"(ปุจฉา: อยู่ในองค์กรที่ทุกคนต่อสู้ปกป้องตัวเอง พยายามทำความเข้าใจให้อภัย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนเหล่านั้นหยุดการกระทำที่จะทำร้ายเราได้ ?
.. - เราไม่สามารถหยุดผู้อื่นได้แต่เราหยุดใจตัวเองได้ -
เราหยุดความทุกข์ความคับแค้นในใจความโกรธความเกลียดชังความอาฆาตพยาบาทในจิตใจเราได้ เราสามารถหยุดความเจ็บปวดในใจเราได้
เพราะฉะนั้น การที่เรามองผู้อื่นด้วยความรัก ด้วยความเข้าใจ ด้วยการให้อภัย มันคือการให้คุณค่าสำหรับใจเราต่างหาก
ส่วนผู้อื่นเขาจะได้เรียนรู้กับสิ่งเหล่านี้ไหมมันก็แล้วแต่เหตุปัจจัยของเขา
แต่สิ่งที่เราได้แน่นอนคือความทุกข์ความเจ็บปวดในชีวิตเรามันจะหายไป
ตรงกันข้ามถ้าเรามองผู้อื่นด้วยความเกลียดชัง ด้วยความอาฆาตพยาบาท ด้วยความแก่งแย่งชิงดี ด้วยความเบียดเบียน คนที่เจ็บปวดคือใคร..ตัวเรา จิตใจร้อนรุ่มเป็นฟืนเป็นไฟ เผาไหม้ทั้งกลางวันและกลางคืน
เรื่องของเมตตาผู้อื่น มองผู้อื่นด้วยเมตตาแต่ผู้ที่มีความสุขก็ตัวเราเองนั่นแหละ
ทุกครั้งที่เรามองในโลกในแง่ดี มองผู้อื่นในแง่ดี สังเกตใจ ใจเราจะมีความสุข ความดีจะประทับอยู่ในใจเรา แต่ทุกครั้งที่เรามองผู้อื่นด้วยสายตาที่ไม่ดี ด้วยความโหดร้าย ด้วยการเบียดเบียน ด้วยความมุ่งร้ายความร้ายกาจทั้งหลายก็จะประทับในใจของเรา คนที่เร่าร้อนคือใครล่ะ ..ก็ตัวเราเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ผลจากการทำความดี คิดดี พูดดี ทำดี ผู้ที่ได้ประโยชน์เเรกๆก็คือตัวเรา ใจเราก็มีความสุข ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ คนอื่นเขาก็รู้สึกอบอุ่นใจไปด้วย มันจะมีแต่สิ่งดีๆที่ตามมา.."
…………………………
ถ่ายทอดธรรมโดย
พระอาจารย์มหาวรพรต กิตฺติวโร
ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
บ่าย 20 พฤจิกายน 2566
#พลิกจิต #มองด้วยความเมตตา #คิดดีพูดดีทำดี #ปุจฉา #ถามตอบ #ธรรมอารี #พระมหาวรพรต