
Sign up to save your podcasts
Or
“มนุษย์ปรารถนาความไม่มีศัตรู ปรารถนาความเจริญรุ่งเรือง ปรารถนาความไม่จองเวร ปรารถนาความไม่มีโทษ ต่างก็รักสุข ต่างก็เกลียดทุกข์ แต่ทำไมยังมีคนจองเวรกัน มีศัตรูกัน ให้โทษกัน เบียดเบียนกันหาความทุกข์ให้กัน นำความสุขออกไปจากกันได้” พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบแก่ท้าวสักกะไว้ว่า “เพราะมีความริษยาและมีความตระหนี่”
“อยู่ยาก ๆ เพราะกระแสมันแรง” ที่พูด ๆ กันอยู่ นี้เป็นเพราะกระแสของตัณหาที่มันซัดสาดถาโถม บีบคั้นรึงรัด ประเด็นในเอพิโสดนี้ จึงกล่าวถึงว่า ถ้าได้มาปฏิบัติในแนวทางธรรมะแล้ว จะหาความสุข จะแต่งหน้าทำสวย หรือจะทำงาน มีการลงทุนให้ได้ผลงอกเงยได้หรือไม่ และการปฏิบัติตนให้เสมอเช่นผ้าขี้ริ้ว
คนเรามีสองตา ตาที่ 1 คือ เห็นช่องทางที่จะทำให้เกิดทรัพย์ ส่วนตาที่ 2 คือ ตาที่เห็นสิ่งที่เป็นกุศลเป็นอกุศล เห็นธรรมที่มีโทษไม่มีโทษ ถ้าลำพังมีแค่ตาเดียว หรือตาบอด อาจกะระยะผิดพลาดได้ ดังนั้นควรให้มีตาทั้งสองข้าง หรืออย่างน้อยก็ให้มีตาที่ 2 คือ อย่าผิดศีล ด้วยความโลภ ด้วยความอยาก ด้วยความเพ่งเล็งเอาทรัพย์ ความตระหนี่ ความห่วงกั้น ความจับอกจับใจ ความสงบมัวเมาในความยินดี ความปลงใจรัก เหล่านี้จะทำให้พลาดได้ จะไม่เป็นไปตามทางธรรมะ
มีตาที่ 1 ตาที่ 2 แล้ว จะเห็นช่องทางที่จะรักษาจิต เห็นช่องทางที่จะให้ปฏิบัติได้ อยู่เหนือความพอใจความไม่พอใจ มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ปฏิบัติอย่างดี เหนือสุขเหนือทุกข์ ทำจิตให้เหมาะสม มีทั้งกรุณา อุเบกขา เมตตา ด้วยจิตใจที่เข้ากันดีเหมือนทองคำที่นุ่มนวล เป็นจิตใจที่เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง สามารถอดทนต่อสิ่งที่มากระทบได้ ถ้าเราใส่ส่วนผสมให้ถูก เอาฆ้อนไปตีทองคำบริสุทธิ์ มันจะนุ่มไปตามแรงที่มากระทบ ไม่ขาดไม่แตก อยู่ได้ กระแสแรงอย่างไร มันก็อยู่ได้ เพราะว่า “ไม่มีใครที่จะทำร้ายทำลายคนที่มีธรรมะคุ้มครองได้เลย”
แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists: สมการชีวิต S02E38 , คลังพระสูตร S09E38
#2029-1u0240
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
5
22 ratings
“มนุษย์ปรารถนาความไม่มีศัตรู ปรารถนาความเจริญรุ่งเรือง ปรารถนาความไม่จองเวร ปรารถนาความไม่มีโทษ ต่างก็รักสุข ต่างก็เกลียดทุกข์ แต่ทำไมยังมีคนจองเวรกัน มีศัตรูกัน ให้โทษกัน เบียดเบียนกันหาความทุกข์ให้กัน นำความสุขออกไปจากกันได้” พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบแก่ท้าวสักกะไว้ว่า “เพราะมีความริษยาและมีความตระหนี่”
“อยู่ยาก ๆ เพราะกระแสมันแรง” ที่พูด ๆ กันอยู่ นี้เป็นเพราะกระแสของตัณหาที่มันซัดสาดถาโถม บีบคั้นรึงรัด ประเด็นในเอพิโสดนี้ จึงกล่าวถึงว่า ถ้าได้มาปฏิบัติในแนวทางธรรมะแล้ว จะหาความสุข จะแต่งหน้าทำสวย หรือจะทำงาน มีการลงทุนให้ได้ผลงอกเงยได้หรือไม่ และการปฏิบัติตนให้เสมอเช่นผ้าขี้ริ้ว
คนเรามีสองตา ตาที่ 1 คือ เห็นช่องทางที่จะทำให้เกิดทรัพย์ ส่วนตาที่ 2 คือ ตาที่เห็นสิ่งที่เป็นกุศลเป็นอกุศล เห็นธรรมที่มีโทษไม่มีโทษ ถ้าลำพังมีแค่ตาเดียว หรือตาบอด อาจกะระยะผิดพลาดได้ ดังนั้นควรให้มีตาทั้งสองข้าง หรืออย่างน้อยก็ให้มีตาที่ 2 คือ อย่าผิดศีล ด้วยความโลภ ด้วยความอยาก ด้วยความเพ่งเล็งเอาทรัพย์ ความตระหนี่ ความห่วงกั้น ความจับอกจับใจ ความสงบมัวเมาในความยินดี ความปลงใจรัก เหล่านี้จะทำให้พลาดได้ จะไม่เป็นไปตามทางธรรมะ
มีตาที่ 1 ตาที่ 2 แล้ว จะเห็นช่องทางที่จะรักษาจิต เห็นช่องทางที่จะให้ปฏิบัติได้ อยู่เหนือความพอใจความไม่พอใจ มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ปฏิบัติอย่างดี เหนือสุขเหนือทุกข์ ทำจิตให้เหมาะสม มีทั้งกรุณา อุเบกขา เมตตา ด้วยจิตใจที่เข้ากันดีเหมือนทองคำที่นุ่มนวล เป็นจิตใจที่เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง สามารถอดทนต่อสิ่งที่มากระทบได้ ถ้าเราใส่ส่วนผสมให้ถูก เอาฆ้อนไปตีทองคำบริสุทธิ์ มันจะนุ่มไปตามแรงที่มากระทบ ไม่ขาดไม่แตก อยู่ได้ กระแสแรงอย่างไร มันก็อยู่ได้ เพราะว่า “ไม่มีใครที่จะทำร้ายทำลายคนที่มีธรรมะคุ้มครองได้เลย”
แนะนำรับฟังเพิ่มเติมได้ที่ Playlists: สมการชีวิต S02E38 , คลังพระสูตร S09E38
#2029-1u0240
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
75 Listeners
20 Listeners
5 Listeners
2 Listeners
3 Listeners
3 Listeners
2 Listeners
2 Listeners
9 Listeners
4 Listeners
8 Listeners
6 Listeners
2 Listeners
1 Listeners
5 Listeners
0 Listeners
0 Listeners
0 Listeners
3 Listeners