เรื่องนี้พระจอมไตรเมื่อมีพระชนม์อยู่ก็สอนอย่างนั้น ถึงแม้จะเสด็จดับขันธ์
ปรินิพพานไปแล้ว ก็โอวาทของพระองค์ก็ยังทรงปรากฏอยู่ ว่า
อุกาส โย ปน ภิกฺขุ ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน
วิหรติ สามีจิปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี
โส ตถาคตํ สกฺกโรติ ครุกโรติ มาเนติ ปูเชติ ปรมาย ปูชาย ปฏิปตฺติปูชาย
ว่า เราขอโอกาส ภิกษุผู้ศึกษาในธรรมวินัยรูปใด ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน
ปฏิบัติธรรมตามธรรม ปฏิบัติธรรมตามธรรมนั้น ได้แก่ใจหยุดอยู่กลางดวง
ธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ปฏิบัติธรรมตามธรรมนั้น ได้แก่ใจหยุดอยู่ กลาง
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์แล้ว ก็ให้เข้าถึง ดวงธรรมที่ทำให้เป็น
กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายทิพย์ละเอียด กายรูปพรหม
กายรูปพรหมละเอียด กายอรูปพรหม อรูปพรหมละเอียด กายธรรม
กายธรรมละเอียด โสดา โสดาละเอียด สกทาคา สกทาคาละเอียด อนาคา
อนาคาละเอียด อรหัต อรหัตละเอียด ก็ปฏิบัติตามธรรมอย่างนี้
ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน ปฏิบัติตามธรรมอย่างนี้
สามีจิปฏิปนฺโน ปฏิบัติชอบยิ่งให้ชอบหนักขึ้นไป ยิ่งหนักขึ้นไปไม่
ถอยกลับ เหมือนพระบรมศาสดาดังนั้น ให้เป็นตัวอย่างดังนั้น
อนุธมฺมจารี ประพฤติธรรมไม่ขาดสาย
อนุธมฺมจารี ประพฤติตามธรรมไม่ให้หลีกเลี่ยง ไม่ให้หลีกเลี่ยงจาก
ธรรมไปได้ ให้ตรงศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายตลอดไป นี่เรียกว่า
อนุธมฺมจารี โส ภิกฺขุ ผู้ศึกษาในธรรมวินัยนั้น สกฺกโรติ ได้ชื่อว่า สักการะ
ครุกโรติได้ชื่อว่าเคารพ มาเนติได้ชื่อว่า นับถือ ปูเชติได้ชื่อว่าบูชา ตถาคตํ ซึ่ง
เราผู้ตถาคต ปรมาย ปูชาย ปฏิปตฺติปูชาย ด้วยปฏิบัติบูชาเป็นอย่างยิ่ง นี่
ประสงค์อย่างนี้ ให้ได้จริงอย่างนี้