"(ปุจฉา: พยายามศึกษาสิ่งเป็นประโยชน์ คาดหวังให้ตนทำได้โดยสมบูรณ์..เมื่อทำไม่ได้เกิดทุกข์ โทษตนเอง ?
..หนึ่งก็ เรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าเราถ้าเราตั้งความหวังไว้ให้กับตัวเองเนี่ยว่าทำให้ได้สมบูรณ์ทุกครั้ง แต่เมื่อไม่ได้มันก็เกิดทุกข์ ก็เรียนรู้จากทุกข์ที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดจากการที่เราเข้าไปยึดนั่นเอง แม้กระทั่งตั้งใจทำให้ดีแล้วมันก็ไปยึดสำคัญมั่นหมายมันก็ทุกข์ ก็ปรับความเห็นความเข้าใจเสียใหม่ ให้สอดรับไปกับความเป็นธรรมชาติ คือ ความเป็นเหตุเป็นปัจจัย นั่นเอง ทุกอย่างก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลลัพธ์จากเหตุ สิ่งที่เราทำได้คือการสร้างเหตุปัจจัยนั่นเอง ซึ่งเหตุปัจจัยมันก็ไม่ได้มีตัวเดียวมันมีเหตุปัจจัยอื่นเข้ามาประกอบหลายอย่างด้วย
เราก็เรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เออ..เมื่อสร้างเหตุนี้ผลเกิดขึ้นเป็นอย่างไร สร้างเหตุนี้มีผลเกิดขึ้นเป็นอย่างไร แล้วก็ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ลดการคาดหวังลง แล้วก็สร้างเหตุไป แล้วก็เรียนรู้ผลที่เกิดขึ้น เมื่อเราปรับใจแบบนี้ ลดการคาดหวัง ลดการเข้าไปยึด เวลาผลมันเกิดขึ้นมันก็ไม่ทุกข์แล้วมันก็เกิดการเรียนรู้เกิดปัญญา อ๋อ..สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ตามเหตุปัจจัยมันมีเหตุแบบนี้ผลก็เกิดขึ้นแบบนี้ พอปรับเหตุแบบนี้ผลก็เกิดขึ้นอย่างนี้ แม้บางครั้งเราสร้างเหตุเหมือนกันแต่ผลไม่เหมือนกันมีไหม มีเพราะว่ามันมีปัจจัยอื่นประกอบอีกหลายอย่าง เนี่ย ก็เรียนรู้ แค่นี้มันก็เปลี่ยนจากการที่เราใช้อายตนะในการเสพ ในการทำที่ต่างๆก็เป็นอายตนะนการศึกษา ที่ว่าชอบศึกษา นี้ก็คือการศึกษาอย่างหนึ่งแล้ว ศึกษาเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นและเรียนรู้กับมัน ทีนี้พอมันเกิดเหมือนนักวิทยาศาสตร์ทดลองทดสอบเรียนรู้ดูแล้วก็สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อเราไม่ไปคาดหวัง..ไม่ไปยึดมัน..มันก็ไม่ทุกข์ ตรงกันข้ามเกิดความรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ด้วย อ๋อ เหตุเปลี่ยน ผลก็เปลี่ยน บางครั้งทำเหตุเหมือนกันแต่ผลไม่เหมือนกันเนาะ เพราะว่ามันมีปัจจัยอื่นแวดล้อมอีก ก็เรียนรู้เรื่องเหตุปัจจัยเกิดการแยกแยะก็เกิดปัญญาเกิดความเข้าใจ
..อีกด้านหนึ่งก็ มองเรื่องของสามัญลักษณะคือ ทุกอย่างก็เป็นไตรลักษณ์ทั้งหมด อะไรมันเกิดขึ้นน่ะมันก็ไม่เที่ยงทั้งนั้นแหละ มันเกิดขึ้นมันก็ตั้งอยู่แล้วมันก็ดับไป
ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะเป็นดั่งใจไม่ดั่งใจมันก็ไม่เที่ยงทั้งนั้น
ความสำเร็จก็ดี ความไม่สำเร็จก็ดี ความผิดพลาดก็ดี ความล้มเหลวก็ดี มันก็ไม่เที่ยงทั้งหมดเลย เหตุมันก็ไม่เที่ยง ผลมันก็ไม่เที่ยงมัน เกิดแล้วมันก็เสื่อมมัน เกิดแล้วมันก็สลายไป ทุกสิ่งมันไม่เที่ยง มันก็เป็นทุกข์ทนอยู่ไม่ได้มันต้องสลายไป แล้วมันก็เป็นอนัตตาบังคับบัญชาอะไรไม่ได้ เมื่อมองอย่างนี้มันจะเริ่ม #ปลูกปัญญา #ปลูกสัมมาทิฏฐิขึ้นมาในจิตใจ นั่นเอง แล้วมันจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางสิ่งต่างๆ การปล่อยวางก็ไม่ใช่การปล่อยปละละเลย ก็สร้างเหตุเพียงสร้างเหตุที่ถูกต้องส่วนผลก็เรียนรู้ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ใจเราไม่ไปทุกข์มันคลายออก แต่ในขณะเดียวกันก็มีหน้าที่อะไรเราก็ทำเพียรสร้างเหตุปัจจัยเพาะบ่มฝึกฝนตนเองไป.."
…………………………
ถ่ายทอดธรรมโดย
พระอาจารย์มหาวรพรต กิตฺติวโร
ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี (ศูนย์ 4) จ.พระนครศรีอยุธยา
บ่าย 19 พฤศจิกายน 2566
#ชอบโทษตัวเอง #ความคาดหวัง #ทุกข์ #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต
ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree