กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา อ้ายสามตัวนี่แหละสำคัญนัก ไป
เห็นหมด เห็นรูปพรรณสัณฐาน ฌานก็เห็น เห็นกามตัณหาก็เห็น
กามตัณหาทั้ง ๑๑ ชั้นนี่เห็น
ภวตัณหาทั้ง ๑๖ ชั้น นั่นก็เห็น
วิภวตัณหาทั้ง ๔ ชั้นน่ะเห็นหมด เห็นปรากฏทีเดียว
เอ นี่จะทำอย่างไร ต้องละอ้ายพวกนี้ ต้องละกามตัณหา ภวตัณหา
วิภวตัณหานี้
ถ้าละไม่ได้ละก็ หลุดพ้นไปไม่ได้ละก็ทุกข์อยู่นี่ ไม่พ้นจากทุกข์แน่
นอนทีเดียว แน่นอนในใจของตัวทีเดียว
เข้าสมาบัติดูอีก ตรวจทบไปทวนมาดูอีก ดูหนักเข้าหนักเข้า หนัก
เข้า เห็นชัดหมดทุกสิ่งทุกประการแล้ว ในกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ดูไปดูมา อ้อ..เราต้องละกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหานี่
ถ้าว่าไม่ละกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา นี่ให้ขาดเสียละก็ เรา
จะต้องมีชาติ ไม่จบไม่แล้ว จะต้องทุกข์ไม่จบไม่แล้ว จะต้องหน้าดำคร่ำ
เครียดไม่จบไม่แล้ว จะต้องลำบากยากแค้นไม่จบไม่แล้ว
เมื่อคิดดังนี้เข้าใจดังนี้แล้ว ตาธรรมกายก็มองเห็นแจ่ม เราต้องละ
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ละอย่างไร
วิธีจะละ ละอย่างไรนะ เออ..วิธีจะละ ละท่าไหนกันนะ เห็นทางที
เดียวว่า อ้อ พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ไปทางนี้
ที่เราเดินมาทางศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ ใน
กายมนุษย์ มาถึงกายมนุษย์ละเอียด
ในกายทิพย์ มาถึงกายทิพย์ละเอียด
ในกายรูปพรหม มาถึงกายรูปพรหมละเอียด
ในกายอรูปพรหม มาถึงกายอรูปพรหมละเอียด
จนกระทั่งมาถึงกายธรรม ธรรมกายละเอียด นี้เราต้องเดินในช่อง
ทางของศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ นี่เอง ใจต้องหยุด ต้อง
หยุดทีเดียวจึงจะละ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาได้
เริ่มต้นต้องหยุดเชียว พอหยุดกึกเข้าก็ได้การทีเดียว อ้อ พอหยุดกึก
เข้า กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาดับหมด ถ้าว่าไม่หยุดละก็เป็นไม่ได้การ
ทีเดียว ไปไม่รอดไม่พ้นทีเดียว
หยุดอะไรละ ใจหยุดสิ หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย
มนุษย์นั่นแหละ
พอถูกส่วนเข้าก็เห็นดวงศีล หยุดอยู่กลางดวงศีลนั่นแหละ หยุดกลาง
ของกลาง กลางของหยุด กลางที่หยุดนั่นแหละ เข้าถึงดวงสมาธิ
หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงสมาธิ กลางของกลางที่หยุดนั่นแหละ ก็เข้าถึง
ดวงปัญญา
หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงปัญญา กลางของกลางที่หยุดนั่นแหละ เข้าถึง
ดวงวิมุตติ
หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงวิมุตติ พอหยุดแล้วก็กลางของกลางที่หยุดนั่น
แหละ เข้าถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะ
พอเข้าถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะแล้ว หยุดอยู่ศูนย์กลางของใจที่
หยุดนั่นแหละ กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง หนักเข้าก็เห็น
กายพระโสดา เข้าถึงกายพระโสดา อ้อ พอเข้าถึงกายพระโสดาก็รู้จักเชียว นี่
พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ไปทางนี้ ไม่ใช่ไปทางอื่นเลย แต่
พอเข้าถึงกายพระโสดาละเอียด ทำแบบเดียวกันอย่างนั้น หยุดอย่าง
เดียวกันนั่นแหละ หยุดอย่างนั้นแหละ
พอหยุดเข้ารูปนั้นจริง ๆ เข้าถึงกายพระสกทาคา สกทาคาละเอียด
อนาคา อนาคาละเอียด ก็รู้รสชาติของใจทีเดียว
พอเข้าถึงพระอรหัต พระอรหัตละเอียด เข้าแล้วหลุดหมด
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ทุกฺขํ ปสฺมคามินํ อย่างนี้เอง ถึง
พระนิพพานเป็นที่ดับแห่งทุกข์ พอถึงพระอรหัตก็เห็นนิพพานแจ่ม เข้านิพพานไป
ได้ทีเดียว
นี้ไปอย่างนี้ ไปจริง ๆ อย่างนี้