เรียนอยู่กับหลวงปู่ดูลย์ แล้วก็ทำญาณเห็นจิตให้เหมือนตาเห็นรูป ญาณแปลว่าปัญญา เราจะเห็นจิตใจของตัวเองด้วยปัญญา เหมือนที่ตาเห็นรูป ตาเห็นรูปเป็นอย่างไร มีตา มีรูป มีแสงสว่างมากพอ จะจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม ตาก็มองเห็นถ้าตาไม่บอด คือมีอะไรเกิดขึ้นในจิตใจเรา จิตใจเราเป็นอย่างไร รู้ว่าเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องไปแต่งมัน ไม่ต้องไปดัดแปลงมัน รู้ซื่อๆ เข้าไปเลย ใจเรามีราคะก็รู้ ใจไม่มีราคะก็รู้ ใจมีโทสะก็รู้ ไม่มีโทสะก็รู้ ใจมีโมหะก็รู้ ไม่มีโมหะก็รู้ ใจฟุ้งซ่านก็รู้ ใจหดหู่ก็รู้ รู้ไปเรื่อยๆ ใจสงบก็รู้ ใจได้อุปจารสมาธิก็รู้ ใจเป็นมหรคตก็รู้ ใจเป็นอัปปนาสมาธิก็รู้ รู้ไปเรื่อยๆ รู้เท่าที่มันเป็น ไม่ต้องแสวงหา เหมือนกับเรานั่งหลับตาอยู่ พอลืมตาขึ้นมาเห็นรูป เราไม่ได้เลือกว่าจะเป็นรูปอะไร รูปนั้นจะดีหรือรูปจะไม่ดี ไม่สำคัญ เวลาเราดูจิตก็ดูเหมือนที่ตาเห็นรูปนั่นล่ะ คือมีอะไรปรากฏขึ้นที่จิตก็รู้ไปอย่างที่มันเป็น ท่านมีคำหนึ่งว่า จงทำญาณเห็นจิต เห็นไหม ให้เห็นด้วยญาณ ญาณคือปัญญาๆ ปัญญาเห็นอะไร เห็นไตรลักษณ์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 มิถุนายน 2568