ในช่วงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แคมเปญโซเชียลมีเดียได้ถูกสร้างขึ้นในประเทศไทยที่รณรงค์ให้ใช้แฮชแท็ก #CambodiaOpenedFire เพื่อเน้นย้ำว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน แคมเปญนี้ซึ่งได้แรงหนุนจากกองทัพไทยและชาวเน็ตชาวไทยพยายามกำหนดกรอบเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ความขัดแย้งล่าสุด แต่จากมุมมองระหว่างประเทศ วิธีการนี้มีแนวโน้มที่จะไม่เกิดผลและอาจเป็นการทำลายโอกาสในการสร้างความชอบธรรม นี่คือเหตุผลว่าเพราะอะไร1. ข้อกล่าวหาซึ่งกันและกันในการพิพาทพื้นที่เป็นเรื่องปกติและพิสูจน์ได้ยากในความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายมักจะอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ก่อการร้ายด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์และการเมือง ซึ่งมักขาดหลักฐานอิสระชัดเจนที่พิสูจน์ได้ว่าใครเริ่มก่อนฝ่ายสังเกตการณ์และประเทศต่างๆ มักจะพยายามรักษาความเป็นกลางและเสถียรภาพในภูมิภาค จึงหลีกเลี่ยงไม่ออกแถลงการณ์ที่ชี้ชัดว่า “ใครยิงก่อน”มุมมองที่เป็นกลางเช่นนี้ทำให้แฮชแท็ก #CambodiaOpenedFire ได้รับการยอมรับในเวทีโลกน้อยและมีผลกระทบจำกัด2. ข้อจำกัดของเนื้อหา “ใครยิงก่อน”การเน้นเรื่อง “ใครยิงก่อน” ในแคมเปญโซเชียลทำให้ความขัดแย้งที่ซับซ้อนและโศกนาฏกรรมกลายเป็นการกล่าวโทษง่ายๆ ที่ทำให้เรื่องประเด็นสำคัญจริงๆ ถูกเบี่ยงเบนไป นั่นคือการโจมตีที่มีเจตนาทำร้ายพลเรือนโดยตรง3. มีหลักฐานชัดเจนของอาชญากรรมสงครามที่ต้องส่งเสียงให้ดังขึ้นในทางตรงกันข้าม มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือจากสำนักข่าวระหว่างประเทศและแหล่งข้อมูลหลายแห่งยืนยันว่า กองทัพกัมพูชา ภายใต้คำสั่งของนายกรัฐมนตรีฮุน เซ็น ได้ยิงจรวดอย่างไม่เลือกเป้าหมายโจมตีพื้นที่ชุมชนพลเรือนของไทย เช่นบ้านเรือนโรงพยาบาลศูนย์อพยพการโจมตีเหล่านี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตพลเรือนอย่างน้อย 12 คน รวมทั้งเด็กชั้นประถม 2 คน นี่ไม่ใช่แค่การยิงก่อนในข้อพิพาทชายแดน แต่นี่คือการกระทำที่อาจถือเป็น อาชญากรรมสงคราม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น อนุสัญญาเจนีวาและอนุบัญญัติของศาลอาญาระหว่างประเทศที่ห้ามโจมตีพลเรือนโดยเจตนา4. เปลี่ยนแคมเปญสู่การเรียกร้องความรับผิดชอบแคมเปญโซเชียลของไทยจะได้ผลมากขึ้นในเวทีโลกถ้าหันไปเน้นการเปิดโปงการละเมิดกฎหมายสงครามร้ายแรงและบทบาทของฮุน เซ็น แทนที่จะมุ่งเน้นเพียงการชี้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน การใช้แฮชแท็กเช่น#HunSenisaWarCriminal#CambodiaWarCrimeจะช่วยชี้ให้เห็นความร้ายแรงของการโจมตี เป็นการเรียกร้องความรับผิดชอบทางกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สำคัญมากกว่าการโต้เถียงเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองเพียงอย่างเดียว5. เหตุผลที่เรื่องนี้สำคัญในเวทีโลกชุมชนระหว่างประเทศ — รวมทั้งสหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชน และรัฐบาลต่างประเทศ — ตอบสนองต่อข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงครามและการสูญเสียพลเรือนมากกว่าการโต้เถียงว่าใครเป็นฝ่ายผิดการเน้นการโจมตีโดยเจตนาในพื้นที่พลเรือนสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศในการคุ้มครองมนุษยชาติและสามารถสร้างแรงกดดันให้มีการสอบสวนและดำเนินคดีได้กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ไทยยืนอยู่บนฐานข้อเท็จจริงที่ชัดเจน มีน้ำหนักทางมนุษยธรรม มากกว่าการเข้าสู่สงครามข้อมูลข่าวสารซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นข้อพิพาทระหว่างฝ่ายสองฝ่ายสรุปแม้ว่าแฮชแท็ก #CambodiaOpenedFire จะสะท้อนความรู้สึกโกรธแค้นและความต้องการได้รับความชอบธรรมของคนไทย แต่ก็มีโอกาสจำกัดในเวทีสากล และไม่ช่วยส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมหรือความรับผิดชอบอย่างแท้จริง แคมเปญโซเชียลของไทยควรเน้นว่า ฮุน เซ็นสั่งการกระทำที่อาจเป็นอาชญากรรมสงคราม และช่วยดึงสายตาชาวโลกมาสู่ความทุกข์ยากของพลเรือน เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีและความยุติธรรมอย่างแท้จริง โดยใช้แฮชแท็กทรงพลัง เช่น #HunSenisaWarCriminal และ #CambodiaWarCrime เพื่อสร้างแรงผลักดันในเวทีโลก
The Neural Narratives Podcast is an experimental podcast harnessing the power of LLM