🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Up” ต้าน 1350/1359 จุด รับ 1332/1330 จุด ดัชนี S&P500 ขึ้นทำ All time high แรงขับเคลื่อนจากกลุ่มเทคฯ นำโดย NVDIA(รับข่าว ASML จะส่งเครื่องผลิตชิปรุ่นใหม่ในปีนี้) ผสาน US Bond Yield 10 ปี คลายลงต่อเนื่อง -6 bps สู่ 4.328% จากภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณ “Soft Landing” ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (ADP) พ.ค. 24 ต่ำกว่าคาด อยู่ที่ 1.5 แสนตำแหน่ง ขณะที่ PMI ภาคบริการ (ISM) ขยายตัวสูงกว่าคาด วงจรดอกเบี้ยขาลงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โดยตลาดคาด FED จะลดดอกเบี้ย 2ครั้ง เริ่มครั้งแรก ก.ย. 2024 ขณะที่วานนี้ Canada เป็นชาติแรกใน G7 ที่นำลดดอกเบี้ย -25bps สู่ 4.75% และวันนี้ ECB คาดจะลด -25bps สะท้อนวงจรดอกเบี้ยขาลงเริ่มต้นขึ้น ส่วนภายใน วันนี้ติดตามเงินเฟ้อ CPI ตลาดคาด +1.2%y-y จะเป็นส่วนหนึ่งบ่งชี้ทิศทางผลประชุม กนง. ในระยะถัดไป แม้ Krungsri Research จะปรับมุมมองใหม่ว่าดอกเบี้ยไทยน่าจะตรึง แต่ KSS ยังให้โอกาสการลดดอกเบี้ยไทยภายปีนี้ 1 ครั้ง ส่วนประเด็นเด่นภายใน รัฐฯเตรียมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2024 หนุนการบริโภค มิ.ย.-ก.ค.คึกคักกว่าปีปกติ มองหุ้นนำ คือ กลุ่ม Peak Yield พีครอบนี้หนุน กลุ่มอิงยุโรป กลุ่มมัก Outperform ช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร (ค้าปลีก เครื่องดื่ม สื่อสาร โรงแรม) วันนี้แนะนำ KCE, HANA, OSP

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Rebound” ต้าน 1359/1364 จุด รับ 1343/1340 จุด ดัชนี S&P500 ฟื้นตัวอ่อนๆ +0.15% ตอบรับ US Bond Yield 10ปี ปรับลงอีก -8 bps สู่ 4.33% หลังดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงต่อเนื่อง ล่าสุดตำแหน่งงานเปิดใหม่ เม.ย. 24 ออกมา 8.05 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด และต่ำสุดในรอบ 3 ปี และตลาดยังจับตายอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรวันศุกร์นี้ หากยังใกล้เคียง 1.8-2.0 แสนตำแหน่ง ถือเป็นภาพสมดุล-ค่อยๆอ่อนลง ตลาดจะเชื่อมั่นต่อวงจรดอกเบี้ยขาลงในปีนี้ หนุนจากเงินเฟ้อที่อ่อนลง > เศรษฐกิจที่ทรุด โดยวันนี้ติดตามรายงานเบื้องต้น ADP (ระบบอัตโนมัติ) ตลาดประเมิน 1.75 แสนราย ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลาง-บวกอ่อนๆ ส่วนภายในยังถูกถ่วงจาก Overhang การเมือง แต่ระดับ SET ปัจจุบัน อิง EPS ตลาดกรณีเลวร้ายมองไม่ต่ำกว่าปี 2023 เต็มไปด้วยปัจจัยรุมเร้าที่ 78 บาท ซึ่งหากใช้ระดับดังกล่าว Equity Risk Premium จะสูง 3.05% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย จะช่วยจำกัด Downside ลุ้น SET รีบาวน์ หนุนจากกลุ่ม Yield ผ่าน Peak พีครอบนี้หนุน กลุ่มได้ประโยชน์น้ำมันลง และ Defensive วันนี้แนะนำ MINT, HANA, BDMS

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “เป็นจุดเริ่มฟื้นตัว” ต้าน 1359/1364 จุด รับ 1343/1340 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐและเอเชียฟื้นเด่น ช่วงไทยปิดทำการ แรงกดดัน US Bond Yield อายุ 10ปี ช่วงไทยปิดทำการคลายตัว ลงรวม -20 bps สู่ 4.4% หลังจากเงินเฟ้อ PCE เม.ย. 24 +0.3%m-m ทรงตัวจาก prev. ตามคาด และมีสัญญาณชี้นำโอกาสเงินเฟ้อค่อยๆลดลง ระยะถัดไป อาทิ ยอดจับจ่ายผู้บริโภค +0.2%m-m รวมถึง PMI ภาคผลิต (ISM) พ.ค. 24 ต่ำกว่าคาด อยู่ในระดับหดตัว 2 เดือนต่อกัน ขณะที่พัฒนาการฝั่ง Asia ในจีนยังเป็นบวก PMI ภาคผลิต Caixin เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 เดือนอยู่ที่ 51.7 จุดทำจุดสูงสุดในรอบราว 2 ปี มองหนุนจิตวิทยาบวกฝั่ง Asia โดยเฉพาะ SET ที่ผ่านการปรับฐานความกังวลหลากหลายไปแล้ว รวมถึงการ Rebalance ของ MSCI จนปัจจุบันอยู่ในโซนลงทุน ค่า Current และ Forward Equity Risk Premium (ERP) ล่าสุดอยู่ในกรอบ 3.4-4.0% (> Avg 3.06%) ประเมิน SET อยู่ในโซนฐานที่มีโอกาสเริ่มฟื้นตัว มองหุ้นนำ กลุ่ม Yield พีคในรอบนี้หนุน (ชิ้นส่วน,เช่าซื้อ,โรงไฟฟ้า) กลุ่มได้ประโยชน์ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง กลุ่มอิงจีน วันนี้แนะ MTC, BTS (Bottom Out Plays) , BJC

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways” ต้าน 1359/1363 จุด รับ 1343/1340 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานต่อ แรงกดจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Salesforce ที่ดิ่งแรง -19.7% หลังให้ Outlook ชะลอลง สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐ สอดคล้องรายงาน GDP 1Q24 (ครั้งที่2) ที่ +1.3%q-q ต่ำคาด vs prev. +3.4%q-q ผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรก +2.2%w-w เป็นภาพ > Avg. 4 weeks ต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ ถ่วง US Bond Yield 10ปี อ่อนลง -7 bps สู่ 4.54% ส่วนวันนี้ติดตามรายงานเงินเฟ้อ PCE หากไม่เกิน +0.3%m-m เรามองสินทรัพย์เสี่ยงจะเป็นบวก โดยเฉพาะ Asia หาก PMI จีน ทีมีโอกาสขยายตัวได้ จากผลบวกมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง ส่วนภายในมีภาพบวกเศรษฐกิจ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เม.ย. 24 กลับขยายตัว y-y ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน เชื่อว่าจะช่วย SET เริ่มรีบาวน์ แม้วันนี้อาจผันผวนท้ายตลาดจาก MSCI Rebalance ลดน้ำหนัก Net Outflow ราว -200ล้านเหรียญฯ แต่กลยุทธ์อยู่ฝั่งซื้อ SET อยู่ Value Zone ERP +3.45% ถึง +3.95% เน้นตั้งรับกล่ม Yield พีครอบนี้หนุน (โรงไฟฟ้า) การขยายตัวภาคผลิตเด่น อาหาร เครื่องดื่ม ปิโตรเคมี แพ็คเกจจิ้ง วันนี้แนะ SCGP, IVL, OSP

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways/Down” ต้าน 1360/1364 จุด รับ 1343/1340 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกลงต่อเป็นวันที่ 2 กดดันจาก US Bond Yield เร่งขึ้นอีก +7 bps ปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 4.62% ตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดที่แข็งแกร่ง ซึ่งอีกด้านทำให้ความสนใจต่อการประมูลพันธบัตรลดลง โดยช่วงที่เหลือสัปดาห์ตลาดจะจับตา ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (วันนี้) และเงินเฟ้อ PCE เม.ย. 24 (พรุ่งนี้) โดยการทยอยปรับมุมมองระมัดระวังก่อนรายงาน เชื่อว่ารายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีภาพสลับอ่อนตัวบ้างระยะหลัง หากสูงกว่าคาดไปมาก (ยอดผู้รับสวัสดิการ >2 แสนตำแหน่ง, PCE ไม่เกิน +0.4%m-m) คาดสินทรัพย์เสี่ยงจะเริ่มตั้งฐานใหม่ ส่วนภายใน เสถียรภาพการเมืองยังกดดันหุ้นกลุ่ม Domestic ทำให้ SET ระยะสั้นยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีหุ้นประคองเป็นหุ้นเก็งกำไรตามประเด็นเฉพาะกลุ่ม/เฉพาะตัว คือ กลุ่มอิงจีน (IMF ปรับเพิ่ม GDP ปี 2024 สู่ 5% จากเดิม 4.6%) กลุ่มเงินบาทอ่อนค่าหนุน กลุ่มธนาคาร ประกัน (รับภาพ Yield เร่ง) สื่อสาร (การประมูลคลื่นปี 2025 เปิดทางผู้ประกอบการมีโอกาสประมูลคลื่นเดิมกลับมาถูกลง) วันนี้แนะนำ CBG, GFPT, NER

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways” ต้าน 1369/1373 จุด รับ 1355/1350 จุด วานนี้ตลาดหุ้น Dow Jones ลง -0.55% โดยมีเพียงกลุ่มเทคโนโลยี ในส่วน NVIDIA ที่ยังมีโมเมนตัมบวกหลังรายงานงบ รวมถึงกลุ่มพลังงาน เก็งภาพ Demand การเข้าสู่ช่วง Driving Season ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และเก็งก่อนประชุม OPEC+ เป็นกลุ่มนำตลาด ส่วนกลุ่มอื่นๆเผชิญแรงกดดัน US Bond Yield อายุ 10ปี ที่ +8 bps มายืนเหนือ 4.5% อีกครั้ง หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI สำรวจโดย Conf Board) ดีกว่าคาด ปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน สู่ 102จุด สะท้อนเศรษฐกิจฯสหรัฐแข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดที่มองวงจรดอกเบี้ยสหรัฐระมัดระวังถึงโอกาส Fed ลดดอกเบี้ยน้อยลง เป็นจิตวิทยาลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ตาม SET น่าจะมีแรงพยุงจากหุ้นฝั่งพลังงานต้นน้ำ (10.5% ของมูลค่าตลาด SET) ราคาน้ำมันหนุน ผสานกลุ่มธนาคาร(Global Yield & Local Yield ปรับขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่ม) กลุ่มอิงภาคบริการ ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. และ ค้าปลีก(เด่น หลังรัฐออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหญ่ เพิ่มประเทศที่ให้ฟรี วีซ่า เป็น 96 ประเทศ จาก 57 ประเทศ) วันนี้แนะนำ AOT, MINT, STA

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways/Up” ต้าน 1370/1374 จุด รับ 1360/1355 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปิดทำการ แต่มีจิตวิทยาบวกจากฝั่งยุโรป หลังเจ้าหน้าที่ ECB หลายราย ให้โอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ในเดือน มิ.ย. นี้ และจะเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรดอกเบี้ยขาลงของกลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจโลก ส่วนจีนรายงานตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมจีน เม.ย. 24 ขยายตัว 4%y-y เป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ และสินทรัพย์เสี่ยง ในเอเชีย ผสานราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการ ก่อนการประชุม OPEC+ (1 มิ.ย.) ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brents ยังอยู่ในบริเวณ 82 +/- เหรียญ (ดูไบ อยู่ราว 83+/- เหรียญ YTD เท่ากับ 83.6 เหรียญ > สมมติฐาน KSS ที่ 80 เหรียญ) ยังเอื้อต่อกำไรตลาด SET ผสาน ภาพรวมเศรษฐกิจที่มีพัฒนาการเป็นลำดับ ส่วนที่เข้ามาเพิ่มเติมวานนี้ คือ รายงานผู้ใช้บริการสนามบิน AOT ไป ตปท. 1-25 พ.ค. (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ) ยังยืนสูงเหนือ 90% ของ Pre-COVID มอง SET วันนี้เป็นภาพ Sideways/Up โดยมีหุ้นนำ คือ กลุ่มอิงจีน (ชิ้นส่วน ปิโตรเคมี แพ็คเกจจิ้ง) อิงยุโรป กลุ่มพลังงานต้นน้ำ วันนี้แนะนำ AP, HANA, SCGP

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways” ต้าน 1370/1374 จุด รับ 1355/1350 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นได้เล็กน้อย นำโดยหุ้นกลุ่มเทคฯ US Bond Yield 10ปี แกว่งตัวบริเวณ 4.46% หลังจากรายงานความคาดหวังเงินเฟ้อ 1ปีข้างหน้า (U of Michigan) พ.ค. 24 ลดลงเหลือ 3.3% จาก prev. 3.5% ขณะที่รายงานอีกส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคแม้เป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่ดีขึ้นจากรอบก่อนเล็กน้อยมาอยู่ที่ 69.1 จุด ยังพอหนุนความหวังการลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดมอง 1-2 ครั้ง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯประคองตัวได้ ช่วยให้เราคาน้ำมันที่ปรับฐานทั้งสัปดาห์ก่อนฟื้นตัว ขณะที่ระยะถัดไปยังมีแรงหนุนภาพเก็งก่อนประชุม OPEC+ 1 มิ.ย. และการเข้าสู่ Driving Season ส่วนภายในคาดกลุ่ม Domestic ยังรอเรื่อง Overhang การเมืองกรณีคุณสมบัติคุณเศรษฐา แต่ส่วนใหญ่ตอบรับไปแล้ว สัปดาห์ก่อน หุ้นอิงกำลังซื้อภายในหลักๆ ค้าปลีก -1.33%, สื่อสาร -1.28% vs SET -0.1% คาดเริ่มนิ่งรอพัฒนาการใหม่ แต่หุ้นกลุ่มหลักที่มีภาพบวกจากปัจจัยต่างประเทศ อาทิ กลุ่มค่าเงินบาทอ่อนค่า, กลุ่มชิ้นส่วนฯ, กลุ่มพลังงานต้นน้ำ, หุ้นนิคม จะช่วย SET แกว่งในกรอบได้ วันนี้แนะนำ GFPT, KCE, TU

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways/Down” ต้าน 1374/1377 จุด รับ 1361/1355 จุด ดัชนี Dow Jones ดิ่งแรง -1.53% หลังรายงานเศรษฐกิจ พบว่า Flash PMI พ.ค. 24 ดีกว่าคาด ภาคผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 50.9 จุด vs prev. 50 จุด ภาคบริการ ขยับขึ้นสู่ 54.8 จุด vs prev. ที่ 51.3 จุด เศรษฐกิจที่ขยายตัวดีกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมากังวลต่อเงินเฟ้อที่อาจใช้เวลานานขึ้น กว่าจะลงสู่เป้าหมาย Fed ที่ 2% กดดันตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยขาลงของ FED ลดลงเหลือ 1-2รอบ US Bond Yield 10 ปี ขึ้น +4bps มาอยู่ที่ 4.47% และ Dollar Index แข็งค่า กอปรกับ สถานการณ์การเมืองภายใน มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น หลังศาลรับฟ้องพิจารณาคุณสมบัตินายกคุณเศรษฐา แต่ยังไม่สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ถ่วงเงินบาทอ่อนค่าสู่ 35.6 +/- บาท ถ่วง SET วันนี้ปรับฐาน แต่ผลตอบแทน YTD -3.39% Underperform Global Equity น่าจะช่วยลดระดับความผันผวน กลุ่มประคองตลาด คือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มอิงภาคผลิตโลกฟื้นตัว อาทิ กลุ่มส่งออกเกษตร, อาหาร, เครื่องดื่ม(เงินบาทอ่อน+ยอดส่งออก เม.ย. พลิก +6.8%y-y) กลุ่มอิงค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์เร่ง +16%w-w วันนี้แนะนำ BBL, CBG, OSP

🌅KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ “Sideways” ต้าน 1376/1380 จุด รับ 1365/1361 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัว 2 วันที่ผ่านมา ตาม US Bond Yield อายุ 10 ปี แกว่ง 4.4-4.46% รายงาน Fed Minute ไม่มีแรงกดดันใหม่ รวมๆ ยังกังวลต่อทิศทางเงินเฟ้อ แต่เริ่มให้ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอลง ผสานคลังน้ำมันดิบสัปดาห์ล่าสุดสูงกว่าคาด (สูงกว่าคาด 6 จาก 8 สัปดาห์ล่าสุด) ถ่วงราคาน้ำมันดิบลงต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันเฉลี่ย พ.ค. 24 (MTD) -5.4%m-m น่าจะทำให้ตลาดคาดหวังเงินเฟ้อระยะถัดไป มีทิศทางชะลอลง ส่วนปัจจัยลบ ล่าสุด มีการออกมาตรการกีดกันการค้ายุโรปต่อสินค้า EV จีน และการตอบโต้จีนต่อยุโรป ปัจจัยดังกล่าว เป็นจิตวิทยาลบต่อกลุ่มพลังงานและชิ้นส่วนฯ ในระยะสั้น ขณะที่วันนี้ภายในการเมืองถ่วงตลาด รอศาลพิจารณาคุณสมบัติคุณเศรษฐา แต่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจไทยยังบ่งชี้ภาพฟื้นตัวหนุน อาทิ นักท่องเที่ยวต่างชาติ พ.ค. 24 สูง 95% ของ Pre Covid vs 4M24 ที่ 86.6% การบริโภค Farm Income บวก y-y สูงสุดในรอบ 2 เดือน มองกลุ่มประคองดัชนี 1) อิงกำลังซื้อภายใน 2) ได้ประโยชน์น้ำมันปรับลง และ 3) กลุ่มนิคม วันนี้แนะนำ BBL, CPALL, MINT