ในช่วงเวลาที่เรากำลังมีความทุกข์มาก ทำสมาธิก็ฟุ้งซ่านมาก จะวนเวียนคิดแต่เรื่องที่ทำให้ทุกข์ ทำอย่างไรจึงจะทำให้จิตใจกลับมาเบิกบาน มีความสุขได้อีกครั้ง?
ถ้าจิตเป็นทุกข์แล้ว แล้วคิดจะทำสมาธิเพื่อจะได้ลืมความทุกข์ เพื่อจะพ้นทุกข์ชั่วคราว แต่ก็จะเป็นความคิดที่นำไปสู่ความคับข้องใจพอสมควร เพราะมองสมาธิเป็นผลที่เราต้องการ ก็กลายเป็นการปฏิบัติด้วยตัณหา
ถ้าเราสังเกตเห็นว่าความคิดปรุงแต่ง ความฟุ้งซ่านต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จิตใจเราทุกข์เหลือเกิน เราก็ใช้เครื่องมือ ใช้ข้อวัตรปฏิบัติของพระพุทธเจ้าก็ค่อยๆ ขัดเกลา ซึ่งการทำความเพียรเพื่อปล่อยวาง อันนี้ตัวนี้ที่เป็นตัวบุญ ตัวกำไร ก็ไม่ต้องเอาผล คือความสงบเป็นหลัก เอาการทำความเพียร ถ้าเราทำความเพียรความพยายามอย่างต่อเนื่อง เราจะค่อยๆ ได้ผล
แต่ถ้าจิตฟุ้งซ่านวุ่นวาย ไม่อยากให้ฟุ้งซ่านวุ่นวาย อยากให้มันสงบอยากให้มันเป็นอย่างใจ อันนี้ความคิดอย่างนั้นไม่ใช่ทางออกจากปัญหา แล้วเป็นสิ่งที่จะทำให้ปัญหาเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำไป แต่เมื่อเราดูเหตุปัจจัยของความทุกข์ความเดือดร้อน คิดว่าเดี๋ยวนี้เราทำอะไรได้ ที่จะทำให้มันลดน้อยลง ควรจะทำอย่างไร
ความเบิกบานใจมันก็จะเกิดขึ้นได้ มันก็แล้วแต่กรณีแล้วแต่บุคคล อย่างเช่น มันเป็นปัญหาเกิดเพราะอะไร เกิดเพราะการกระทำของตัวเอง หรือเกิดเพราะการกระทำของคนอื่น มันเป็นปัญหาเรื่องทางศีลธรรม เป็นปัญหาอย่างไร ถ้าไม่มีรายละเอียดเราก็ตอบในรายละเอียดไม่ได้
แต่ขอให้ทราบว่าการทำสติ การฝึกสติ ก็เป็นการปฏิบัติที่ดีที่สุด เพราะจิตที่ขาดสติมีทางเลือกน้อย จิตที่ตั้งสติมีทางเลือกมาก การที่จะรู้เท่าทัน ที่จะจับประเด็น ที่จะเริ่มแก้ไขทุกอย่าง มีเงื่อนไขสำคัญก็คือการตั้งสติ ก็ไม่ต้องเอาถึงสมาธิหรอก เอาการฝึกสติ ให้การตั้งสติเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็ลุก ในที่สุดแล้วก็จะได้พ้นจากปัญหา
พระอาจารย์ชยสาโร