ฟังตอนนี้แล้วต้องตอบได้ว่าความคิดนึกที่เกิดขึ้นในช่องทางคือใจ นี่มันไม่ใช่ของฉัน คือมันเป็นสัญญา เป็นความหมายรู้ที่เกิดขึ้นภายนอก ความคิดไม่ดีนี้เป็นกามสัญญา เป็นพยาบาทสัญญา ไม่ใช่เป็นการปรุงแต่งที่เกิดขึ้นจากในจิตของเรา ไม่ใช่จิตตสังขาร แต่เป็นแค่ธรรมารมณ์ ต่างก็เกิดขึ้นในช่องทางคือใจ ถ้าเข้าใจว่ามันเป็นสัญญา ตรงนี้แหละเราจะหยุดมันได้
Time Index
[01.17] เข้าใจธรรมด้วยการปฏิบัติ เริ่มด้วยการตั้งสติ สติปัฏฐาน4
[13.36] อนุสติ10
[17.50] เริ่มเรื่องความคิดนึก
[20.34] จัดหมวดหมู่ออกเป็น 2 ส่วน คือ กุศลธรรมส่วนนึงมี 3 ข้อ อกุศลธรรมก็อีกส่วนนึงมี 3 ข้อ เช่นกัน
[25.55] แบ่งออกโดยลักษณะของ 2 ส่วน จัดเป็นหมวดหมู่ตามเรื่องของกาม พยาบาท เบียดเบียน
[30.03] ทำไมมีความคิดดีหรือไม่ดีเกิดขึ้น
[34.04] ทั้งฝ่ายกุศลหรืออกุศลล้วนมีธาตุของมัน เพราะมีธาตุจึงมีความหมายรู้คือสัญญา หมายรู้ว่ามีอยู่ในโลก หมายรู้ไม่ใช่เป็นการปรุงแต่ง ไม่ใช่กรรมของเรา สิ่งที่รับรู้นั้นคือธรรมารมณ์ ไม่ใช่จิตตสังขาร
[39.18] จากสัญญาอาจเปลี่ยนเป็นสังกัปปะ เพราะอาศัยกามสัญญาจึงเกิดมีกามสังกัปปะ จากสังกัปปะก็จะมีฉันทะ กามฉันทะเป็นความเร่าร้อน แล้วจึงเกิดการแสวงหากาม/พยาบาท/เบียดเบียน แสวงหาด้วยกาย วาจา ใจ
[43.59] การแสวงหาเริ่มจากในใจก่อนแล้วมาทางวาจา กาย คืบคลานเนียน ๆ ไล่จากกามธาตุ มาเป็นกามสัญญา กามสังกัปปะ ฉันทะ แสวงหา (พยาบาทและเบียดเบียนก็เช่นกัน)
[48.05] รู้เขารู้เรา พอเข้าใจในเรื่องโครงสร้างฝ่ายไม่ดีแล้วจะแก้ไขได้ ถ้ารู้ว่าเป็นแค่สัญญา เราจะหยุดมันได้ เพราะตริตรึกไปทางไหน จะทำให้สิ่งนั้นมีพลัง เราจะให้กำลังแก่ฝ่ายไหน
[58.21 ธรรมารมณ์กับสังขารแยกกันได้ ไม่ใช่ตัวเดียวกัน
#2m0742-2-190423
Support the show: https://donhaisok.fm/podcast
See omnystudio.com/listener for privacy information.