7 ก.ค. 68 - ดูแลใจอย่าให้ตัวกูครอบงำ : คนเรานี้ทำได้เพื่อชื่อเสียงเพื่อความดัง ทีแรกไปคิดว่าความดันเป็นของกู ชื่อเสียงเป็นของกู ใครมาทำให้ชื่อเสียงด่างพลอยไม่ได้ ใครมาวิจารณ์กูไม่ได้ ต้องโกรธ แต่ตอนหลังเรากลายเป็นของมัน ยอมตายเพื่อมันได้ ถ้าไม่ตายเพื่อมัน ก็ฆ่าคนอื่นตายเพื่อมัน ทำเพื่อให้ได้เป็นซัมบอดี้
นี่ก็เป็นตัวอย่างที่สุดโต่ง แต่ว่าคนทั่วไปถ้าไม่ระวัง มันก็จะเป็นทุกข์ได้ถ้ายอมให้ตัวกูนี้มันครองใจหรือมันผยอง เถลิงอำนาจในใจเรา จะหมดทุกข์ได้ก็ต่อเมื่อรื้อบ้านทั้งหลัง ถอนความยึดมั่นในตัวกู อย่างที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสเป็นปฐมภาษิต ไม่มีตัวกูเกิดมาก่อกวนจิตใจ แต่ถ้ายังทำไม่ได้อย่างน้อยก็รู้ทันมัน ไม่ปล่อยให้มันครองใจ
ยังรื้อบ้านไม่ได้อย่างน้อยก็พยายามมุ่งบังให้บ้านแน่นหนา ก็หมายความว่ารักษาใจให้หนักแน่น มีสติมีปัญญาเป็นเครื่องรักษาใจไม่ให้กิเลสหรือความยึด มั่นสำคัญหมายว่าตัวกูนี้มาครอบงำใจ ยังมีอยู่แต่ว่ามันไม่สามารถจะครอบงำใจได้ ก็ช่วยทำให้ทุกข์น้อยลง เวลาใครมาต่อว่าด่าทอก็ไม่คับแค้นเสียใจมาก เวลาสูญเสียเงินทองไป ก็ไม่กลัดกลุ้มกังวล เพราะไม่ได้สำคัญมั่นหมายว่าเป็นของกู ปล่อยวางมันได้
อันนี้เพราะมีสติ แล้วก็เพราะมีปัญญา ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเอง มันต้องฝึก ต้องสร้างขึ้นมา ให้เราตระหนักเอาไว้ว่า ตราบใดที่เรายังไม่มีปัญญารื้อบ้านทั้งหลังออกมาได้ อย่างน้อยก็มุงบังบ้านให้มันดี ก็คือ ทำรักษาจิตให้มั่นคงหนักแน่นเอาไว้ ไม่ให้กิเลสอวิชชาเข้ามาครอบงำ หรือถึงครอบงำก็รู้ทัน แล้วก็ปล่อยวางหรือว่ายกจิตออกมาจากอำนาจของมันได้