกว่า #ความรู้สึกตัว

รู้สึกกาย ทำความรู้สึกตัวขึ้นมา #เริ่มต้นที่จุดสัมผัส นั่งอยู่ก้นสัมผัสพื้นก็รู้ ขาสัมผัสพื้นก็รู้ แผ่นหลังตั้งตรง มือที่วางอยู่ก็รู้ มือวางอยู่รู้สึกได้ไหม ก็รู้สึกได้ รับรู้ได้ ถ้าฝึกใหม่ๆมันก็จะรู้สึกแป๊บนึงเดี๋ยวใจก็เผลอไปแล้ว ใหม่ๆ #ฐานที่ตั้งสติ ก็จุดสัมผัส ญาติโยมนั่งบนเก้าอี้ก็จะมีจุดสัมผัสที่เรียกว่าฝ่าเท้าสัมผัสพื้น ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นรู้สึกได้ไหม รู้สึกได้ พอรู้สึกได้ความรู้สึกกิดขึ้น สติสัมปชัญญะความรู้สึกตัวเกิดขึ้นก็จะหลุดจากความปรุงแต่งตัวจากความคิด.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี จ.พระนครศรีอยุธยา

บ่าย 16 พฤศจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"(ปุจฉา:ลด ละ สละ วาง ยังต้องทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัวอยู่อีกไหมคะ

..ก้าวเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง เป็นอย่างไรคะ ?)

..การเดินอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ก็คือ ทางสายกลาง อันประกอบด้วยอริยมรรคมีองค์ 8

หนึ่งในนั้นก็คือ สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง

ก็เป็นธรรมดา คฤหัสถ์ ฆราวาสก็ต้องประกอบกิจหน้าที่การงาน ทำมาหากิน หาเลี้ยงชีพต่างๆ ชีวิตคนเราก็หมดไปกับการทำกิจการงานต่างๆเยอะแยะทีเดียว หลักๆทั่วไปก็วันนึงก็ 8 ชั่วโมง ถ้าขับรถไปทำงานกลับบ้านด้วยก็รวมแล้วนี่ก็เกิน 1 ใน 3 ของชีวิตในแต่ละวันทีเดียว หมดเวลาไปกับการทำกิจการงานต่างๆ

ยิ่งถ้าเราทำงานอย่างไม่มีความสุข ทำเพราะจำใจต้องทำ ทำเพื่อหาเงินแต่ว่าการทำงานไม่มีความสุข มีความเครียด ความกดดันต่างๆ มีแต่ความอึดอัดคับข้องใจ มีแต่ความทุกข์ ชีวิตแต่ละวันก็หมดเวลาไปกับเรื่องอกุศลเรื่องความทุกข์เยอะเลย

แต่ถ้าเราใช้หลักธรรมะมาฝึกปฏิบัติ

..เราสามารถเปลี่ยนจากการทำงานด้วยความทุกข์ มาเป็นการทำงานอย่างมีความสุขได้

..แล้วก็เปลี่ยนจากการทำงานที่ทำให้จิตเกิดกิเลสตัณหาเกิดอกุศล มาเป็นการพัฒนาทำให้จิตเกิดกุศลเกิดสติปัญญาเกิดคุณธรรมขึ้นในจิตใจ

เนี่ย ถ้าพลิกเป็นชีวิตก็เปลี่ยนเลย ทั้งๆที่เราเจอสิ่งแวดล้อมเดิมๆ แต่ถ้าใจมีธรรมะซะแล้ว คิดถูกคิดเป็น วางใจถูก ชีวิตก็เปลี่ยนเลย ใช้เวลาเท่ากันแต่ตรงกันข้ามเลย ถ้าไม่ได้ฝึกปฏิบัติก็อาจจะเกิดความทุกข์ไม่มีความสุข เกิดกิเลสตัณหาต่างๆ แต่ถ้าใช้ชีวิตได้ถูกก็มีความสุขมีความร่มเย็น แล้วก็สามารถพัฒนาจิตใจพัฒนาสติปัญญาได้

ตรงนี้ก็เริ่มจากการเห็นคุณค่าของกิจการงานที่ได้ทำ เราก็อาศัยแดนตรงนี้แหละเป็นแดนในการเพาะบ่มฝึกหัดพัฒนาการปฏิบัติ

การปฏิบัติธรรมไม่ได้หมายถึงการนั่งสมาธิ เดินจงกรม พัฒนาเรื่องสภาวธรรมเท่านั้น

แต่รวมถึงการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ก็คือเรื่องของกายภาพด้วย การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง

รวมแล้วก็มีอยู่ 3 แดนด้วยกันก็คือเรื่องของศีล เรื่องของสมาธิ เรื่องของปัญญา .."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 16 พฤศจิกายน 2566

#ก้าวเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง #ทางสายกลาง #สัมมาอาชีวะ #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"ใช้ชีวิตปฏิบัติธรรม ไม่มีอะไรน่ามี ไม่มีอะไรน่าเป็น ไม่ว่าอะไร ไม่เอาอะไร ใจจะสบายใจ แล้วก็จะมีความสุขเล็ก ๆ เลี้ยงอยู่

หัวใจสบายใจมีความสุขจิตก็ตั้งมั่นโดยธรรมชาติเลย สร้างเหตุแบบนี้ ผลเป็นอีกแบบหนึ่ง สร้างเหตุแบบเดิม ผลเป็นแบบนี้

พออยู่กับการสร้างเหตุ ก็จะพบว่าเราไม่สามารถควบคุมผลได้เลยนะ อยู่กับการสร้างเหตุ ก็จะไม่รู้สึกว่าการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องยาก"

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

ค่ำ 15 พฤศจิกายน 2566

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"(ปุจฉา:ไม่เคยมีความอิจฉาริษยา อิจฉาเป็นเช่นไร นี้คือเป็นความผิดปกติไหมเจ้าคะ มีแต่ความยินดีปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขมากกว่าตัวเอง..?)

..ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ การที่เรารู้สึกดี ทางพระท่านเรียกว่า การเมตตากับผู้อื่น เป็นคุณธรรมในจิตใจที่เกิดขึ้นทำให้จิตใจมีความอ่อนโยน มีเมตตา มีความรู้สึกที่ดีขึ้นมา

ตรงนี้นี่ก็เรียกว่า เป็นต้นทุนที่ดี ซึ่งสามารถพัฒนาต่อยอดออกไปได้อีก

ชีวิตคนเรา เกิดมาแล้วก็ควรที่จะได้รับการศึกษาพัฒนาฝึกฝนพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นมา

.. ทุกคนถ้ารู้จักเริ่มพิจารณาเป็น จากการที่เรามีพื้นฐานความรู้ที่ถูก เริ่มตั้งแต่

.. อกุศลให้ผลเป็นความทุกข์

.. กุศลให้ผลเป็นความสุข

.. พัฒนาความต้องการ เปลี่ยนจากเพียงแค่สนองตัณหา อยากเสพรสอร่อยทั้งหลายทั้งปวง

ก็มาเป็น ..ฉันทะ ความใคร่ที่จะทำสิ่งที่ดีมีความสุขอยากให้ผู้อื่นมีความสุข จิตใจก็จะเริ่มเปิดกว้างออก มีความเห็นอกเห็นใจ ทำอะไรแล้วมันปลื้มใจมาก

ตั้งแต่อยู่ในบ้านเลย อยากให้พ่อแม่มีความสุข ทำสิ่งต่างๆแต่ละวันเพื่อให้พ่อแม่มีความสุข ตัวเองก็มีความสุข อยากให้ญาติพี่น้องมีความสุขทำอะไรเพื่อให้เขามีความสุขตัวเองก็มีความสุข คนที่เขาอยู่กับเราแบบนี้เขาก็รู้สึกดี เราก็ร่มเย็น อยู่กันด้วยความผาสุก พอโตมาแต่งงานอยากให้คู่ครองมีความสุขทำสิ่งที่ดีๆให้ อยากให้ลูกหลานมีความสุข มีเพื่อนฝูงอยากให้เพื่อนฝูงมีความสุข ทำสิ่งที่ดีๆให้ ไปที่ทำงานก็ทำสิ่งที่ดีๆต่างๆ ใจเราก็สบายใจมีความสุข

เราก็ฝึกฝนพัฒนาต่างๆเห็นคุณค่า จิตใจก็จะเกิดการพัฒนาขึ้นมา สติปัญญาก็ถูกพัฒนาขึ้นมา พื้นฐานการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ชีวิตก็ร่มเย็น ก็จะเริ่มมองโลกต่างๆในด้านที่ดี แล้วก็มองด้วยความเข้าใจ เกิดความรู้ มีทั้งปัญญา ความรู้ แล้วก็มีทั้งเมตตา ความรักความปรารถนาดี.."

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย

พระอาจารย์​มหาวรพรต​ กิตฺติวโร

ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา

เช้า 15 พฤศจิกายน 2566

#ความรักความปรารถนาดี #เมตตา #ฉันทะ #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่

Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree

Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation

YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree

Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/

SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree

LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol

LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ

Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com

TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree