"จุดแรกที่เราจะลงมือภาวนา ใจต้องสู้ ใจต้องห้าวหาญ ตรงที่ใจเรากล้าหาญ เรียกว่าเรามีสัมมาวายามะ หรือความเพียรชอบ ความเพียรไม่ใช่แปลว่าขยัน ความเพียรมาจากคำว่า "วีระ" กล้าหาญ เพราะฉะนั้นสัมมาวายามะ ก็จะต้องมีความเพียรชอบ คือมีใจที่กล้าหาญที่จะต่อสู้กับกิเลส กล้าหาญที่จะพัฒนากุศลที่มีอยู่ พัฒนากุศลให้งอกงามออกไป ฉะนั้นถ้าเริ่มต้นใจอ่อนแอ ท้อแท้ ป้อแป้ ไม่ได้กินหรอก ฉะนั้นเวลาเรียนกับหลวงพ่อ ใครมา โอ๊ย โอดครวญ หนูไม่ดีเลย หนูเป็นอย่างนั้น หนูเป็นอย่างนี้ หนูท้อแท้ โอ๊ย ฟังแล้วอยากเบิ๊ดกระโหลก ฉะนั้นเรียนธรรมะกับหลวงพ่อ อย่าอ่อนแอ สนามรบอันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นสนามรบที่เราจะสู้กับมาร สู้กับกิเลส เพื่อจะข้ามวัฏฏะให้ได้ ฉะนั้นถ้าเราอ่อนแอ เราก็แพ้มารตลอด เพราะฉะนั้นไปปลุกใจตัวเองให้มันองอาจกล้าหาญ เมื่อก่อนหลวงพ่อเวลาภาวนาแล้วมันท้อแท้ มันเหนื่อยหน่าย ก็คิดถึงครูบาอาจารย์ ก่อนที่ท่านจะมาเป็นครูบาอาจารย์ของคน ของเทวดาได้ ท่านก็เป็นคนอย่างเรานี่ล่ะ มี 2 มือ 2 เท้าเหมือนกัน ท่านทำได้เราก็ต้องทำได้ ต้องตามท่านไปให้ได้ ดูท่านเป็น Idol เมื่อก่อนท่านก็มีกิเลส เมื่อก่อนท่านก็ล้มลุกคลุกคลาน ท่านผ่านมาได้ด้วยความอดทน ด้วยวีระ ด้วยความเพียร กล้าหาญ ท่านทำได้ เราเดินตามหลังท่านก็ต้องทำได้ แล้วมาได้ง่ายกว่าท่านอีก อย่างพระพุทธเจ้าถือเป็นสุดยอดเลย เพราะท่านทำความเพียรจนกระทั่ง ท่านบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณได้ ไม่มีใครสอนท่าน เราได้เปรียบท่านเยอะเลย เราได้เรียนธรรมะที่ท่านสอนเอาไว้ ที่พระสาวกสอนเอาไว้ ที่ครูบาอาจารย์ที่ดีๆ สอนเอาไว้" หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 18 ตุลาคม 2568