
Sign up to save your podcasts
Or
Q: ชาติ-การเกิด มีความหมายอย่างไร?
A: “ชาติ” หมายถึง การเกิด “การเกิด” หมายถึง การกำเนิด การเกิดโดยยิ่ง การก้าวลงสู่ครรภ์ ความปรากฏแห่งอายตนะของสัตว์ทั้งหลาย และยังมีการเกิดในบริบทอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับว่า จะกำหนดบริบทอย่างไร ซึ่งชาติคือการเกิดไม่เหมือนการเกิด-ดับ หากเป็นการเกิด-ดับ ท่านใช้คำว่า อุบัติ (เกิด) - นิโรธ (ดับ) ปัญญาเป็นส่วนของมรรค ในขณะที่ชาติคือการเกิดเป็นส่วนของทุกข์ หน้าที่ที่ต้องทำไม่เหมือนกัน ทุกข์ต้องยอมรับ มรรคต้องทำให้เจริญ ความเกิดของปัญญาเราใช้คำว่า “อุบัติ” เป็นการอุบัติแห่งปัญญา เพราะไม่ได้ใช้อายตนะให้มันเกิดขึ้น สิ่งที่เราควรทำความเข้าใจ คือเราจะดับชาติ คือการเกิดได้ ความยึดถือต้องดับ การเกิดจึงจะดับไปด้วย
Q: คนประเภทไหนเหมาะในการทำงาน?
A: ใช้ทั้งสองกลุ่ม หน้าที่ของผู้นำ คือ ให้ทำงานตามกำลังที่เหมาะสม
Q: ปฏิจจสมุปบาทมีกี่รูปแบบ?
A ให้เราเข้าใจหลักการคือ “เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะความดับไปของสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับ” ใช้หลักการนี้ในการเข้าไปจับกับทุกสิ่ง จะเกิดปัญญาได้
Q: ดับอวิชชา ทำอย่างไร?
A: เมื่อเห็นความไม่เที่ยง อวิชชาจะดับไป จะเห็นความไม่เที่ยงได้ ต้องอาศัยอนุสติ 10 สติปัฎฐาน 4 โพชฌงค์ 7 พอวิชชาเกิด เห็นความไม่เที่ยง อวิชชาก็จะดับ
Q: ทำอย่างไรเมื่อไม่รู้ว่าสิ่งนี้มาจากเหตุปัจจัยอะไร?
A: พระพุทธเจ้าบัญญัติว่า อวิชชามีอยู่ ซึ่งแต่ก่อนมีพระพุทธเจ้าเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอวิชชามีอยู่ เมื่อรู้แล้วค่อยไปทำให้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ให้รู้ขึ้นมา ทำวิชชาให้เกิดด้วยการปฏิบัติตามมรรค 8 แล้วอวิชชาจะดับไป
Q: บารมี มีกี่อย่าง?
A: ตามพุทธพจน์มี 10 บารมี 30 นั้นมาจากคัมภีร์พุทธวงศ์ แต่ทั้งนี้อย่าเพิ่งปฏิเสธควรแยกทำความเข้าใจ
Q: อโหสิกรรมคืออะไร?
A: คำว่า “อโหสิกรรม” ท่านหมายถึงผูกเวร แต่ที่คนไทยเอามาใช้ คำว่า “อโหสิ” คือ กรรมที่ได้ทำไปแล้ว แนวทางที่จะทำให้เราไม่ผูกเวรกับใคร คือให้มีพรหมวิหาร 4 ปฏิบัติตามมรรค 8
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
5
11 ratings
Q: ชาติ-การเกิด มีความหมายอย่างไร?
A: “ชาติ” หมายถึง การเกิด “การเกิด” หมายถึง การกำเนิด การเกิดโดยยิ่ง การก้าวลงสู่ครรภ์ ความปรากฏแห่งอายตนะของสัตว์ทั้งหลาย และยังมีการเกิดในบริบทอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับว่า จะกำหนดบริบทอย่างไร ซึ่งชาติคือการเกิดไม่เหมือนการเกิด-ดับ หากเป็นการเกิด-ดับ ท่านใช้คำว่า อุบัติ (เกิด) - นิโรธ (ดับ) ปัญญาเป็นส่วนของมรรค ในขณะที่ชาติคือการเกิดเป็นส่วนของทุกข์ หน้าที่ที่ต้องทำไม่เหมือนกัน ทุกข์ต้องยอมรับ มรรคต้องทำให้เจริญ ความเกิดของปัญญาเราใช้คำว่า “อุบัติ” เป็นการอุบัติแห่งปัญญา เพราะไม่ได้ใช้อายตนะให้มันเกิดขึ้น สิ่งที่เราควรทำความเข้าใจ คือเราจะดับชาติ คือการเกิดได้ ความยึดถือต้องดับ การเกิดจึงจะดับไปด้วย
Q: คนประเภทไหนเหมาะในการทำงาน?
A: ใช้ทั้งสองกลุ่ม หน้าที่ของผู้นำ คือ ให้ทำงานตามกำลังที่เหมาะสม
Q: ปฏิจจสมุปบาทมีกี่รูปแบบ?
A ให้เราเข้าใจหลักการคือ “เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะความดับไปของสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับ” ใช้หลักการนี้ในการเข้าไปจับกับทุกสิ่ง จะเกิดปัญญาได้
Q: ดับอวิชชา ทำอย่างไร?
A: เมื่อเห็นความไม่เที่ยง อวิชชาจะดับไป จะเห็นความไม่เที่ยงได้ ต้องอาศัยอนุสติ 10 สติปัฎฐาน 4 โพชฌงค์ 7 พอวิชชาเกิด เห็นความไม่เที่ยง อวิชชาก็จะดับ
Q: ทำอย่างไรเมื่อไม่รู้ว่าสิ่งนี้มาจากเหตุปัจจัยอะไร?
A: พระพุทธเจ้าบัญญัติว่า อวิชชามีอยู่ ซึ่งแต่ก่อนมีพระพุทธเจ้าเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอวิชชามีอยู่ เมื่อรู้แล้วค่อยไปทำให้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ให้รู้ขึ้นมา ทำวิชชาให้เกิดด้วยการปฏิบัติตามมรรค 8 แล้วอวิชชาจะดับไป
Q: บารมี มีกี่อย่าง?
A: ตามพุทธพจน์มี 10 บารมี 30 นั้นมาจากคัมภีร์พุทธวงศ์ แต่ทั้งนี้อย่าเพิ่งปฏิเสธควรแยกทำความเข้าใจ
Q: อโหสิกรรมคืออะไร?
A: คำว่า “อโหสิกรรม” ท่านหมายถึงผูกเวร แต่ที่คนไทยเอามาใช้ คำว่า “อโหสิ” คือ กรรมที่ได้ทำไปแล้ว แนวทางที่จะทำให้เราไม่ผูกเวรกับใคร คือให้มีพรหมวิหาร 4 ปฏิบัติตามมรรค 8
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
85 Listeners
21 Listeners
2 Listeners
4 Listeners
2 Listeners
2 Listeners
1 Listeners
2 Listeners
3 Listeners
9 Listeners
0 Listeners
6 Listeners
1 Listeners
5 Listeners
0 Listeners
0 Listeners
0 Listeners