แรงงานต่างชาติในไต้หวันทะลุ 8 แสน แต่ยังขาดแรงงาน นักวิชาการแนะใช้ เอไอและระบบอัตโนมัติมาแก้ปัญหา
จนถึงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ไต้หวันมีแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเกินกว่า 8 แสนคนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นแรงงานในภาคการผลิตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีนักวิชาการเห็นว่า แรงงานต่างชาติได้กลายเป็นแรงงานเสริมในไต้หวันอย่างเป็นปกติเป็นธรรมดาไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลควรที่จะอาศัยนโยบายแรงงานต่างชาติมาส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปฏิรูปการผลิตของตนให้เข้าสู่การผลิตแบบเอไอและอัตโนมัติ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เป็นอยู่
ไต้หวันเริ่มนำเข้าแรงงานต่างชาติมาตั้งแต่ปี 1989 รุ่นแรกมาจากอาเซียน หลังจากที่ระยะเวลาผ่านไปนานกว่า 30 ปี แรงงานต่างชาติในไต้หวันเพิ่มขึ้นเป็นเกินกว่า 8 แสนคนแล้ว เมื่อสิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา แสดงบทบาทเป็นส่นหนึ่งในบ่วงโซ่แห่งการพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในโรงงาน หรือผู้ช่วยผู้อนุบาลในโรงพยาบาล จะได้เห็นแรงงานต่างชาติมีส่วนร่วมในงานต่าง ๆ เหล่านี้
เมื่อพิจารณาจากสถิติของกระทรวงแรงงานไต้หวันแล้ว จะพบว่า จนถึงสิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีแรงงานต่างชาติในไต้หวันทั้งสิ้น 805,976 คน โดยทำงานในภาคการผลิต ก่อสร้างและการประมง ปศุสัตว์ รวม 559,937 คน ส่วนแรงงานในภาคสวัสดิการสังคมก็มีมากถึง 240,039 คน
โดยปัจจุบัน แรงงานต่างชาติในไต้หวันมาจากไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เป็นแรงงานอินโดนีเซียมากที่สุดถึง 296,756 คน มีแรงงานเวียดนามตามมาติด ๆ 278,624 คน อันดับ 3 ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 157,916 คน ไทย 72,678 คน
นอกจากนี้ หากแบ่งตามประเภทสาขาอาชีพ จะพบว่า แรงงานต่างชาติในไต้หวันทำงานในอาชีพภาคการผลิตมากที่สุด 503,717 คน รองลงมาได้แก่ภาคการก่อสร้าง 31,962 คน ภาคเกษตร ประมงและปศุสัตว์ 21,347 คน
ส่วนภาคสวัสดิการสังคม แบ่งเป็นผู้อนุบาลในครัวเรือน 224,725 คน รองลงมาเป็นผู้อนุบาลในองค์กร 19,143 คน ในขณะที่ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยแม่บ้านเพียง 2,171 คน
สถิติของกระทรวงแรงงานไต้หวันพบว่า เมื่อปี 2014 มีจำนวนเพียง 534,081 คน เท่านั้น หหลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นลำดับจนถึงปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็นปรับตัวขึ้น-ลง 7 แสนคน พอถึง ก.พ. 2020 จำนวนแรงงานต่างชาติในไต้หวันก็พุ่งถึงจุดสูงสุดเป็น 719,487 คน แต่หลังจากนั้นเนื่องจากโควิด ทำให้ในช่วงระบาดของโควิดกระทบต่อการจ้างแรงงานต่างชาติของไต้หวัน เพราะมีการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวด
สถิติระบุว่า ในขณะนั้น จำนวนแรงงานต่างชาติในไต้หวันทะลุหลัก 7 แสนคน แต่ก็ลดลงเหลือ 6.6 แสนคน ซึ่งกระทรวงแรงงานวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ทำให้แรงงานต่างชาติในไต้หวันลดลงมาจากการที่แรงงานต่างชาติออกจากไต้หวันมากกว่าจำนวนที่นำเข้ามาใหม่ ตอนนั้น ต้องการที่จะให้แรงงานต่างชาติทำงานต่อในไต้หวัน รัฐบาลจึงได้ออกหนังสือถึงนายจ้างไต้หวันให้ยื่นขอต่อายุการทำงานในไต้หวันให้แก่แรงงานต่างชาติ อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเดียวกันก่อนหน้านี้ จำนวนแรงงานต่างชาติก็เพิ่มขึ้นถึง 2.7 แสนคน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้อยู่ในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 2 แสนคน รองลงมาได้แก่แรงงานต่างชาติในครัวเรือน 29,724 คน ภาคการก่อสร้าง 28,975 คน
รองศาสตราจารย์ซิงปิ่งหลง สถาบันบัณฑิตศึกษาว่าด้วยการพัฒนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันแรงงานต่างชาติได้กลายเป็นแรงงานเสริมส่วนที่ขาดแคลนในไต้หวัน ซึ่งมีเพียงต้องใช้มาตรการจำกัดการว่าจ้างแรงงานต่างชาติในส่วนของภาคการผลิตเท่านั้น จึงจะสามารถจำกัดจำนวนแรงงานต่างชาติมิให้เพิ่มขึ้นได้ โดยการนำระบบอัตโนมัติและ AI เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมภาคการผลิตให้มากขึ้น
ห้องโถงในสถานีรถไฟไทเป ศูนย์รวมแรงงานอินโดนีเซียในวันหยุดสุดสัปดาห์
ยักษ์ใหญ่ AI ระดับโลก เตรียมเปิดตัวลงทุนในไทย
Bloomberg รายงานว่า บริษัท NVIDIA ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกด้าน Graphics Processing Unit (GPU) ได้ประกาศขยายการลงทุนในไทย เพื่อลดการพึ่งพาจีนให้มากขึ้น และพัฒนาเทคโนโลยี AI รายงานข่าวระบุว่า นายหวงเหยินซวิน (Jensen Jen-hsun Huang) ประธานบริษัท NVIDIA มีกำหนดการเยือนไทย ในช่วงเดือน ธ.ค. ปีนี้ เพื่อประกาศแผนการลงทุนในไทยอย่างเป็นรูปธรรมด้วยตนเอง
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า การลงทุนของบริษัท NVIDIA ในไทยในช่วงนี้ เป็นช่วงสำคัญที่ไทยกำลังพยายามไล่ตามให้ทันคู่แข่งในภูมิภาคอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์
ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า นาย Jen-hsun Huang ประธานบริษัท NVIDIA เคยติดตามครอบครัวไปพำนักอาศัยในประเทศไทยเมื่อายุได้เพียง 5 ขวบ และถูกส่งไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ เมื่ออายุได้ 9 ขวบ จึงกล่าวได้ว่า นายหวงเหยินซวิน มีความผูกพันกับไทยในระดับที่แน่นอน
มูลค่าการลงทุนที่ทุนต่างชาติลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลและ PCB โดยสถิติของ BOI ระบุว่า มูลค่าการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รวม 722,500 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายหวงเหยินซวิน ประธาน NVIDIA
GDP ไต้หวันปีนี้โต 3.96% ปีหน้า 3.03%
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจจงหัว ไต้หวัน คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP ของไต้หวันในปีนี้จะอยู่ทีร้อยละ 3.96 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เมื่อคราวที่แล้วที่ 0.15% ที่คาดไว้ที่ 3.81% ส่วนปีหน้าจะอยู่ที่ 3.03% แม้จะต่ำกว่าปีนี้แต่ก็ยังคงสามารถรักษาให้อยู่ในระดับ 3% ขึ้นไป
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจจงหัวระบุว่า ภายใต้แรงขับเคลื่อนทั้งอุสงค์ภายในและการค้าต่างประเทศ ทำให้รูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้อยู่ในลักษณะเพิ่มอุณหภูมิภายในและภายนอก คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 3.96% เพิ่มขึ้น 0.15% จากการคาดการณ์เมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมาที่คาดไว้ที่ 3.81%
คุณเหลียนเสียนหมิง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจจงหัว เปิดเผยว่า แม้ปีนี้จะยังไม่ทะลุ 4% ก็ตาม แต่ก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่เลวนัก ที่สำคัญมาจากการพัฒนาอุตสาหกรรม AI ที่ส่งผลต่อการส่งออกและการลงทุนให้เพิ่มขึ้น และยังทำให้อุปสงค์ภายในเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย โดยระบุว่า “อุปสงค์ภายในของไต้หวันส่งผลให้ GDP มีการเติบโตอย่างน้อย 1.5% ส่วนการลงทุน 0.77% การส่งออก 0.89% ด้วยเหตุนี้ ทำให้อิทธิพลของ AI ที่มีต่อไต้หวัน ส่งผลในแง่บวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไต้หวัน