ฟังรายการวิทยุ 'คนข่าวมองข่าว' จันทร์ – ศุกร์ 17.00-18.00น. 101 FM/////

ตอนนี้เรื่องภัยศึกประเทศเพื่อนบ้านเรา เต็มไปด้วยการสูญเสียไม่แน่อีกไม่นานอาจะมีเรื่องอะไรบางอย่างทำให้ไทยต้องตัดสินใจดังนั้นไทยเราเองก็ควรที่จะคิดอย่างรอบคอบ ถึงการตัดสินใจเพราะสงครามมันเต็มไปด้วยเรื่องของผลประโยชน์.

กระเเส! เรื่องโน้ตอุดม กำลังมาเเรง...ตีความได้หลากหลายแต่สิ่งที่เป็นประเด็นก็คือเรื่องของการเมืองในยุคนี้ บางคนมองว่าสิ่งที่คุณโน้ตพูดนั่นคือความจริง กลับบางคนก็มองว่าเป็นการชักจูงบางกลุ่มให้ไม่เชื่อฟังคนรุ่นเก่านั่นเอง.

สามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่

YouTube “คนข่าวมองข่าว”https://www.youtube.com/channel/UCw2u2QsTJC6d0eRi1X5imhg

Spotify "คนข่าวมองข่าว" : https://open.spotify.com/show/0ncmBYgQtWrn3xcWBL8dVy

นายสก โสเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาได้แสดงความคาดหวังว่า กัมพูชาจะมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ส์ (Huawei Technologies) ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน เพื่อส่งเสริมโครงการริเริ่มด้านการท่องเที่ยวดิจิทัลของกัมพูชา 

โดยนายโสเกนได้พบปะกับนายเถา กวงเย่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย เทคโนโลยี (กัมพูชา) จำกัด และกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของเขาในการเสริมสร้างการทำงานระหว่างกระทรวงฯ กับหัวเว่ย โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาโครงการริเริ่มการท่องเที่ยวดิจิทัล 

นอกจากนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในสี่ภาคส่วนสำคัญที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา เมื่อดูรายงานล่าสุดจากกระทรวงฯ เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.58 ล้านคนในไตรมาสแรก (หรือช่วงม.ค-มี.ค.) ของปี 2567 เพิ่มขึ้น 22.5% จาก 1.29 ล้านคนในช่วงเดียวกันของปี 2566 

ทั้งนี้ กัมพูชามีแหล่งมรดกโลก 4 แห่ง ได้แก่ อุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือนครวัดในจังหวัดเสียมราฐ กลุ่มปราสาทสมบูรณ์ไพรคุกในจังหวัดกำปงธม รวมทั้งปราสาทพระวิหารและโบราณสถานเกาะแกร์ในจังหวัดพระวิหาร และมีแนวชายหาดยาวราว 450 กิโลเมตร พาดผ่านสี่จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ สีหนุวิลล์ กัมปอต แกบ และเกาะกง 

นับว่าเป็นอีกเรื่องที่จับตามองค่ะ ว่ากัมพูชาจะสามารถร่วมงานกับหัวเว่ยเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้หรือไม่? ถ้าหากได้มีโอกาสจับมือกันจริงๆ อาจจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ได้ค่ะ

รอยเตอร์ (Reuters) คว้ารางวัลพูลิตเซอร์ (Pulitzer) สองรางวัล โดยคว้ารางวัลภาพถ่ายข่าวด่วนจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในอิสราเอล-กาซา รวมถึงรางวัลการรายงานระดับประเทศจากการสืบสวนอย่างต่อเนื่องเรื่องบริษัทของอีลอน มัสก์ ซึ่งงานของพูลิตเซอร์ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในแวดวงสื่อสารมวลชนของสหรัฐอเมริกา โดยจัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2460 

และสิ่งที่น่าสนใจคือ ซีรีส์ Musk ของรอยเตอร์เรื่อง “The Musk Industrial Complex” เผยให้เห็นว่ามีคนงานได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่บริษัท SpaceX ของ Musk และการปฏิบัติอย่างทารุณต่อสัตว์ในบริษัท Neuralink ซึ่งเป็นบริษัทปลูกถ่ายสมองของเขา 

นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังพบว่า ผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ได้ปกปิดข้อบกพร่องที่เป็นอันตราย อย่างการควบคุมระยะการขับขี่บนแผงหน้าปัดของรถยนต์ และแบ่งปันภาพที่ละเอียดอ่อนที่ยานพาหนะโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ทราบ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการสอบสวนในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ดำเนินการตรวจสอบ 

โดยพอล บาสโคเบิร์ต ประธานสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า  “ผลงานที่ชนะเลิศของเราเป็นตัวอย่างว่าทำไมการสื่อสารมวลชนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการแจ้งให้สาธารณชนทราบและยึดอำนาจมารับผิดชอบ”

นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับสำนักงานข่าวอย่าง รอยเตอร์ ที่ทำงานหนักเพื่อนำเสนอข่าวสารต่างๆให้กับสาธารณชนทุกคนนะคะ หวังว่ารางวัลเหล่านี้จะสามารถตอบแทนความเหนื่อยยากของพวกเขาและเพื่อนำเสนอผลงานต่อไปในอนาคตเช่นกัน 

กระทรวงแรงงานของรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ออกแถลงการณ์ระบุว่า กระทรวงแรงงานขอระงับการรับใบสมัครจากพลเมืองชายที่ต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เป็นการชั่วคราว พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบกระบวนการออกเดินทางและประเด็นอื่น ๆ  

โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นหลังรัฐบาลเมียนมาซึ่งเผชิญความยากลำบากในการสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธและประกาศบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหาร อีกทั้งยังมีข้อกำหนดว่า ในระหว่างการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน กองทัพสามารถขยายระยะเวลาในการบังคับเกณฑ์ทหารได้ถึง 5 ปี

ผลให้ชาวเมียนมาหลายพันคนแห่เข้าคิวขอวีซ่า นอกสถานทูตต่างชาติในนครย่างกุ้ง บางส่วนข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร 

ทางด้านโฆษกรัฐบาลทหาร บอกว่า จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหาร เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ ท่ามกลางการสู้รบกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) และกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ พร้อมเสริมว่า พลเรือนราว 13 คนมีสิทธิ์ถูกเรียกตัว แม้กองทัพจะมีขีดความสามารถในการฝึกฝนกำลังพลได้เพียง 50,000 อัตราต่อปีก็ตาม 

นอกจากนี้ข้อมูลตามการประเมินขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ยังอ้างอิงตัวเลขของรัฐบาลเมียนมา ระบุว่า ในปี 2020 มีชาวเมียนมากว่า 4 ล้านคนเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ  

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเมียนมาที่ตอนนี้มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะจบในเร็ววันที่สุดเพื่อที่จะไม่เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ของชาวเมียนมาค่ะ 

ฟังรายการวิทยุ 'คนข่าวมองข่าว' จันทร์ – ศุกร์ 17.00-18.00น. 101 FM/////

"ภูมิธรรม" บุกชิมข้าวสารค้างสต็อกประมาณ 10 ปีของรัฐบาลพร้อมมั่นใจว่ายังสามารถทานได้เหมือนเดิม การันตีคุณภาพโดยเปิดประมูลที่ 1.5 แสนกระสอบ และจากนี้จะมีการตรวจสอบก่อนประกาศจำหน่ายข้าวสาร.พวกที่ชอบขี้จักรยานยนต์บนทางเท้า หรือขับย้อนศรสมควรที่จะโดนจับมากที่สุด นอกจากจะไม่เกรงกลัวต่อกฎยังสร้างความเดือดร้อนสู่ผู้คนระเเวกนั้นอีกด้วย วอนผู้พบเห็นแจ้งตำรวจจราจรได้ทุกเมื่อ .

สามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่

YouTube “คนข่าวมองข่าว”https://www.youtube.com/channel/UCw2u2QsTJC6d0eRi1X5imhg

Spotify "คนข่าวมองข่าว" : https://open.spotify.com/show/0ncmBYgQtWrn3xcWBL8dVy

ฟังรายการวิทยุ 'คนข่าวมองข่าว' จันทร์ – ศุกร์ 17.00-18.00น. 101 FM

/////

ผู้ปกครองรมตัวประท้วง ครู-ผอ. แอบเอาเงินออมของนักเรียนไปใช้เด็กนักเรียนอนุบาล-ป.6 กว่า 138 คน ถูกผู้ใหญ่ใจร้ายยักยอกเงินแถมยังมีท่าทีจะทำเรื่องย้ายออกเพื่อหนีความผิดอีก

.เมื่อขึ้นค่าเเรงแล้ว ราคาของก็ขายก็แพงมากขึ้นเรื่อยๆรัฐบาลนี้ก็ไม่มีปัญญาคุมสินค้าได้เลย ถ้าจะบีบให้ทุกที่ขึ้นค่าแรงบางกิจการอาจจะปิดตัวลงไปก็ได้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก.

สามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่

YouTube “คนข่าวมองข่าว”https://www.youtube.com/channel/UCw2u2QsTJC6d0eRi1X5imhg

Spotify "คนข่าวมองข่าว" : https://open.spotify.com/show/0ncmBYgQtWrn3xcWBL8dVy

อากาศร้อนปกคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความเสียหายหนัก โดยเฉพาะที่ "เวียดนาม" ปลาตายเกลื่อนลอยอืดในอ่างเก็บน้ำที่ จ.ด่งนาย 

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2567 สำนักข่าวต่างประเทศ เผยแพร่ภาพมุมสูงของอ่างเก็บน้ำภายใน จ.ด่งนาย ทางตอนใต้ของเวียดนาม พบปลานับแสนตัวตายลอยอืดบนผิวน้ำ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด เจ้าหน้าที่จึงเร่งเก็บซากปลาที่กำลังเน่าเสียหลังจากปลาตายตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ซึ่งมีปริมาณปลามากจนบางส่วนแทบไม่เห็นผิวน้ำ 

ทางด้านชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ปลาตายเพราะน้ำน้อย และชาวบ้านเดือดร้อนจากกลิ่นปลาเน่ามานานหลายวัน โดยเชื่อว่าหายนะที่เกิดขึ้น เกิดจากการดูแลจัดการที่ผิดพลาด ทั้งนี้คาดว่าปลาที่ตายคิดเป็นน้ำหนักรวมกว่า 200 ตัน และไม่สามารถระบุจำนวนได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุ 

ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลอ่างเก็บน้ำต้องปล่อยน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรท้ายน้ำ ท่ามกลางอากาศแล้งจัดและฝนที่ไม่ตกมานานหลายสัปดาห์ โดยสื่อท้องถิ่นเวียดนาม รายงานว่า บริษัทที่ดูแลอ่างเก็บน้ำจุดนี้พยายามขุดลอกและผันน้ำเข้าไปเพิ่มตั้งแต่ต้น 2024 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ 

อย่างไรก็ตามจากช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา มักจะมีข่าวเกี่ยวกับอากาศร้อนที่สูงขึ้น ดังนั้นจะเห็นว่าทุกประเทศเริ่มมีการปรับจูนเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศมากยิ่งขึ้น หลายโรงเรียนในอินเดียก็ปรับเวลาเรียนเพราะอากาศร้อน ส่วนประเทศไทยเองก็มีคนเสียชีวิตเพราะฮีทสโตรกไปแล้วเช่นกัน ขอให้ประชาชนหมั่นดูแลตัวเอง งดกิจกรรมกลางแจ้งเเละหมั่นดื่มน้ำบ่อยๆ นะคะ

ฟังรายการวิทยุ 'คนข่าวมองข่าว' จันทร์ – ศุกร์ 17.00-18.00น. 101 FM/////

โควิดกลับมาอีกครั้ง! ตั้งแต่กลับมาจากช่วงสงกรานต์กลายเป็นว่ากลับมาฮิตอีกรอบ ตอนนี้โรงพยาบาลก็แน่นสายพันธุ์ใหม่ก็กำลังจะมาอีก ขอให้ประชาชนอย่าประมาทหมั่นสวมใส่แมสทุกครั้ง .พายุฤดูร้อนที่กำลังจะมา 3-7 พ.ค. 67 นั้นเป็นเพราะการกดอากาศอยากให้ประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ หมั่นระมัดระวังเสมอ ถึงแม้ว่าประชาชนจะพร้อมต้อนรับฝนมากแค่ไหนก็ตาม...สิ่งที่ประชาชนต้องการไม่ใช่คำเตือนจากรัฐ แต่เป็นวิธีการแก้ไขหรือวิธีเตรียมความพร้อมเมื่อเกิภัดยพิบัติหรือปัญหาหน้าแล้งมากกว่า.

สามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่

YouTube “คนข่าวมองข่าว”https://www.youtube.com/channel/UCw2u2QsTJC6d0eRi1X5imhg

Spotify "คนข่าวมองข่าว" : https://open.spotify.com/show/0ncmBYgQtWrn3xcWBL8dVy

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2567 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า บริษัทยายักษ์ใหญ่แอสตราเซเนกา ยอมรับครั้งแรกว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชื่อ "Covishield" สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงภาวะลิ่มเลือด และเกล็ดเลือดต่ำ  

ซึ่งรายงานดังกล่าวเกิดขึ้น ในคดีฟ้องร้องในสหราชอาณาจักร ถึงผลข้างเคียงหลังรับวัคซีนโควิด-19 โดยบริษัทแอสตราเซนเนกา ที่พบภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 

ทั้งนี้ Covishield ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทอังกฤษ-สวีเดน ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และผลิตโดย Serum Institute of India มีการบริหารงานอย่างกว้างขวางกว่า 150 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักรและอินเดีย นอกจากนี้ ระหว่างการศึกษาพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้ 60-80 % 

ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า Covishield อาจมีผลข้างเคียงที่คุกคามถึงชีวิตได้ “มีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่หายากมากที่เรียกว่า Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติและรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งได้รับรายงานหลังการฉีดวัคซีนด้วยวัคซีนนี้ 

นับว่าเป็นข่าวที่น่าตกใจนะคะ แต่อย่างไรก็ตามหวังว่าประชาชนจะตะหนักในเรื่องนี้อยู่เสมอ ระมัดระวังและหมั่นดูแลตัวเองให้ดี อย่าตื่นตระหนกกับข่าวนี้จนเกินไปนะคะ