Sign up to save your podcastsEmail addressPasswordRegisterOrContinue with GoogleAlready have an account? Log in here.
เรื่องราวเทคโนโลยี ชีวิตความเป็นอยู่ที่ทันสมัยในไต้หวัน ติดตามได้ในรายการ ไต้หวัน Hi-Tech มีอะไรทันสมัยยิ่งกว่าแนะนำมาเลย ... more
FAQs about ไต้หวันไฮเทค:How many episodes does ไต้หวันไฮเทค have?The podcast currently has 355 episodes available.
March 05, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 5 มี.ค.2567Gogoro แย่งชิงตลาดรถราคาถูก เริ่มทบทวนว่ารถสองล้อที่เรียกว่า "อัจฉริยะ" มีประโยชน์อะไรบ้างต่อเจ้าของรถ Gogoro เปิดตัวรถใหม่ Gogoro Pulse เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วยราคาเกินกว่า 100,000 เหรียญไต้หวัน แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาแย่งตลาดรถราคาถูก เปิดตัว Gogoro JEGO เรียกได้ว่าเป็นรุ่นสืบทอดต่อจาก Gogoro VIVA เป็นการท้าทายการแย่งตลาดรถเดินทางระดับล่าง ซึ่งตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าป้ายสีเขียวเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่สุด ซีรีส์รถจักรยานยนต์ VIVA ของ Gogoro ได้รับความนิยมและพบเห็นได้มากบนท้องถนน พันธมิตร PBGN ก็มีรถป้ายสีเขียวของตนเองเช่นกัน คู่แข่งขันหลัก คือ คิมโค(KYMCO) ที่ออกรถ IONEX แม้ว่ารุ่นระดับไฮเอนด์จะแข่งกับ Gogoro ได้ยาก แต่ซีรีส์ iOne ในตลาดป้ายสีเขียวก็ได้รับการตอบรับอย่างดี บางทีอาจถูกกระตุ้นจากคู่แข่ง ทำให้ Gogoro JEGO ใช้รูปลักษณ์แบบเก่า และติดตั้งมอเตอร์ความเร็วสูงการบำรุงรักษาระดับต่ำ ระยะทางการบำรุงรักษาที่แนะนำอย่างเป็นทางการขยายออกไปเป็น 5,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังขยายพื้นที่วางเท้าและเพิ่มความจุช่องเก็บของเป็น 22.3 ลิตร น้ำหนักตัวรถ (ไม่รวมแบตเตอรี่ แบตเตอรี่แต่ละก้อนประมาณ 10 กก.) อยู่ที่ 77 กก. ความสูงของเบาะนั่ง 74.5 ซม. พร้อม SBS ดิสก์เบรกคู่หน้าและหลัง ตะขอ ที่วางแก้ว ก้านเหยียบ และอุปกรณ์อื่น ๆ ครบครัน จะเห็นได้ว่า Gogoro มุ่งมั่นที่จะยึดลูกค้าเดินทางด้วยจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อทำงาน อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากล่าวถึงก็คือ Gogoro JEGO น่าจะเป็นรถจักรยานยนต์อัจฉริยะคันแรก ที่ระบบอัจฉริยะน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยถอดเซ็นเซอร์ออกเกือบทั้งหมด เช่น อุณหภูมิ ความสว่าง การตรวจจับความเร่ง และแน่นอนว่า ไม่มีแบตเตอรี่ SSmartcore ส่วนควบคุม แกนหลักและฟังก์ชันอัจฉริยะอื่น ๆ (การกำหนดตำแหน่งระยะไกล กุญแจโทรศัพท์มือถือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ฯลฯ) และแม้แต่การ์ดปลดล็อคแบบเซ็นเซอร์ ก็ไม่มี JEGO กลับไปสู่แบบดั้งเดิมโดยใช้กุญแจจริงเพื่อสตาร์ทเซ็นทรัลล็อก เปิดและปิดเบาะรองนั่ง คงไม่อาจตำหนิว่าเป็นการถดถอยหรือการลดต้นทุนของ Gogoro แต่เป็นการสะท้อนความเป็นจริงภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด ก่อนที่ KYMCO Ionex จะประสบความสำเร็จในระดับเล็กน้อย Gogoro ยังไม่ตระหนักถึงความเป็นจริงของตลาด ที่ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ระดับเริ่มต้นจำนวนมากไม่สนใจเกี่ยวกับฟังก์ชันอัจฉริยะ สิ่งที่โหดร้ายกว่านั้นคือเจ้าของรถจำนวนมากไม่สนใจเกี่ยวกับปล่อยก๊าซไอเสียหรือเสียงรบกวนด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเขาสนใจคือราคารถ ค่าบำรุงรักษา และระยะทางที่วิ่งได้ การออกรถ JEGO ถือว่าเป็นการประนีประนอมต่อตลาด และเป็นสิ่งกระตุ้นให้ Gogoro จำเป็นต้องคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับคำถามสำคัญ รถสองล้อที่เรียกว่า "อัจฉริยะ" มีประโยชน์อะไรบ้างต่อเจ้าของรถ ...more15minPlay
February 27, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 27 ก.พ.2567 เหตุการณ์ "น้ำมันใจอำมหิต" ซึ่งมีการปลอมปนน้ำมันรีไซเคิลขายเข้าสู่ตลาดในไต้หวันเมื่อปี 2014 ทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม ส่งผลให้ "ความปลอดภัยด้านอาหาร" เป็นประเด็นสำคัญ กลายเป็นนโยบายหลักของพรรคการเมืองผู้บริโภคคือกุญแจสำคัญ ในการผลักดันกลไกตรวจสอบความปลอดภัยและคุณภาพสินค้าเกษตร กลไกการตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เกษตรในไต้หวันมีหน่วยงานหลัก 2 หน่วยงานที่รับผิดชอบในการแบ่งงาน อ้างอิงตามกฎหมายภายและระบบการบริหารของรัฐบาล ได้แก่ กระทรวงเกษตรบริหารจัดการความปลอดภัยของสารเคมีและยาที่ใช้ในการผลิตสินค้าเกษตรในฟาร์ม และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (TFDA) ของ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยอาหารวางที่วางจำหน่ายในท้องตลาด การแบ่งานดังกล่าวจากมุมมองของห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตรและอาหาร (ห่วงโซ่อาหารเกษตร) ขอบเขตสิทธิและความรับผิดชอบของหน่วยงานมีกฎระเบียบที่ชัดเจน แต่การปฏิบัติงาน อาจเกิดการเกี่ยงงาน ดังนั้น การบริหารจัดการความปลอดภัยอาหารที่แหล่งผลิตหรือแหล่งที่มา ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินการควบคุมความปลอดภัยของอาหารเทคนิคแมสสเปกโตรเมทรีตรวจสอบแบบเร็วในห้องปฏิบัติการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จุดตรวจสอบ และหาวิธีการแก้ปัญหา กฎหมายและข้อบังคับภายในไต้หวันมีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และนำมาตรฐาน HACCP (จุดควบคุมวิกฤตการวิเคราะห์อันตราย) และ ISO มาใช้ วัตถุประสงค์ของ HACCP คือเพื่อจัดการระบบระบบสำหรับการตรวจรับ การแปรรูป การผลิต การจัดเก็บ และการขนส่งวัตถุดิบอาหารเพื่อป้องกันและควบคุมอันตรายด้านความปลอดภัยของอาหาร มาตรฐาน ISO มีไว้สำหรับคุณภาพผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพการบริการ ระบบการจัดการ เทคโนโลยี การผลิต สิ่งแวดล้อม และอาชีวอนามัย ความปลอดภัย ยา ความสอดคล้อง ความปลอดภัยของอาหารและอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน HACCP หรือ ISO ก็ตาม สิ่งเหล่านี้คือการควบคุมและการจัดการจุดตรวจสอบภายนอก และยังถือเป็นมาตรฐานการตรวจสอบและรับรองสำหรับการส่งออกอาหารอีกด้วย สำหรับการจัดการแหล่งที่มาของสินค้าเกษตรที่แหล่งผลิต จุดสนใจหลักคือ "การตรวจสอบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง" ซึ่งอยู่ภายใต้เขตอำนาจของกระทรวงเกษตรผักออร์แกนิคใช้ประกอบอาหารกลางวันในโรงเรียน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์อาหารพิษ อาหารมีสารตกค้างยังเกิดขึ้นเนือง ๆ ไม่หมดสิ้น แม้กฎหมายบัญญัติไว้เข้มงวดและเพียงพอ แต่การบังคับใช้ของรัฐบาลไม่เข้มงวด กระทบต่อความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้าเกษตร นักวิชการในไต้หวันเสนอว่าการบรรลุเป้าหมายได้ จะต้องอาศัยความตื่นตัวของผู้บริโภคใส่ใจการการเลือกสินค้าเกษตรอย่างถูกวิธีด้วยเทคนิคแมสสเปกโตรเมทรีตรวจสอบแบบเร็ว...more3minPlay
February 20, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 20 ก.พ.2567ไต้หวันปรับปรุงห่วงโซ่ความเย็นส่งออกฝรั่งไปยังสหรัฐฯ แม้ต้องแช่เย็น 1°C เป็นเวลา 17 วัน แต่ฝรั่งยังมีความสด กรอบ รสชาติอร่อย การผลิตฝรั่งในไต้หวันมีปริมาณสม่ำเสมอ มีการปรับปรุงพันธุ์ต่อเนื่อง และพัฒนาเทคนิคการเพาะปลูก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พื้นที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตฝรั่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7,606 เฮกตาร์ และ 187,149 เมตริกตัน ตามลำดับ คำนวณอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 3% และ 2% ตามลำดับ บ่งชี้ว่าการผลิตฝรั่งในไต้หวันเติบโตต่อเนื่อง ผลผลิตฝรั่งในไต้หวัน ในปี 2022 แต่ละเดือนผลผลิตเฉลี่ย มากกว่า 3,000 เมตริกตัน ในช่วงที่ผลผลิตมากสูงถึง 5,000 เมตริกตัน จากการวิเคราะห์รูปแบบการซื้อขายฝรั่งในตลาดค้าส่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของราคาซื้อขายและปริมาณฝรั่งพันธุ์หลักไต้หวัน พบว่า พันธุ์ฝรั่งไต้หวันหลักคือ ไข่มุกขาว (เจินจูป๋า (珍珠拔) ) คิดเป็น 94 - 95% ราคาฝรั่งในไต้หวันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 29 เหรียญไต้หวันต่อกิโลกรัม และราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 56 เหรียญไต้หวันต่อกิโลกรัม ราคาฝรั่งที่แตกต่างกันเกือบ 2 เท่าได้กลายเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ผลิตต้องการส่งออก เพื่อให้มั่นใจถึงอุปทานและเสถียรภาพ ผู้ผลิตจะเลือกผลผลิตที่มีปริมาณมากในตลาดเพื่อการส่งออก เจินจูป๋าจึงเป็นตัวเลือกแรก เนื่องจากไม่สุกง่าย ฝรั่งเป็นไม้ผลเศรษฐกิจเมืองร้อนที่สำคัญของไต้หวัน มีความกรอบอร่อย อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ เส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลที่สามารถกำจัดไนไตรท์ในร่างกายป้องกันมะเร็ง ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคไต้หวันและมีศักยภาพในการส่งออกสูง ในปี 2009 กระทรวงเกษตรได้ยื่นขอให้สหรัฐอเมริกาเปิดตลาดนำเข้าสำหรับไต้หวัน หลังการพิจารณา 10 ปี กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ประกาศการอนุมัติในเดือนตุลาคม 2019 ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน มีการส่งออกไปสหรัฐฯ ครั้งแรก ถือเป็นก้าวสำคัญของการส่งออกฝรั่งของไต้หวันไปยังสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม คุณภาพฝรั่งที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาคุณภาพไม่เสถียร มักจะสุกนิ่มและผิวเปลือกไม่สวย ทำให้การส่งออกหยุดชะงัก ไต้หวันจึงได้ตรวจสอบสาเหตุและปรับปรุงห่วงโซ่ความเย็น เริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยวฝรั่งจากฟาร์มแล้ว จะต้องลดอุณหภูมิผลฝรั่งให้เย็นลงโดยเร็ว ผ่านการแช่น้ำเย็นและล้างให้สะอาดด้วยกรดไฮโปคลอรัสที่มีความเป็นกรดเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการบำบัดพื้นผิวหลังการเก็บเกี่ยวที่ไม่เป็นอัตรายต่อมนุษย์ การทำให้เย็นลงเบื้องต้นด้วยแช่น้ำเย็นแล้วล้างด้วยน้ำกรดไฮโปคลอรัสที่มีความเป็นกรดเล็กน้อยสามารถลดการเน่าเสียการจัดเก็บและการขนส่ง ฝ่าฟันอุปสรรคมาก ประสบความสำเร็จในการส่งไปตลาดต่างประเทศได้อย่างราบรื่น...more15minPlay
February 13, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 13 ก.พ.2567เครื่องแรก! ไต้หวันพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ด้วยเทคโนโลยีของตนเอง สภาวิจัยแห่งชาติของไต้หวันจัดประชุม "รายงานความคืบหน้าของศูนย์พิเศษควอนตัมคอมพิวเตอร์" เมื่อปลายเดือน มกราคม 2024 มีผลสำเร็จเบื้องต้นในการสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์เต็มระบบตัวนำยิ่งยวด 5 บิตที่พัฒนาขึ้นเองเครื่องแรกของไต้หวัน ปธน. ไช่อิวเหวินของไต้หวันไปร่วมประชุมกล่าวว่า สภาวิจัยแห่งชาติ เสนอแนวคิดนี้มาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยชี้ว่าควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรุ่นต่อไปของโลก การเปิดตัวในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมของไต้หวันและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สำคัญของไต้หวัน ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเข้ารหัสการสื่อสารควอนตัมสามารถเสริมความปลอดภัยของข้อมูลซึ่งเป็นความมั่นคงของชาติด้วยและจะมีผลสำคัญต่อ AI, การเงิน, ชีวการแพทย์ และสาขาอื่น ๆ ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว มหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua) ได้พัฒนาเครือข่ายการสื่อสารที่เข้ารหัสด้วยควอนตัม และ ในเดือนตุลาคมปีที่แล้วสภาวิจัยแห่งชาติได้สร้างชิปควอนตัม ใน การสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์เครื่องแรกถือเป็นความก้าวหน้าที่โดดเด่นมาก...more16minPlay
February 06, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 6 ก.พ.2567ไต้หวันควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตรเข้มงวด ใช้เทคนิกแมสสเปกโตรเมทรีการตรวจสอบแบบเร็วสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไต้หวัน รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2024 ว่า กรณีของไก่ดำที่ผลิตในไต้หวันมีสารตกค้างยาปฏิชีวนะเกินกำหนด กระทรวงเกษตรกล่าวว่าได้ให้คำแนะนำในการปรับปรุง และจะติดตามตรวจสอบต่อไป แนะนำให้ผู้บริโภคที่ชอบไก่ดำ เลือกซื้อผลิตภัณท์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร (CAS) ในอนาคตเมื่อมีการประกาศรับรองการตรวจสอบแบบเร็ว เทคนิคแมสสเปกโตรเมทรี จะเป็นประโชน์ต่อการตรวจสอบความคุมคุณภาพสินค้า ปัจจุบัน เทคนิคแมสสเปกโตรเมทรีสามารถใช้ได้กับการตรวจสอบสารกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างในผักและผลไม้ ซึ่งสามารถตรวจสอบรู้ผลทันได้ทันที แต่การทดสอบสารตกค้างในผลิตภัณฑ์สัตว์ต้องใช้เวลา 1 – 2 สัปดาห์การทดสอบสารตกค้างใน 1 วิธีที่ผ่านการประกาศรับรองแล้ว สามารถตรวจสอบสารกำจัดศัตรูพืชได้ 410 ชนิด ขณะที่การทดสอบสารตกค้างในผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์และสัตว์น้ำ เนื่องจากคุณสมบัติยาสัตว์มีความหลากหลาย ต้องใช้วิธีทดสอบทั้งหมด 17 วิธีซึ่งซับซ้อนกว่า สถาบันวิจัยสารเคมีเกษตรของไต้หวันพัฒนาวิธีการเฉพาะ ใช้เทคนิคแมสสเปกโตรเมทรี เพื่อตรวจสอบสารเคมียาในสัตว์อย่างรวดเร็ว รวม 17 วิธี อยู่ใน 2 วิธี และใช้การตีความข้อมูลด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อตรวจสอบยาสัตว์ 170 ชนิด การตรวจนม ไข่ ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์และสัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ สามารถตรวจสอบรายงานผลได้ภายใน 20 ถึง 25 นาที สถาบันวิจัยสารเคมีเกษตร ขยายต่อยอดการใช้เทคนิคแมสสเปกโตรเมทรี แต่เดิมใช้กับการตรวจสอบสารตกค้างในพืช ขณะนี้ได้พัฒนาเพื่อใช้ตรวจสอบสารตกค้างในสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว นำไปประยุกต์ใช้เพื่อควบคุมการใช้ยาในสัตว์ หรือการสกัดยาสำหรับสัตว์ มีการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน เยอรมนี สห ราชอาณาจักร และฝรั่งเศส จดสิทธิบัตรสำเร็จแล้วในไต้หวัน ญี่ปุ่น และ สหรัฐฯ รวม 3 ประเทศ เทคนิคแมสสเปกโตรเมทรีนี้ได้ยื่นเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไต้หวัน (FDA, Taiwan) เพื่อการประกาศรับรอง สถาบันวิจัยสารเคมีเกษตรหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำมาใช้ในการตรวจสอบการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบควบคุมการผลิตของตนเอง...more15minPlay
January 30, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 30 ม.ค.2567ยานยนต์ไฟฟ้าแพร่หลายมากขึ้น ในยุค EV 2.0 การชาร์จด้วยความเร็วสูงพิเศษกลายเป็นกุญแจสำคัญ ในอดีตรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาแพง วิ่งช้าเกินไป และวิ่งได้ระยะทางสั้นเพราะว่าความความจุแบตเตอรี่ต่ำ ปัจจุบัน ทางเทคโนโลยีก้าวหน้า รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่สามารถวิ่งต่อเนื่องได้เกินกว่า 300 กิโลเมตร ราคาต่ำลง มีรุ่นที่ราคาต่ำกว่าล้านบาทให้เลือกหลากหลาย สมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าเหนือกว่ารถแข่งซะด้วยซ้ำ ในช่วง 130 ปีที่ผ่านมาถือเป็นยุค EV 1.0 ก็ว่าได้ ขณะนี้ได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังแพร่หลายอย่างกว้างขวาง มุ่งสู่ยุค EV 2.0 แล้ว ปริมาณการขายรถยนต์ไฟฟ้าในไต้หวันมีสัดส่วนเกิน 5% ในปี 2023 และคาดว่าจะเกิน 10% ในปี 2024 ตามภาวะเช่นนี้ ในปี 2030 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงถึง 250,000 คัน และจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าสะสมรวมทั้งหมดจะถึง 1 ล้านคัน ซึ่งหมายความว่าจะมีความต้องการไฟฟ้า 3 พันล้านหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี ขนาดตลาดบริการชาร์จคาดว่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน หากรถยนต์ทั้งหมดในไต้หวันล้วนเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว ขนาดตลาดบริการชาร์จไฟจะสูงถึง 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ถ้านับรวมอุปกรณ์ชาร์จมูลค่าจะสูงถึง 400,000 ล้านเหรียญไต้หวัน. ในยุค EV 2.0 ที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมในตลาด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยลดเวลาชาร์จจาก 40 นาที หรือ 1 ชั่วโมง อาจสั้นลงเหลือ 20 นาที หรือในอนาคตอาจลดลงเหลือ 5 นาที ภายใต้แนวโน้มนี้ผู้ให้บริการชาร์จจะต้องให้บริการที่มีมาตรฐานสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพื่อตอบสนองการชาร์จเร็วพิเศษ การสร้างสถานีชาร์จจะต้องรองรับมาตรฐานได้ตั้งแต่ต้น เช่น การติดตั้งเครื่องชาร์จกำลังไฟสูงพิเศษ 360kW และใช้สายไฟกระบอกชาร์จที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวราคาตัวละ 15,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับกระแสไฟขนาดใหญ่พิเศษสูงถึง 500 แอมป์ และการตั้งค่าข้อมูลจำเพาะที่สูงเป็นพิเศษภายใต้ข้อกำหนดที่ปลอดภัย เพื่อตอบสนองการใช้พลังงานสูงและกระแสไฟสูงสำหรับการชาร์จเร็วพิเศษ...more15minPlay
January 23, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 23 ม.ค.2567 การอุดหนุนโดยเทศบาลเมืองในไต้หวัน สำหรับส่งเสริมการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 จนถึงวันที่ 16 มกราคม มีการประกาศการให้เงินอุดหนุนแล้วหลายเมือง ล่าสุด วันที่ 16 มกราคม นครเถาหยวน ประกาศให้เงินอุดหนุนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าประจำปี 2024 เพิ่มสำหรับกลุ่มหนุ่มสาว 18-45 ปี, กลุ่มคุณแม่ที่ต้องดูแลบุตรอายุ 0-12 ปี รวมทั้งกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เข้าเงื่อนไข สูงสุด 40,000 เหรียญไต้หวัน ส่วนนครนิวไทเป ให้เงินอุดหนุนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 19,000 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ ยังมีเมืองเจียอี้ นครไถหนาน นครเกาสง ผิงตง ก็มีโครงการอุดหนุนซื้อจักรยานยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน เงินอุดหนุนที่ช่วยกระตุ้นการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ อุดหนุนไม่เกิน 7,000 เหรียญไต้หวันต่อคันโดยกรมอุตสาหกรรม กระทรวงเศรษฐการ และเงินจูงใจเลิกใช้รถเก่า 2,800 เหรียญไต้หวันจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม ทั้งสองส่วนนี้ได้มีการประกาศแล้ว ส่วนที่สาม เป็นเงินอุดหนุนจากสำนักสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น สถิติในปี 2023 การจดทะเบียนป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ใหม่มีจำนวนเกิน 870,000 คัน เพิ่มขึ้น 18% ต่อปี นับเป็นสถิติสูงสุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยทั่วไปผู้ผลิตรถยนต์เชื่อว่าการการขยายตัวจะไม่มากเท่ากับปีที่แล้ว คาดว่ายอดขายในปี 2024 จะลดลงมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ผู้ผลิตรายใหญ่เชื่อว่ายอดขายทั้งปีจะลดลงเหลือ 750,000 คัน แต่คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายังเติบโตได้อีก...more15minPlay
January 16, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 16 ม.ค.2567 การใช้พลังงานลมนอกชายฝั่งของไต้หวันกำลังเติบโตไล่ตามกระแสโลก ตามสถิติของกระทรวงเศรษฐการ แม้ว่าในปี 2023 ที่ผ่านมามีการสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งเกือบ 100 ตัว แต่จำนวนกังหันลมสะสมมีมากถึง 283 ตัวแล้ว โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 2.25 GW จัดเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่มีพลังงานลมนอกชายฝั่งเกิน 2 GW อยู่ในอันดับที่ 7 รองจากประเทศ จีน อังกฤษ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และเบลเยียม กระทรวงเศรษฐการตั้งเป้าบรรลุเป้าหมาย 3 GW ในปี 2024 นี้ ไต้หวันเริ่มทุ่มเทความพยายามในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนตั้งแต่ปี 2016 พลังงานลมนอกชายฝั่งเป็นเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งและถือเป็นอุตสาหกรรมแขนงใหม่ มีการติดตั้งฟาร์มกังหันลมสาธิตเสร็จในปี 2019 ซึ่งต้องเผชิญกับความท้าทายจากโรคโควิด-19 ระบาดด้วย แต่สามารถติด 10 อันดับแรกจากการจัดอันดับการติดตั้งพลังงานลมนอกชายฝั่งทั่วโลกโดยสภาพลังงานลมโลก (GWEC) ตั้งแต่ติดตั้งฟาร์มกังหันลมสาธิตเสร็จในปี 2019 จากข้อมูลของ GWEC ระบุว่าการส่งเสริมพลังงานลมนอกชายฝั่งในหลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดตั้งแต่ปี 2019 รวมทั้งอังกฤษ เยอรมนี จีน สเปน อิตาลี และประเทศในยุโรปล้วนเกิดผลกระทบ ปัจจุบันยังมีผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆ เช่น สงครามยูเครน-รัสเซีย อีกด้วย สำหรับไต้หวันต้องเผชิญความท้าทายมากกว่า กล่าวคือบางช่วงมีลมแรงและฝนตกหนัก ในแต่ละปีจึงมีระยะเวลาก่อสร้างที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยเพียง 6-7 เดือน กระทรวงพลังงานแถลงว่า ไต้ฝุ่นหลายลูกถล่มเข้าไต้หวันเมื่อ ปี2023 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง แต่ผู้รับเหมาก่อสร้างพยายามเร่งก่อสร้างในจังหวะที่สภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยจึงทำให้เกิดผลสำเร็จบรรลุเป้าหมายได้ จากสถิติของกรมพลังงาน ปีที่แล้วเพียงปีเดียว มีการติดตั้งกังหันลมแล้วเสร็จ 837 เมกะวัตต์ โดยมีกังหันลมประมาณ 95 ตัว โดยรวมแล้วไต้หวันติดตั้งกังหันลมเสร็จแล้วสะสม 283 ตัว มีปริมาณ 2.25 GW บรรลุเป้าหมายการติดตั้งพลังงานลมนอกชายฝั่งซึ่งตั้งเป้าหมายระหว่าง 2.03 – 2.43 GW...more15minPlay
January 09, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 9 ม.ค.2567 ขั้นตอนการฟักไข่เป็ดผัก(เป็ดพันธุ์ Tsaiya-菜鴨種)ใช้เวลาประมาณ 28 วัน ตามปกติในวันที่ 5 ถึง วันที่ 10 ของระยะฟักตัว และก่อนส่งไข่เข้า "เครื่องฟัก" (เครื่องฟักไข่ เครื่องกะเทาะ) ผู้เลี้ยงเป็ดจะส่องไข่โดยใช้ตามอง มีการตรวจสอบ 2 ครั้งเพื่อยืนยันว่าไข่มีการปฏิสนธิแล้วและยังไม่ตาย อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบด้วยตามองใช้เวลานานและต้องใช้แรงงานมากมักมีข้อผิดพลาดที่เกิดจากความเมื่อยล้าของดวงตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สถาบันวิจัยปศุสัตว์ไต้หวัน กระทรวงเกษตร(Taiwan Livestock Research Institute, MOA) ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัย จงซิง พัฒนาระบบการส่องดูไข่ที่ประหยัดเวลาและแรงงานได้มากกว่า 80% การวิเคราะห์ด้วย AI Deep Learning อัตราความแม่นยำเกิน 98% และการพัฒนาเทคโนโลยีเสร็จสิ้นแล้วในปี 2023ผู้เลี้ยงเป็ดจะใช้ไฟส่องไข่(ในภาพเป็นไข่ที่ไม่ผ่านการปฏิสนธิ) โดยทั่วไปไข่เป็ดฟักจะอยู่ในตู้ฟักเป็นเวลา 25 วัน จากนั้นจึงย้ายเข้าเครื่องกระตุ้นการกะเทาะเปลือกเป็นเวลา 3 วัน ในการใช้แสงเพื่อตรวจสอบว่าไข่ได้รับการปฏิสนธิระหว่างวันที่ 5 ถึง 10 เป็นการตรวจสภาพการฟักไข่ ดูว่ามีหลอดเลือด เยื่อหุ้มตัวอ่อน ถุงไข่แดง (Yolk Sac) และการพัฒนาเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในไข่หรือไม่ โดยพวกเขาจะตรวจสอบอีกครั้ง ด้วยแสงไฟระหว่างวันที่ 14 ถึง 18 เพื่อยืนยันว่าตัวอ่อนยังคงเติบโตต่อไป แต่ว่า หลังจากฟักตัว 12 วัน เปลือกไข่จะมีความโปร่งใสน้อยลงและสังเกตได้ยาก ผู้เลี้ยงเป็ดจะต้องใช้ตามองแนบใกล้เปลือกไข่ และสัมผัสความร้อนเปลือกไข่ เพื่อดูการเจริญเติบโตของตัวอ่อนวิเคราะห์ภาพไข่แบบอัจฉริยะ เพื่อคัดไข่ที่ไม่ได้ปฏิสนธิและไข่ที่หยุดโต ปกติตู้ฟักขนาดทั่วไปมีรองรับไข่ได้เกือบ 10,000 ฟอง ใช้เวลาประมาณ 66 นาทีจึงจะตรวจดูเสร็จสิ้น ซึ่งใช้เวลานานและดวงตาเมื่อยล้า สถาบันวิจัยปศุสัตว์ไต้หวันผสมผสานการวิเคราะห์ภาพจากการฉายแสงและการตรวจจับอุณหภูมิพื้นผิวของไข่ พัฒนาเป็นระบบฉายแสงตรวจเพื่อวิเคราะห์ภาพไข่แบบอัจฉริยะ ถ่ายภาพไข่ในถาดฟักเพียงครั้งเดียว วิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อคัดแยกไข่ที่ไม่ได้ปฏิสนธิและไข่ที่มีการหยุดการเจริญเติบโตTLRI พัฒนาระบบอัจฉริยะตรวจสอบการปฏิสนธิไข่เป็ด เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยปศุสัตว์แถลงว่า เทคโนโลยีนี้ใช้ไฟ LED สีเหลืองเพื่อฉายภาพออพติคัล กำหนดความยาวคลื่นของแหล่งกำเนิดแสงที่เหมาะสมที่สุด วิธีรวมแสงและตำแหน่งการถ่ายภาพที่เหมาะสม ทำให้ได้ภาพสำหรับการวิเคราะห์และตีความ จัดทำฐานข้อมูลภาพเพื่อฝึกฝน AI Deep Learning ในการตรวจสอบและคัดแยกไข่ที่ไม่ปฏิสนธิ หรือไข่ที่ยุติการเติบโต ในแต่ละถาดฟักไข่ ( 192 ฟอง) ใช้เวลาเพียง 12 วินาที ช่วยลดกำลังคนและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบอย่างมาก มีการทยอยจัดทำฐานฐานข้อมูลภาพไข่ไก่แล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับฟาร์มเลี้ยงไก่ได้ในอนาคตอีกด้วย...more15minPlay
January 02, 2024ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 2 ม.ค.2567 ไต้หวันกำลังมุ่งเน้นการยกระดับการแพทย์สู่ระบบดิจิทัล เซวียรุ่ยหยวน (薛瑞元) รมว. กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มจากศูนย์การแพทย์ก่อน จากนั้นขยายไปสู่โรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งเขาได้ร่วมประชุม "การศึกษาและแนวโน้มการประยุกต์ใช้บัตรประกันสุขภาพเสมือนจริง" ซึ่งจัดโดยสำนักงานประกันสุขภาพกลาง กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการในวันที่ 19 ธันวาคม 2023 เขากล่าวว่าบัตรประกันสุขภาพเสมือนจริง เริ่มทดลองใช้เข้ารับการรักษาพยาบาล ดำเนินการนำร่องตั้งแต่ปี 2019 ขณะนี้ทั่วไต้หวัน กว่า 650,000 คนถือบัตรประกันสุขภาพเสมือนจริงแล้ว ในอนาคต ไม่เพียงแต่ในเขตเมืองเท่านั้น จะครอบคลุมถึงพื้นที่ชนบท เกาะห่างไกล และพื้นที่ที่มีการคมนาคมไม่สะดวก ช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการรักษาพยาบาล เซวียรุ่ยหยวนกล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่การแพทย์ระบบดิจิทัลของไต้หวัน คาดหวังบรรลุเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ การประหยัดกำลังคนในโรงพยาบาล การปรับปรุงคุณภาพทางการแพทย์ และเพิ่มความสะดวกในการรักษาพยาบาลสำหรับประชาชน ปัญหาที่มักพบเมื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล คือโรงพยาบาลต้องเพิ่มการลงทุนหากไม่เห็นผลภายในระยะรวดเร็ว โรงพยาบาลจะลังเลในการปรับเปลี่ยน ส่งผลให้การพัฒนาเข้าสู่ระบบดิจิทัลล่าช้า เซวียรุ่นหยวนยังกล่าวด้วยว่าเขาเคยไปดูงานโรงพยาบาลท้องถิ่นในจีน พบว่าบางพื้นที่มีความก้าวหน้าในด้านดิจิทัลมากกว่าในไต้หวัน จุดเด่นคือใช้ระบบดิจิทัลในการชำระเงิน การลงทะเบียน การคำนวณราคา เป็นต้น แต่เมื่อเดินเข้าไปในพื้นที่ผู้ป่วยนอก ยังคงมีผู้ป่วยรอหมอล้นพื้นที่ ดังนั้น การแพทย์แบบดิจิทัลของไต้หวันจะไม่ได้จำกัดในวงแคบ เรามุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพการรักษาพยาบาลโดยรอบด้าน เริ่มจากศูนย์การแพทย์ก่อน จากนั้นขยายไปยังโรงพยาบาลด้วย จะกำหนดการประเมินผลโรงพยาบาลเพิ่มหัวข้อ การแพทย์แบบดิจิทัล โรงพยาบาลที่จัดหาติดตั้งอุปกรณ์ดิจิทัล และกำหนด SOP เพื่อลดภาระงานของเจ้าหน้าที่พยาบาลสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ จะได้รับการลดเงื่อนไขข้อกำหนด "อัตราส่วนพยาบาลต่อผู้ป่วยใน 3 ช่วงเวลาที่เข้าเวร" ได้...more15minPlay
FAQs about ไต้หวันไฮเทค:How many episodes does ไต้หวันไฮเทค have?The podcast currently has 355 episodes available.