
Sign up to save your podcasts
Or


เจริญอานาปานสติ เพื่อให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความเป็นอนัตตา เป็นทางแห่งพระนิพพาน
เดิม...เพราะเรามีอวิชชาครอบอยู่ คือ ความไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าตัวเราเองเป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตน) คิดว่าตัวเราเป็นอัตตา (มีตัวตน) พอไม่รู้ ไม่เห็นตามความเป็นจริง จึงได้โอกาสนายช่างผู้สร้างเรือน คือ ตัณหา ความทะยานอยาก ในสิ่งที่เราพอใจ ไม่พอใจ เพลินไป จัดสร้างโครงเรือนขึ้นมา ประกอบเป็นตัวตนด้วย ราคา โทสะ โมหะ (กิเลส) จึงให้ เกิดความรู้สึกว่านี่เป็นตัวตน เป็นตัวฉัน เกิดภพ เกิดชาติ ไม่สิ้นสุด...
หากแต่พอเราให้กำลังกับ ปัญญา มรรค สมาธิ วิชชาด้วยการพิจารณาวิปัสสนา จะเกิดญาณปัญญา คือ เห็นตามความเป็นจริงว่า “สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” เห็นว่ากายเราเป็นเพียงธาตุสี่ เปลี่ยนแปลงตลอดด้วยเหตุ ปัจจัย ห็นเป็น “ทุกขลักษณะ” เห็นด้วยภาวนามยปัญญา จะเกิดความเบื่อหน่าย นิพพิทา จะคลายกำหนัด เห็นอยู่บ่อยๆ จะไม่ยึดถือ และวางกายนี้ได้ ว่าไม่ใช่ตัวตนของเรา
หากแต่ล็อกชั้นที่สอง คือ ยังคิดว่า “จิตเป็นของเรา” พิจารณาต่อไปว่า จิตก็เป็นของไม่เที่ยง มีผ่องใส มีสุข มีทุกข์ แม้จิตก็ไม่ใช่ตัวตนของเรา เปลี่ยนแปลงได้ เป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตน) เหมือนกัน อนิจจัง (ไม่เที่ยง) เหมือนกัน เป็นทุกข์เหมือนกัน ไม่ควรเห็นว่าเป็นจิตของเรา
เห็นบ่อยๆ จะปล่อยวางจิตได้ ทำซ้ำๆ ย้ำๆ ทำจนวิมุตติไม่ย้อนกลับ วางๆๆ จนเหลือแต่ “ความว่าง” คือ เย็น คือ นิพพาน ทำย้ำ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ละเอียดแล้วละเอียดอีก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
By ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana4.3
44 ratings
เจริญอานาปานสติ เพื่อให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความเป็นอนัตตา เป็นทางแห่งพระนิพพาน
เดิม...เพราะเรามีอวิชชาครอบอยู่ คือ ความไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าตัวเราเองเป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตน) คิดว่าตัวเราเป็นอัตตา (มีตัวตน) พอไม่รู้ ไม่เห็นตามความเป็นจริง จึงได้โอกาสนายช่างผู้สร้างเรือน คือ ตัณหา ความทะยานอยาก ในสิ่งที่เราพอใจ ไม่พอใจ เพลินไป จัดสร้างโครงเรือนขึ้นมา ประกอบเป็นตัวตนด้วย ราคา โทสะ โมหะ (กิเลส) จึงให้ เกิดความรู้สึกว่านี่เป็นตัวตน เป็นตัวฉัน เกิดภพ เกิดชาติ ไม่สิ้นสุด...
หากแต่พอเราให้กำลังกับ ปัญญา มรรค สมาธิ วิชชาด้วยการพิจารณาวิปัสสนา จะเกิดญาณปัญญา คือ เห็นตามความเป็นจริงว่า “สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” เห็นว่ากายเราเป็นเพียงธาตุสี่ เปลี่ยนแปลงตลอดด้วยเหตุ ปัจจัย ห็นเป็น “ทุกขลักษณะ” เห็นด้วยภาวนามยปัญญา จะเกิดความเบื่อหน่าย นิพพิทา จะคลายกำหนัด เห็นอยู่บ่อยๆ จะไม่ยึดถือ และวางกายนี้ได้ ว่าไม่ใช่ตัวตนของเรา
หากแต่ล็อกชั้นที่สอง คือ ยังคิดว่า “จิตเป็นของเรา” พิจารณาต่อไปว่า จิตก็เป็นของไม่เที่ยง มีผ่องใส มีสุข มีทุกข์ แม้จิตก็ไม่ใช่ตัวตนของเรา เปลี่ยนแปลงได้ เป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตน) เหมือนกัน อนิจจัง (ไม่เที่ยง) เหมือนกัน เป็นทุกข์เหมือนกัน ไม่ควรเห็นว่าเป็นจิตของเรา
เห็นบ่อยๆ จะปล่อยวางจิตได้ ทำซ้ำๆ ย้ำๆ ทำจนวิมุตติไม่ย้อนกลับ วางๆๆ จนเหลือแต่ “ความว่าง” คือ เย็น คือ นิพพาน ทำย้ำ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ละเอียดแล้วละเอียดอีก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

3 Listeners

2 Listeners

3 Listeners

3 Listeners

3 Listeners

2 Listeners

11 Listeners

1 Listeners

64 Listeners

2 Listeners

18 Listeners

35 Listeners

5 Listeners

3 Listeners

1 Listeners

1 Listeners

1 Listeners

0 Listeners

0 Listeners