
Sign up to save your podcasts
Or
Q1: ชาวพุทธสายมู
A: คนมีที่พึ่งดีกว่าคนไม่มีที่พึ่ง เพราะคนมีที่พึ่ง ยังมีความละอายใจกับการทำไม่ดีต่อสิ่งที่นับถือ แต่คนไม่มีที่พึ่งจะทำไม่ดีได้โดยไม่ละอายใจต่อสิ่งใด
- คนมีที่พึ่งไม่ถูกต้อง = ขอให้พ้นทุกข์ด้วยการอ้อนวอนขอร้องต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่การอ้อนวอนขอร้องไม่ใช่วิธีที่ทำให้พ้นทุกข์ได้ เพราะถ้าใช่ โลกนี้จะไม่มีใครเสื่อมจากอะไร ไม่มีคนเจ็บป่วย ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
- คนมีที่พึ่งถูกต้อง = คือ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง แล้วรู้ธรรมะ เห็นธรรมะ ใช้ธรรมะเป็นที่พึ่ง คือ การใช้ตนเป็นที่พึ่ง ทุกข์หนักอยู่ที่ใจ ถ้าจิตใจตั้งไว้ถูกต้อง ก็จะปล่อยวางทุกข์ได้ จิตใจจะเบาลงได้ โดยไม่ต้องอ้อนวอนขอร้องต่อสิ่งใด
- อิทธิปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนามีมาก หลายชั้น แต่ไม่ใช่เรื่องการอ้อนวอนขอร้อง ไม่ได้มีสิ่งใดบันดาล แต่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจที่เกิดจากอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
- มรรค 8 (ศีล สมาธิ ปัญญา) ที่เกิดจากการมีศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดในชีวิตได้ ทำกรรมดีก็จะได้ผลดี กรรมนั่นแหละ คือ ปาฏิหาริย์ของการกระทำที่จะให้ผลเกิดขึ้นกับตัวเรา หากเข้าใจได้เช่นนี้ นั่นคือ ปัญญา อภินิหารต่าง ๆ จึงจัดอยู่ในส่วนของปัญญา
Q2: ทำบุญใส่ซองให้พระ/ใส่ในบาตร/ตู้บริจาค
A: พุทธพจน์ = เงินและทองไม่ควรแก่สมณะ เงินและทองควรแก่ฆราวาสเท่านั้น สมณะไม่ควรยินดีในการรับเงินและทอง แต่สามารถรับปัจจัยสี่ที่ควรแก่สมณะจะบริโภคที่เกิดจากเงินและทองนั้นได้ โดยให้มี “ไวยาวัจกร” ผู้ที่ทำการแทนสงฆ์
- ไวยาวัจกร ต้องเป็นอุบาสก หรือคนทำการในอารามนั้นที่ไม่ใช่ผู้หญิง
- เมื่อพระต้องใช้ปัจจัยสี่ที่ควรแก่สมณะจะบริโภคสิ่งใด ก็จะไปบอกไวยาวัจกรให้ช่วยจัดหาให้ ไวยาวัจกรก็จะนำเงินที่โยมทำบุญไปจัดหามาให้พระ
- การให้ทาน ต้องหวังเอาบุญ จึงต้องทำต่อเนื้อนาบุญ (ผู้ที่มีราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง)
Q3: Internet ประตูสู่ความเสื่อมของพุทธศาสนา
A: พระพุทธศาสนาเคยเสื่อมจากประเทศอินเดียที่เป็นต้นกำเนิดของศาสนา ทั้งที่สมัยนั้นยังไม่มี Internet แต่เพราะมีมิจฉาทิฏฐิ ทำให้ความเข้าใจที่ถูกต้องค่อย ๆ หายไป
- เหตุแห่งความเสื่อมของพุทธศาสนา คือ พระเถระไม่ใส่ใจในการปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่ทรงจำคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้องดีงาม ไม่ได้บอกสอนต่อกันไป สนใจแต่เรื่องชื่อเสียง ลาภสักการะ
- เทคโนโลยี เป็นผัสสะรูปแบบหนึ่ง มีการสื่อสารข้อมูล ผัสสะจะเป็นตัวกระตุ้นกิเลส จึงต้องสำรวมอินทรีย์ ตั้งสติไว้ให้ดี
- Internet เป็นเครืองมือในการเผยแพร่คำสอนได้
Q4: พระเล่น Internet
A: ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่การละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อกุศลธรรม (กระตุ้นราคะ โทสะ โมหะ) ก็ทำได้ ไม่ผิดศีล ไม่อาบัติ
- การผ่อนคลายสำหรับพระสงฆ์ คือ การนั่งสมาธิ ไม่ใช่การดูซีรีส์
Q5: ภาระของพระสงฆ์
A: ภาระ = ของหนัก
- เมื่อบวชเป็นพระ ก็ต้องรับภาระในการทรงจำคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ
- สมบัติ/ประโยชน์ที่จะได้รับในพุทธศาสนาก็มีมากเช่นกัน เป็นเรื่องเบาใจ เช่น มีความปล่อยวาง มีจิตสงบ มีปัญญา มีสมาธิ
- ต้องมีความคิดแบบม้าอาชาไนย ต่อให้ใครไม่ทำ เราก็จะทำ
- เมื่อรับภาระแล้ว ให้มุ่งที่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ก็จะมีกำลังใจในการปฏิบัติ
Q6: ความผิดพลาดในชีวิต
A: ถ้ามองแต่จุดที่ผิดพลาด ก็จะโฟกัสที่จุดนั้น สิ่งนั้นก็จะมีพลัง ทำให้กิเลสเพิ่มขึ้น (ราคะ โทสะ โมหะ เพิ่มขึ้น)
- แต่ถ้ามองข้อผิดพลาดนั้นว่า เป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง พัฒนาข้อผิดพลาดให้ดีขึ้น = เป็นสัมมาทิฏฐิ (ราคา โทสะ โมหะ เบาบางลง) เกิดสัมมาวายามะ (ความเพียร) เกิดความแน่วแน่จริง การลงมือทำจริง ข้อผิดพลาดนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้ดีขึ้นได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
5
22 ratings
Q1: ชาวพุทธสายมู
A: คนมีที่พึ่งดีกว่าคนไม่มีที่พึ่ง เพราะคนมีที่พึ่ง ยังมีความละอายใจกับการทำไม่ดีต่อสิ่งที่นับถือ แต่คนไม่มีที่พึ่งจะทำไม่ดีได้โดยไม่ละอายใจต่อสิ่งใด
- คนมีที่พึ่งไม่ถูกต้อง = ขอให้พ้นทุกข์ด้วยการอ้อนวอนขอร้องต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่การอ้อนวอนขอร้องไม่ใช่วิธีที่ทำให้พ้นทุกข์ได้ เพราะถ้าใช่ โลกนี้จะไม่มีใครเสื่อมจากอะไร ไม่มีคนเจ็บป่วย ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
- คนมีที่พึ่งถูกต้อง = คือ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง แล้วรู้ธรรมะ เห็นธรรมะ ใช้ธรรมะเป็นที่พึ่ง คือ การใช้ตนเป็นที่พึ่ง ทุกข์หนักอยู่ที่ใจ ถ้าจิตใจตั้งไว้ถูกต้อง ก็จะปล่อยวางทุกข์ได้ จิตใจจะเบาลงได้ โดยไม่ต้องอ้อนวอนขอร้องต่อสิ่งใด
- อิทธิปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนามีมาก หลายชั้น แต่ไม่ใช่เรื่องการอ้อนวอนขอร้อง ไม่ได้มีสิ่งใดบันดาล แต่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจที่เกิดจากอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
- มรรค 8 (ศีล สมาธิ ปัญญา) ที่เกิดจากการมีศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดในชีวิตได้ ทำกรรมดีก็จะได้ผลดี กรรมนั่นแหละ คือ ปาฏิหาริย์ของการกระทำที่จะให้ผลเกิดขึ้นกับตัวเรา หากเข้าใจได้เช่นนี้ นั่นคือ ปัญญา อภินิหารต่าง ๆ จึงจัดอยู่ในส่วนของปัญญา
Q2: ทำบุญใส่ซองให้พระ/ใส่ในบาตร/ตู้บริจาค
A: พุทธพจน์ = เงินและทองไม่ควรแก่สมณะ เงินและทองควรแก่ฆราวาสเท่านั้น สมณะไม่ควรยินดีในการรับเงินและทอง แต่สามารถรับปัจจัยสี่ที่ควรแก่สมณะจะบริโภคที่เกิดจากเงินและทองนั้นได้ โดยให้มี “ไวยาวัจกร” ผู้ที่ทำการแทนสงฆ์
- ไวยาวัจกร ต้องเป็นอุบาสก หรือคนทำการในอารามนั้นที่ไม่ใช่ผู้หญิง
- เมื่อพระต้องใช้ปัจจัยสี่ที่ควรแก่สมณะจะบริโภคสิ่งใด ก็จะไปบอกไวยาวัจกรให้ช่วยจัดหาให้ ไวยาวัจกรก็จะนำเงินที่โยมทำบุญไปจัดหามาให้พระ
- การให้ทาน ต้องหวังเอาบุญ จึงต้องทำต่อเนื้อนาบุญ (ผู้ที่มีราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง)
Q3: Internet ประตูสู่ความเสื่อมของพุทธศาสนา
A: พระพุทธศาสนาเคยเสื่อมจากประเทศอินเดียที่เป็นต้นกำเนิดของศาสนา ทั้งที่สมัยนั้นยังไม่มี Internet แต่เพราะมีมิจฉาทิฏฐิ ทำให้ความเข้าใจที่ถูกต้องค่อย ๆ หายไป
- เหตุแห่งความเสื่อมของพุทธศาสนา คือ พระเถระไม่ใส่ใจในการปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่ทรงจำคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้องดีงาม ไม่ได้บอกสอนต่อกันไป สนใจแต่เรื่องชื่อเสียง ลาภสักการะ
- เทคโนโลยี เป็นผัสสะรูปแบบหนึ่ง มีการสื่อสารข้อมูล ผัสสะจะเป็นตัวกระตุ้นกิเลส จึงต้องสำรวมอินทรีย์ ตั้งสติไว้ให้ดี
- Internet เป็นเครืองมือในการเผยแพร่คำสอนได้
Q4: พระเล่น Internet
A: ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่การละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อกุศลธรรม (กระตุ้นราคะ โทสะ โมหะ) ก็ทำได้ ไม่ผิดศีล ไม่อาบัติ
- การผ่อนคลายสำหรับพระสงฆ์ คือ การนั่งสมาธิ ไม่ใช่การดูซีรีส์
Q5: ภาระของพระสงฆ์
A: ภาระ = ของหนัก
- เมื่อบวชเป็นพระ ก็ต้องรับภาระในการทรงจำคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ
- สมบัติ/ประโยชน์ที่จะได้รับในพุทธศาสนาก็มีมากเช่นกัน เป็นเรื่องเบาใจ เช่น มีความปล่อยวาง มีจิตสงบ มีปัญญา มีสมาธิ
- ต้องมีความคิดแบบม้าอาชาไนย ต่อให้ใครไม่ทำ เราก็จะทำ
- เมื่อรับภาระแล้ว ให้มุ่งที่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ก็จะมีกำลังใจในการปฏิบัติ
Q6: ความผิดพลาดในชีวิต
A: ถ้ามองแต่จุดที่ผิดพลาด ก็จะโฟกัสที่จุดนั้น สิ่งนั้นก็จะมีพลัง ทำให้กิเลสเพิ่มขึ้น (ราคะ โทสะ โมหะ เพิ่มขึ้น)
- แต่ถ้ามองข้อผิดพลาดนั้นว่า เป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง พัฒนาข้อผิดพลาดให้ดีขึ้น = เป็นสัมมาทิฏฐิ (ราคา โทสะ โมหะ เบาบางลง) เกิดสัมมาวายามะ (ความเพียร) เกิดความแน่วแน่จริง การลงมือทำจริง ข้อผิดพลาดนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้ดีขึ้นได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
78 Listeners
21 Listeners
5 Listeners
2 Listeners
2 Listeners
3 Listeners
2 Listeners
2 Listeners
9 Listeners
4 Listeners
6 Listeners
6 Listeners
2 Listeners
1 Listeners
4 Listeners
0 Listeners
0 Listeners
0 Listeners
2 Listeners